กทม.24ก.ค.-ผอ.สำนักสิ่งแวดล้อม กทม. ยืนยันโรงงานเตาเผาขยะโปร่งใส คุณสมบัติไม่เอื้อ ไม่ฮั้วให้เอกชนแน่นอน
นายชาตรี วัฒนเขจร ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร ชี้แจงโครงการเตาเผาขยะเตาเผาวันละ 1,000 ตัน ที่หนองแขม และอ่อนนุช ที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาการประกวดราคาจากผู้รับเหมาโครงการ โดยจะมอบหมายให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการทั้งการก่อสร้างและการบริหารจัดการขยะ ตามสัญญา 20 ปี เมื่อหมดสัญญาทรัพย์สินจะเป็นของกรุงเทพมหานคร โดยกรุงเทพมหานคร จะว่าจ้างให้เอกชนดำเนินการทำลายขยะด้วยวิธีการเผา ในราคาตันละไม่เกิน 900 บาท ซึ่งรวม 20 ปีตามสัญญา จะมีมูลค่าถึง 13,140 ล้านบาท
โดยระบุว่า โครงการเตาเผาขยะเป็นไปตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อย พ.ศ.2560 ตามมาตรา 34/1 การมอบหมายให้เอกชนมาดำเนินการทำกิจการแทนกรุงเทพมหานคร ไม่ใช่ กทม. จ้างเอกชนมาก่อสร้าง หรือซื้อโรงงานมาติดตั้ง แต่มอบหมายให้เอกชนลงทุน ตั้งแต่ก่อสร้าง การบริหารจัดหารขยะในระยะเวลากำหนด รวมถึงประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การจัดการมูลฝอย พ.ศ.2560 ซึ่งอ้างอิงมาจาก พ.ร.บ.ร่วมทุน โดย กทม.ไม่ได้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง แต่ดำเนินการกฎหมายฉบับใหม่ทั้ง 2 ฉบับ
ดังนั้น เอกชนจะต้องมีเทคโนโลยีประสบการณ์ และสถานะการเงินที่มั่นคง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับกทม.ว่าการดำเนินการจะไม่เกิดผลกระทบและสิ่งแวดล้อมต่อประชาชน เพราะบริเวณที่ตั้งอยู่ในเมือง ต้องมีผลงานต้องผ่านอีไอเอและมีผลงานเป็นประเภทเดียวกับผู้ที่ว่าจ้าง ต่อมากทม.ได้นำไปกำหนดในทีโออาร์ ซึ่งการกำหนดเงื่อนไขดังกล่าว จึงไม่ใช่เป็นการล็อกสเปก พร้อมชี้แจงไปทุกกรณีแล้วต่อผู้ร้องเรียน ว่าเป็นการดำเนินการตามกฎหมายใหม่ โดยยันยืนทุกรายยืนยันเข้ามาเป็นไปตามเงื่อนไขกำหนด
นายชาตรี กล่าวยืนยันอีกครั้งว่า โครงการไม่ได้เอื้อใคร แต่ที่ กทม.ต้องมีเตาเผยขยะเป็นของตัวเอง แทนการฝังกลบ เพราะขณะนี้ กทม.นำไปกำจัดในพื้นที่ต่างจังหวัด หากอนาคตปลายทางมีปัญหา จะส่งผลกระทบในการกำจัดขยะของ กทม. ซึ่งเป็นตามนโยบายยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ลดปัญหาขยะลง อีกทั้งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าฝังกลบ 4 เท่า โดยโครงการนี้เป็นแห่งแรกที่ได้ดำเนินการตามกฎหมายใหม่ พร้อม กทม.จะเป็นแบบอย่างและนำร่องให้กับจังหวัดอื่นต่อไป.-สำนักข่าวไทย