คมนาคม-ขนส่งไฟเขียวแท็กซี่ปรับค่าโดยสารไม่เกิน 15 ต.ค.นี้

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – คมนาคมเจรจากลุ่มแท็กซี่ ก่อนไฟเขียวปรับค่าโดยสารไม่เกิน 15 ต.ค. ปรับขึ้น กม.1-10 อีก 50 สต. พร้อมไฟเขียวแท็กซี่สุวรรณภูมิปรับค่าเซอร์ชาร์จจาก 50 บาท เป็น 70 บาท และค่ายกกระเป๋าสัมภาระใบที่ 3 เป็นต้นไป เก็บใบละ 20 บาท


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยผู้บริหารกรมการขนส่งทางบก หารือผู้ประกอบการแท็กซี่และแท็กซี่สุวรรณภูมิ เพื่อพิจารณาข้อเรียกร้องของผู้ประกอบการ โดยก่อนหน้านี้กระทรวงคมนาคมรับเรื่องและให้กรมการขนส่งทางบกทำรายละเอียด 1 เดือน  โดยผู้ประกอบการสรุปข้อเรียกร้องเหลือ 4 ข้อ คือ ขอปรับขึ้นค่าโดยสาร เพื่อลดภาระการขอยกเลิกใช้แท็กซี่ OK ที่มีการเก็บค่าใช้ระบบจากผู้ขับรายเดือนคนละ 350 บาท การขอขยายอายุจดทะเบียน จาก 9 ปี เป็น 12 ปี รวมทั้งขอขึ้นค่าเซอร์ชาร์จและค่าขนสัมภาระของแท็กซี่ที่วิ่งให้บริการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า หลังหารือได้ข้อสรุปทั้ง 2 ฝ่าย ที่ผู้ประกอบการแท็กซี่และกรมการขนส่งทางบกที่ทำข้อมูลมา โดยในส่วนค่าโดยสารที่เก็บตามมิเตอร์นั้น ค่าโดยสารเริ่มต้นปัจจุบันเก็บ 35 บาท ขอเป็น 40 บาทนั้น ส่วนนี้จะยังคงไว้ที่ 35 บาท แต่จะอนุมัติให้ปรับขึ้นสำหรับค่าโดยสาร กม.ที่ 1-10 จาก กม.ละ 6 บาท เป็น 6.50 บาท ส่วนค่าโดยสารที่เก็บตามมิเตอร์ตั้งแต่ กม.ที่ 10-20, 20-40, 40-60, 60-80 และ 80 กม.ขึ้นไปยังคงเก็บอัตราเดิม นอกจากนี้ ยังอนุมัติให้ปรับราคาในส่วนของมิเตอร์ ที่คำนวณค่าโดยสารในช่วงที่รถเจอสภาพการจราจรติดขัด ใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 6 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในส่วนนี้ให้ปรับขึ้นค่าโดยสารจากกิโลเมตรละ 2 บาทเป็น 3 บาทด้วย


ส่วนค่าเซอร์ชาร์จแท็กซี่สุวรรณภูมินั้น จะอนุมัติให้ปรับจาก 50 เป็น 70 บาท และค่าขนกระเป๋าสัมภาระก็จะอนุมัติให้เก็บใบละ 20 บาท ความกว้าง 26 นิ้วขึ้นไป ตั้งแต่ใบที่ 3 

ทั้งนี้ การปรับราคาค่าโดยสารดังกล่าวจะมีผลภายในระเวลา 1 เดือน ซึ่งเป็นกรอบเวลาที่ผู้ประกอบการแท็กซี่ได้ยื่นข้อเรียกร้องขอให้ภาครัฐ โดยกรมการจนส่งทางบกพัฒนาแอปพลิเคชั่นใหม่ทดแทนแท็กซี่ OK ซึ่งผู้ประกอบการขับรถระบุว่าต้องเสียค่าดำเนินการเข้าสู่ระบบกว่า 30,000 บาท และต้องจ่ายเดือนละ 350 บาทต่อคันด้วย ซึ่งเรื่องนี้นายศักดิ์สยาม ได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางบกทำการพัฒนาแอปฯ ภายใน 1 เดือน หรืออย่างช้าไม่เกิน 15 ตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นกรอบเวลาที่จะอนุมัติให้ผู้ขับแท็กซี่ปรับราคาตามข้อเรียกร้องที่ตกลงร่วมกันวันนี้ด้วย

รมว.คมนาคม ยังระบุด้วยว่าสำหรับแท็กซี่ OK จะให้มีการยกเลิกและผู้ประกอบการเสียค่าการใช้ระบบ 350 บาทต่อคันเป็นเดือนสุดท้าย หลังจากนั้นจะไม่มีการเก็บอีก โดยขอให้ผู้ประกอบการขับรถไปใช้แอปฯ ตัวใหม่แทน


นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่กระทรวงคมนาคมอนุมัติให้แก่ผู้ประกอบการกรณีแท็กซี่ VIP ที่ผ่านมา กรมการขนส่งทางบกออกกฎหมายบังคับให้ผู้ที่จะให้บริการจะต้องทำการจดทะเบียนในนามนิติบุคคลเท่านั้น แต่วันนี้จะอนุมัติให้บุคคลธรรมดาสามารถจดทะเบียน เพื่อให้บริการแท็กซี่ VIP ได้ เพียงแต่ต้องพัฒนามาตรฐานรถที่จะนำมาใช้จดทะเบียนตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ รวมถึงประเด็นผู้ประกอบการขอยืดอายุการใช้งานรถแท็กซี่ในระบบจาก 9 ปี เป็น 12 ปี กระทรวงคมนาคมอนุมัติให้ โดยมีเงื่อนไขว่า หลังจากนี้การตรวจสภาพแท็กซี่ที่ให้บริการจะเข้มข้นตั้งแต่ปีแรก โดยรถคันใดไม่ผ่านแม้จะจดทะเบียนปีแรกก็ต้องออกจากระบบ

ส่วนกรณีข้อเรียกร้องที่ผู้ประกอบการขอให้ดำเนินคดีกับบริษัทแกร็บนั้น กรมการขนส่งทางบกนำหลักฐานให้แท็กซี่ทราบว่าเคยมีการแจ้งดำเนินคดีกับบริษัทในข้อหาเชิญชวนให้ผู้ที่ไม่ได้จดทะเบียนรถสาธารณะมาวิ่งให้บริการรถแท็กซี่ ซึ่งการดำเนินคดีดังกล่าวได้ปรับไปแล้ว 4,000 บาท เป็นโทษปรับที่กฎหมายกำหนดเพียงเท่านี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แนวป้องกันน้ำท่วมฝีมือทหารช่าง ลดความรุนแรงน้ำท่วม

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำจากลำน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สายที่เชียงรายลดลงแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้จำนวนมากและทำให้ชาวแม่สายอย่างน้อย 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากแนวป้องกันน้ำท่วมยาวเกือบ 4 กิโลเมตร จากฝีมือของทหารช่าง.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนาม ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 29 ก.ค.-เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนามรอบปราสาทตาเหมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จากเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ในหลายพื้นที่ รวมทั้งบริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่มีการปะทะรุนแรง และก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามยั่วยุในลักษณะต่างๆ เช่น การขึ้นมาร้องเพลง และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 2 ก็เชิญชวนให้คนไทยมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม โดยยืนยันว่าเป็นพื้นที่อธิปไตยไทย และได้รับความสนใจจากประชาชนจากทั่วสารทิศ ทั้งนี้ บริเวณปราสาทตาเมือนธม ถือเป็นพื้นที่แรกๆ ที่เกิดเหตุปะทะ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ด้วยเหตุว่ากัมพูชาพยายามจะเข้ามายึดพื้นที่ปราสาท ซึ่งเป็นจุดสูงได้เปรียบในเชิงจุดยุทธศาสตร์ ก่อนจะเกิดเหตุปะทะในหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 และนำมาสู่การเจรจาหยุดยิงโดยรัฐบาล 2 ประเทศ เมื่อวานนี้ จนกระทั่งมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างฝ่ายทหารในพื้นที่ 2 ประเทศในวันนี้ และทำให้เสียงปืนสงบลง.-313.-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์หลังข้อตกลงหยุดยิง หลายพื้นที่ยังปะทะเดือด

29 ก.ค.- ย้อนดูไทม์ไลน์ เหตุปะทะในหลายพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทันทีที่ข้อตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข ถูกกำหนดในเวลาเที่ยงคืน สมรภูมิสำคัญตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม เดือดถึงขีดสุด เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการแย่งชิงพื้นที่ ยิ่ง 30 นาทีสุดท้ายก่อนเดดไลน์ ทหารหน่วยรบพิเศษของไทย เข้าปะทะ “กองกำลัง BHQ” ที่เสริมกำลังเข้ามาอย่างดุเดือด ก่อนที่ไทยจะยึดประสาทตาควายไว้ได้ก่อนถึงเส้นตายหยุดยิง แต่ปรากฏว่าเสียงปืนและระเบิด สงบลงหลังเส้นตายหยุดยิงเพียงไม่นาน ตลอดทั้งคืน ไทยยังถูกกัมพูชา ยิงยั่วยุ ยาวจนถึงเช้า ภาพนี้ทหารไทยได้ถ่ายเวลาจากนาฬิกา ในเวลา 06.29 น. ขณะได้ยินเสียงปืนใหญ่ที่ฝั่งกัมพูชาระดมยิงใส่ฝั่งไทยไว้เป็นหลักฐานว่า กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พันเอกริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษก ทบ. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ กองกำลังสุรนารี ว่าหลังจากมีการหยุดยิง ในเวลา 00.00 น. แล้ว พบว่าในพื้นที่ภูมะเขือ ถูกก่อกวน โดยฝ่ายทหารกัมพูชา มีการยิงปะทะตอบโต้จากทั้งสองฝ่ายจนถึงเช้า พื้นที่ซำแต มีการยิงปะทะกันเกิดขึ้น จนถึงเวลา 05.30 น. เนื่องจากทหารกัมพูชาไม่ยอมหยุด […]

ทหารม้าคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา ในพื้นที่ซำแต หลังยอมจำนน

ศรีสะเกษ 29 ก.ค.-ทบ. เผยคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา หลังทหารม้า เข้ากวาดล้างที่มั่นเขมร พื้นที่ซำแต จ.ศรีสะเกษ หลังยอมจำนน จนท.ปลดอาวุธ ยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลเคร่งครัด ก่อนจะดำเนินการตามกระบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป วันนี้ (29 กรกฎาคม 2568) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานผลการควบคุมตัวทหารกัมพูชา จำนวน 18 นาย สืบเนื่องจากเหตุการณ์ปะทะในพื้นที่ ซำแต อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังที่ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธหนักและอาวุธวิถีโค้ง ยิงเข้ามาในเขตพื้นที่ของไทย ฝ่ายไทยจึงได้ใช้ หน่วยทหารม้าเฉพาะกิจเข้าทำการตอบโต้และกวาดล้างที่มั่นของฝ่ายกัมพูชา จากการปฏิบัติดังกล่าว พบมีทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่งยอมจำนนโดยไม่มีท่าทีหรือลักษณะจะคุกคามฝ่ายไทย ทางหน่วยจึงดำเนินการปลดอาวุธและควบคุมตัวตามขั้นตอน โดยยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลอย่างเคร่งครัด มีจำนวน 18 นาย ชั้นยศ ร้อยตรี 1 นาย, จ่าสิบโท 2 นาย, สิบเอก 12 นาย, สิบโท […]