สร.รฟท.ร้อง!!! รมว.คมนาคมใหม่ตรวจฝ่ายบริหารรับพนักงานไม่เป็นธรรม

กรุงเทพฯ 17 ก.ค. – ของร้อนประเดิมงานแรก!!! สร.รฟท.ยื่นขอความเป็นธรรมจากรัฐมนตรีคมนาคมใหม่ 3 ข้อ แสดงจุดยืนคัดค้านแนวทางสรรหาพนักงานใหม่ของผู้บริหารรับคนนอกร้อยละ 60 ทำลูกจ้าง นักเรียนรถไฟ ที่ตั้งใจทำงานฝันค้าง


นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) เปิดเผยว่า สร.รฟท.ขอแสดงจุดยืนในการคัดค้านแนวทางการสรรหา เพื่อบรรจุพนักงานปี 2562 ของผู้บริหารที่มีมติสรรหาเพื่อบรรจุพนักงานปี 2562 จำนวน  1,330 อัตรา เพื่อไม่ให้เป็นภาระด้านงบประมาณ  พร้อมกับมีการกำหนดสัดส่วนการสรรหาพนักงานจากกลุ่มบุคคลภายนอก มากถึงอัตราร้อยละ 60 กลุ่มลูกจ้างเฉพาะงานในอัตราร้อยละ 20 และกลุ่มนักเรียนโรงเรียนวิศวกรรมรถไฟ (วรฟ.) ในอัตราร้อยละ 20 และมีการดำเนินการขอยกเว้นการปฏิบัติตามระเบียบการรถไฟฯ ฉบับที่ 132 ว่าด้วยการสอบคัดเลือกบุคคลเข้าทำงานใน รฟท. 

เนื่องจาก สร.รฟท. รวมถึงพนักงาน ซึ่งมีคุณวุฒิและคุณสมบัติสามารถเติบโตขึ้นตามสายงานกว่า 8,000 คน และลูกจ้างกว่า 3,830 คน ส่วนใหญ่ทำงานแทนในตำแหน่งของพนักงานประจำที่ขาดแคลน เห็นว่าแนวทางดังกล่าวไม่เป็นไปตามข้อตกลงที่ สร.รฟท.เสนอไว้ในเรื่องการขอเพิ่มอัตรากำลังพนักงานและไม่เป็นธรรมต่อลูกจ้างที่เสียสละอุทิศตัวทั้งแรงกาย แรงใจทำงานมาเป็นเวลานาน โดยหวังว่าเมื่อมีการอนุมัติเพิ่มกรอบอัตรากำลังจะได้รับโอกาสในการสรรหาเพื่อบรรจุเป็นพนักงานในลำดับแรก เนื่องจากทำงานมานานมีประสบการณ์และความรู้ความสามารถที่จะทำงานให้กับองค์กรได้ทันที แต่กลับเลือกที่จะคัดสรรบุคคลจากภายนอกมาก่อน 


นอกจากนี้ แนวทางดังกล่าวยังไม่สอดคล้องกับเจตนารมย์ของมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่  20 พฤศจิกายน 2561 ที่เห็นชอบให้ รฟท.ได้รับการยกเว้นจากการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเดิม โดยให้สามารถรับพนักงานเพิ่มเฉพาะปีแรกของกรอบอัตรากำลังไม่เกิน 1,904 อัตรา อีกทั้งไม่สอดคล้องกับอัตรากำลังของเจ้าหน้าที่ รฟท.ปัจจุบันที่ประสบปัญหาขาดแคลนอย่างหนักหลายฝ่าย โดยมีพนักงานและลูกจ้างที่ปฏิบัติงานจริงน้อยกว่าอัตราที่ได้รับอนุมัติเกือบกึ่งหนึ่ง ได้แก่ ฝ่ายการช่างโยธาได้รับอนุมัติ  4,310 อัตรา แต่มีผู้ปฏิบัติงานจริงเพียง 2,370 อัตรา  ฝ่ายการอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคมได้รับอนุมัติ 727 อัตรา แต่มีผู้ปฏิบัติงานจริง 510 อัตรา ฝ่ายปฏิบัติการเดินรถได้รับอนุมัติ 5,527  อัตรา แต่มีผู้ปฏิบัติงานจริง 3;697 อัตรา ฝ่ายบริการโดยสารได้รับอนุมัติ 1,721 อัตรา แต่มีผู้ปฏิบัติงานจริง 1,132 อัตรา ฝ่ายการช่างกลได้รับอนุมัติ 6,831 อัตรา แต่มีผู้ปฏิบัติงานจริง 4,433 อัตรา

ที่สำคัญการที่ทำให้อัตราการกำลังขาดแคลนส่งผลให้พนักงานต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้น ไม่มีเวลาพักผ่อนเพราะต้องทำงานล่วงเวลาและทำงานในวันหยุด เป็นเหตุให้ รฟท.มีภาระค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร ค่าทำงานวันหยุด ค่าล่วงเวลา และค่าตอบแทนการทำงานเกินกว่าเวลาทำงานปกติจำนวนมาก ซึ่งเปรียบเทียบแล้วเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าค่าจ้างพนักงานที่จะมีการรับเข้ามาบรรจุใหม่ ยิ่งไปกว่านั้นการขาดแคลนอัตรากำลังยังส่งผลกระทบต่อมาตรฐานการให้บริการแก่ผู้โดยสาร ทั้งความสะดวกสบาย และความปลอดภัย เช่น ขบวนรถชานเมืองบางขบวนมีพนักงานทำหน้าที่ดูแล ตรวจตั๋วโดยสารบนขบวนรถจากปกติ 3 คน เหลือเพียงขบวนละ 1 คนเท่านั้น หรือข้อมูลสถิติเหตุอันตรายของรถไฟ ทั้งขบวนรถตกราง ยานพาหนะชนกับขบวนรถ ขบวนรถเฉี่ยวชนคน ยังมีอัตราเกิดที่สูงทุกปี โดยครึ่งปีแรกของปี 2562 มีสถิติการเกิด 228 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 72 ราย และตาย 66 ศพ 

ดังนั้น สร.รฟท.จึงมีจุดยืนชัดเจนเพื่อขอความเป็นธรรมจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมคนใหม่ เพื่อให้ทราบถึงมติของผู้บริหารการรถไฟฯ และคณะกรรมการรถไฟฯ โดยเรียกร้องให้มีการดำเนินการสรรหาเพื่อบรรจุพนักงานการรถไฟฯ  3 ข้อ คือ 1.สร.รฟท.ขอยืนยันหลักการสรรหาเพื่อบรรจุเป็นพนักงานอัตรา 1,904 อัตรา ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2561 และสอดคล้องกับแผนฟื้นฟู 2.ขอให้การรถไฟฯ ดำเนินการสรรหาพนักงานเพื่อการบรรจุใหม่ โดยการพิจารณาสรรหาจากกลุ่มลูกจ้างเฉพาะงานเป็นลำดับแรกก่อน เพราะสามารถปฏิบัติงานได้ทันที และทำงานในตำแหน่งที่ขาดอยู่แล้ว โดยการสรรหาให้ปฏิบัติตามระเบียบการรถไฟฯ ฉบับที่ 132 ว่าด้วยการสอบคัดเลือกบุคคลเข้าทำงานใน รฟท. และ 3.ในส่วนของนักเรียนวิศวกรรมรถไฟที่จบการศึกษาแล้วให้ดำเนินการตามแนวทางเดิมในการบรรจุที่ผ่านมา


สร.รฟท.ต้องขอขอบคุณพลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่ช่วยผลักดันให้ รฟท.ได้รับอนุมัติเพิ่มกรอบอัตรากำลัง  1,904 อัตรา และหวังว่าจะมีการพิจารณาดำเนินการตามเจตนารมณ์จุดยืนตามข้อเสนอข้างต้น เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ โดย สร.รฟท.จะติดตามเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด พร้อมทั้งมีแนวทางยกระดับข้อเรียกร้องให้เพิ่มมากขึ้นต่อไปหากไม่ได้รับการพิจารณาอย่างเป็นธรรม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

น้ำปิงล้นตลิ่ง

ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงาน เตรียมรับมือน้ำ หลังน้ำปิงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

เชียงใหม่ 27 ก.ย. – ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เรียกประชุมทุกหน่วยงาน ติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัย หลังระดับน้ำปิงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดสูงถึง 4.15 เมตร ในคืนนี้ ประเมินเบื้องต้นยังสามารถบริหารจัดการได้ และสั่งทุกหน่วยเตรียมพร้อมเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ค่ำวันนี้ (27 ก.ย. 68) ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ สำนักงานชลประทานที่ 1 (SWOC1) อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายศิวะ ธมิกานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงาน ติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรับมือระดับน้ำในแม่น้ำปิงหลังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนของจังหวัด ส่งผลให้ให้มวลน้ำจำนวนมากจะไหลลงมาผ่านตัวเมืองที่เป็นย่านเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงเวลา 22.00-24.00 น. คืนนี้ ชลประทานเชียงใหม่คาดการณ์ว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม 3.9 เมตร เป็น 4.0-4.15 เมตร และจะส่งผลให้น้ำปริ่มและเอ่อล้นตลิ่งเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการสถานการณ์ได้ เนื่องจากมีการเสริมคันกันน้ำทั้งสองฝั่งแม่น้ำปิง ซึ่งสามารถรองรับน้ำได้สูงถึง 4.2 เมตร สำหรับสถานการณ์ฝนในพื้นที่อำเภอต่างๆ โดยเฉพาะที่อำเภอแม่แตง ทางอำเภอได้รายงานว่าตลอดทั้งวันยังมีฝนตกในพื้นที่ […]

การรถไฟฯ แจ้งน้ำท่วมทำ “ทางรถไฟขาด” สั่งปรับแผนเดินรถ

27 ก.ย. – การรถไฟแห่งประเทศไทย ประกาศแจ้งเหตุน้ำท่วมหนัก “ทางรถไฟขาด” ที่บ้านเหลื่อม จ.นครราชสีมา สั่งปรับแผนเดินรถ ขณะนี้ได้สั่งการและดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ พร้อมปรับแผนการเดินรถเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ดังนี้ 1.ขบวนรถด่วนที่ 75/76 กรุงเทพอภิวัฒน์ – หนองคาย – กรุงเทพอภิวัฒน์2.ขบวนรถสินค้าที่ 553 มาบตาพุด – บัวใหญ่3.ขบวนรถสินค้าที่ 532 สำราญ – บางละมุงให้เปลี่ยนการเดินขบวนรถในเส้นทางชุมทางแก่งคอย – นครราชสีมา – ชุมทางบัวใหญ่ – หนองคาย 4.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 439 ชุมทางแก่งคอย – ชุมทางบัวใหญ่ เดินถึงสถานีบ้านเหลื่อม5.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 434 ชุมทางบัวใหญ่ – ชุมทางแก่งคอยรอสถานการณ์น้ำที่สถานีชุมทางบัวใหญ่ จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่สามารถประมาณการเวลาในการเปิดทางได้ เนื่องจากระดับน้ำยังคงท่วมสูงและยังไม่มีแนวโน้มลดลง ทั้งนี้ การรถไฟฯ จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมให้ทราบ เมื่อมีความคืบหน้าในการเปิดเส้นทางเดินรถ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้.-513-สำนักข่าวไทย

กองทัพภาคที่ 2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า

อุบลราชธานี 27 ก.ย.-กองทัพภาคที่2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า ย้ำรู้ทันแผนโฆษณาชวนเชื่อต่อนานาชาติ เมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 27 ก.ย. 68 ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 27 ก.ย. ณ เวลา 14.00 น. ว่าสถานการณ์โดยรวมเมื่อเวลา 12.02 น. ฝ่ายกัมพูชาได้พยายามสร้างสถานการณ์ความตึงเครียด ขึ้นอีกครั้งบริเวณพื้นที่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยใช้อาวุธสงครามยิงเข้ามายังพื้นที่ ของฝ่ายไทยจากบริเวณเนิน 677 มายังเนิน 600 และ เนิน 527 พร้อมทั้งใช้อาวุธปืนเล็กยิงปะทะเป็นระยะ ก่อนที่สถานการณ์จะยุติลง ทั้งนี้ การปะทะจำกัดวงอยู่เฉพาะบริเวณดังกล่าว แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังควบคุมพื้นที่อย่างใกล้ชิด ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ฝ่ายไทยได้รับแจ้งจากกัมพูชา ว่า คณะสังเกตการณ์ระหว่างประเทศ (IOT) ของกัมพูชา จะเดินทางเข้าพื้นที่ช่องอานม้า กองทัพภาคที่ 2 ประเมินว่าเป็นความพยายามของกัมพูชา ในการสร้างเงื่อนไขและยั่วยุให้เกิดสถานการณ์ เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเวลาที่คณะ IOT […]

นายกฯ ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมอยุธยาฯ

พระนครศรีอยุธยา 27 ก.ย.-นายกฯ ลงพื้นที่พระนครศรีอยุธยา ตรวจน้ำท่วม เร่งเยียวยาแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน เดินหน้าบูรณาการหน่วยงานใช้งบแสนล้านบาท พัฒนาระบบชลประทานและการจัดการน้ำ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ สส.ของพรรค ให้การต้อนรับ และในโอกาสนี้ นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.พรรคประชาชน เขต1 ที่มาร่วมงานด้วย ทันทีที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาถึงบริเวณวัดโคกหิรัญ มีประชาชนมารอให้การต้อนรับ มอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ พร้อมร้องเพลง มาร์ช อสม.ต้อนรับนายกรัฐมนตรี พร้อมกับถ่ายรูปเซลฟี่ อย่างเป็นกันเอง ก่อนที่จะรับฟังการรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่จากผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดยืนยันว่า พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ไม่ใช่พื้นที่ทุ่งรับน้ำ พื้นที่มีโฉนดที่ดินทั้งหมด ไม่ใช่ที่สาธารณะ หรือแก้มลิง พร้อมขอให้มีการพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาเพื่อบรรเทาปัญหาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เนื่องจากไม่ได้รับความสะดวกในการประกอบอาชีพ นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น มาในสถานะนายกรัฐมนตรี ถือว่าสามารถที่จะมาตอบสนองความต้องการของประชาชนในทุกๆ มิติ รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันเป็นทีมเดียวกัน กับพรรคร่วมรัฐบาล เป้าหมายคือประโยชน์สูงสุดของประชาชน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ทราบดีอยู่แล้วว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแห่งนี้ มีน้ำท่วมทุกปี น้ำท่วมซ้ำซาก […]