สร.รฟท.ร้อง!!! รมว.คมนาคมใหม่ตรวจฝ่ายบริหารรับพนักงานไม่เป็นธรรม

กรุงเทพฯ 17 ก.ค. – ของร้อนประเดิมงานแรก!!! สร.รฟท.ยื่นขอความเป็นธรรมจากรัฐมนตรีคมนาคมใหม่ 3 ข้อ แสดงจุดยืนคัดค้านแนวทางสรรหาพนักงานใหม่ของผู้บริหารรับคนนอกร้อยละ 60 ทำลูกจ้าง นักเรียนรถไฟ ที่ตั้งใจทำงานฝันค้าง


นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) เปิดเผยว่า สร.รฟท.ขอแสดงจุดยืนในการคัดค้านแนวทางการสรรหา เพื่อบรรจุพนักงานปี 2562 ของผู้บริหารที่มีมติสรรหาเพื่อบรรจุพนักงานปี 2562 จำนวน  1,330 อัตรา เพื่อไม่ให้เป็นภาระด้านงบประมาณ  พร้อมกับมีการกำหนดสัดส่วนการสรรหาพนักงานจากกลุ่มบุคคลภายนอก มากถึงอัตราร้อยละ 60 กลุ่มลูกจ้างเฉพาะงานในอัตราร้อยละ 20 และกลุ่มนักเรียนโรงเรียนวิศวกรรมรถไฟ (วรฟ.) ในอัตราร้อยละ 20 และมีการดำเนินการขอยกเว้นการปฏิบัติตามระเบียบการรถไฟฯ ฉบับที่ 132 ว่าด้วยการสอบคัดเลือกบุคคลเข้าทำงานใน รฟท. 

เนื่องจาก สร.รฟท. รวมถึงพนักงาน ซึ่งมีคุณวุฒิและคุณสมบัติสามารถเติบโตขึ้นตามสายงานกว่า 8,000 คน และลูกจ้างกว่า 3,830 คน ส่วนใหญ่ทำงานแทนในตำแหน่งของพนักงานประจำที่ขาดแคลน เห็นว่าแนวทางดังกล่าวไม่เป็นไปตามข้อตกลงที่ สร.รฟท.เสนอไว้ในเรื่องการขอเพิ่มอัตรากำลังพนักงานและไม่เป็นธรรมต่อลูกจ้างที่เสียสละอุทิศตัวทั้งแรงกาย แรงใจทำงานมาเป็นเวลานาน โดยหวังว่าเมื่อมีการอนุมัติเพิ่มกรอบอัตรากำลังจะได้รับโอกาสในการสรรหาเพื่อบรรจุเป็นพนักงานในลำดับแรก เนื่องจากทำงานมานานมีประสบการณ์และความรู้ความสามารถที่จะทำงานให้กับองค์กรได้ทันที แต่กลับเลือกที่จะคัดสรรบุคคลจากภายนอกมาก่อน 


นอกจากนี้ แนวทางดังกล่าวยังไม่สอดคล้องกับเจตนารมย์ของมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่  20 พฤศจิกายน 2561 ที่เห็นชอบให้ รฟท.ได้รับการยกเว้นจากการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเดิม โดยให้สามารถรับพนักงานเพิ่มเฉพาะปีแรกของกรอบอัตรากำลังไม่เกิน 1,904 อัตรา อีกทั้งไม่สอดคล้องกับอัตรากำลังของเจ้าหน้าที่ รฟท.ปัจจุบันที่ประสบปัญหาขาดแคลนอย่างหนักหลายฝ่าย โดยมีพนักงานและลูกจ้างที่ปฏิบัติงานจริงน้อยกว่าอัตราที่ได้รับอนุมัติเกือบกึ่งหนึ่ง ได้แก่ ฝ่ายการช่างโยธาได้รับอนุมัติ  4,310 อัตรา แต่มีผู้ปฏิบัติงานจริงเพียง 2,370 อัตรา  ฝ่ายการอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคมได้รับอนุมัติ 727 อัตรา แต่มีผู้ปฏิบัติงานจริง 510 อัตรา ฝ่ายปฏิบัติการเดินรถได้รับอนุมัติ 5,527  อัตรา แต่มีผู้ปฏิบัติงานจริง 3;697 อัตรา ฝ่ายบริการโดยสารได้รับอนุมัติ 1,721 อัตรา แต่มีผู้ปฏิบัติงานจริง 1,132 อัตรา ฝ่ายการช่างกลได้รับอนุมัติ 6,831 อัตรา แต่มีผู้ปฏิบัติงานจริง 4,433 อัตรา

ที่สำคัญการที่ทำให้อัตราการกำลังขาดแคลนส่งผลให้พนักงานต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้น ไม่มีเวลาพักผ่อนเพราะต้องทำงานล่วงเวลาและทำงานในวันหยุด เป็นเหตุให้ รฟท.มีภาระค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร ค่าทำงานวันหยุด ค่าล่วงเวลา และค่าตอบแทนการทำงานเกินกว่าเวลาทำงานปกติจำนวนมาก ซึ่งเปรียบเทียบแล้วเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าค่าจ้างพนักงานที่จะมีการรับเข้ามาบรรจุใหม่ ยิ่งไปกว่านั้นการขาดแคลนอัตรากำลังยังส่งผลกระทบต่อมาตรฐานการให้บริการแก่ผู้โดยสาร ทั้งความสะดวกสบาย และความปลอดภัย เช่น ขบวนรถชานเมืองบางขบวนมีพนักงานทำหน้าที่ดูแล ตรวจตั๋วโดยสารบนขบวนรถจากปกติ 3 คน เหลือเพียงขบวนละ 1 คนเท่านั้น หรือข้อมูลสถิติเหตุอันตรายของรถไฟ ทั้งขบวนรถตกราง ยานพาหนะชนกับขบวนรถ ขบวนรถเฉี่ยวชนคน ยังมีอัตราเกิดที่สูงทุกปี โดยครึ่งปีแรกของปี 2562 มีสถิติการเกิด 228 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 72 ราย และตาย 66 ศพ 

ดังนั้น สร.รฟท.จึงมีจุดยืนชัดเจนเพื่อขอความเป็นธรรมจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมคนใหม่ เพื่อให้ทราบถึงมติของผู้บริหารการรถไฟฯ และคณะกรรมการรถไฟฯ โดยเรียกร้องให้มีการดำเนินการสรรหาเพื่อบรรจุพนักงานการรถไฟฯ  3 ข้อ คือ 1.สร.รฟท.ขอยืนยันหลักการสรรหาเพื่อบรรจุเป็นพนักงานอัตรา 1,904 อัตรา ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2561 และสอดคล้องกับแผนฟื้นฟู 2.ขอให้การรถไฟฯ ดำเนินการสรรหาพนักงานเพื่อการบรรจุใหม่ โดยการพิจารณาสรรหาจากกลุ่มลูกจ้างเฉพาะงานเป็นลำดับแรกก่อน เพราะสามารถปฏิบัติงานได้ทันที และทำงานในตำแหน่งที่ขาดอยู่แล้ว โดยการสรรหาให้ปฏิบัติตามระเบียบการรถไฟฯ ฉบับที่ 132 ว่าด้วยการสอบคัดเลือกบุคคลเข้าทำงานใน รฟท. และ 3.ในส่วนของนักเรียนวิศวกรรมรถไฟที่จบการศึกษาแล้วให้ดำเนินการตามแนวทางเดิมในการบรรจุที่ผ่านมา


สร.รฟท.ต้องขอขอบคุณพลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่ช่วยผลักดันให้ รฟท.ได้รับอนุมัติเพิ่มกรอบอัตรากำลัง  1,904 อัตรา และหวังว่าจะมีการพิจารณาดำเนินการตามเจตนารมณ์จุดยืนตามข้อเสนอข้างต้น เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ โดย สร.รฟท.จะติดตามเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด พร้อมทั้งมีแนวทางยกระดับข้อเรียกร้องให้เพิ่มมากขึ้นต่อไปหากไม่ได้รับการพิจารณาอย่างเป็นธรรม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พยาบาลเกษียณร้องไซเบอร์ ถูกโรแมนซ์สแกม สูญ 12 ล้าน

16 มิ.ย. – พยาบาลเกษียณ วัย 65 ปี ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกหลอกสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาว หรือโรแมนซ์สแกม ชวนลงทุนคริปโต สูญเงิน 12 ล้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาพยาบาลเกษียณอายุราชการวัย 65 ปี ผู้เสียหาย ถูกมิจฉาชีพหลอกหลอกให้รัก (Romance Scam) และชักชวนให้ลงทุนในระบบคริปโตผ่านแพลตฟอร์มเทรดปลอม สูญเงินเกือบ 12 ล้านบาท เข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ โดยมี พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 รับเรื่อง นางสาวอ้อ อายุ 65 ปี อดีตพยาบาลผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 มิจฉาชีพหรือ นางสาวพร (นามสมมติ) ทักข้อความมาหาตนผ่านแอพ TikTok และชวนพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว และต้องการหาคู่ชีวิต และชวนคุยเรื่องส่วนตัวจนเตนเชื่อใจ จนผ่านไป 2 […]

“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000

ก.ต่างประเทศ 16 มิ.ย.-“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000 แฉ “กัมพูชา” ถูกสั่งห้ามคุยปม 4 พื้นที่พิพาทในวง JBC แต่เสียดาย ไม่มีในบันทึกการประชุม เพราะหารือในวงเล็ก ยัน JBC รอบนี้ราบรื่นที่สุด บอกแต่ก่อนทะเลาะกันเยอะกว่านี้ นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC แถลงชี้แจงผลการประชุม JBC ว่า ตนเข้าร่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว จากระดับเจ้าหน้าที่ และครั้งนี้ไปประชุมในฐานะประธาน ถือว่าราบรื่นที่สุดเท่าที่เคยประชุมมา แต่ก่อนทะเลาะกันแรงกว่านี้เยอะ และครั้งนี้ ประสบความสำเร็จทางด้านเทคนิค พร้อมอธิบายภารกิจของ คณะกรรมการ JBC ว่า ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการตรวจหาหลักเขตที่ปักปันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ปี 2462-2463 ซึ่งมีการปักหลักเขตไปแล้ว 73 หลัก ตอนนี้เห็นชอบไปแล้ว 45 หลัก อีก […]

นายกฯ เผย กต.เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ลั่นไทยเคารพกรอบทวิภาคี

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – นายกฯ เผย กต. เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ทำความเข้าใจกรณีไทย-กัมพูชา ย้ำไทยให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ลั่นการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากการเจรจาถือเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ประกาศกร้าว จะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ข่มขู่ เราก็เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีเช่นกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ ก.ต่างประเทศ เรียกประชุมทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบ ถ้าไม่เคารพกติกา ทั่วโลกก็จะไม่ยอมรับ ยอมรับไทยมีการสื่อสารที่เป็นสาธารณะน้อยมาก เพราะให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องยึดตามกรอบการเจรจาทวิภาคี การเคลื่อนไหวที่นอกเหนือจากการเจรจาถือว่าเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ นอกจากนี้ระหว่างความสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกองทัพ มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ว่าท่าทีของไทยจะเป็นอย่างไร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย และยืนยันว่าไม่มีปัญหากันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย