ก.อุตฯ 20 มิ.ย. – รองนายกรัฐมนตรีสั่งกระทรวงอุตสาหกรรม เตรียมรับลูกนโยบายเกษตรแปรรูป จับมือกับ ธ.ก.ส.ช่วยเหลือเกษตรแปรรูป ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ ยกระดับสินค้า บุกตลาดต่างประเทศ รองรับเศรษฐกิจยุคดิจิทัล
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มอบนโยบายกับผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อให้หลายหน่วยงานปรับบทบาทมุ่งเน้นหันไปช่วยเหลือภาคเกษตรไปสู่เกษตรแปรรูป ด้วยการเข้าไปร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ส่งเสริมหัวขบวนในชุมชนให้เข้มแข็งเป็นหลัก มุ่งช่วยเหลือทั้งด้านเงินทุน บรรจุภัณฑ์ การตลาด ด้วยการยกระดับหน่วยงานในกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมให้เข้าไปช่วยเหลือภาคเกษตรกระจายให้ครอบคลุม เพื่อเน้นเกษตรอุตสาหกรรม ด้วยการประสานกับทุกหน่วยงานเข้าไปช่วยเหลือ
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรรม รายงานว่า เตรียมดึงสถาบันเกษตรกรและหารือกับ ธ.ก.ส. ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ดึงสินค้าภาคเกษตร GI 99 ราย หมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (CIV) เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรแปรรูป เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวในชุมชน และร่วมมือกับตลาดออนไลน์ บริษัทประชารัฐรักสามัคคี เอกชนรายใหญ่ ร่วมช่วยกันดูแลเกษตรกรแปรรูป และช่วยรับซื้อสินค้าจากชุมชน ให้เป็นหน่วยการผลิต ขณะที่รายใหญ่ช่วยส่งเสริมด้านการตลาด สถาบันอาหารช่วยปรับปรุงพัฒนาอาหารชุมชน ด้วยแผน 3×3 ปั้นจากเกษตรกรแปรรูปกว่า 55,000 ราย นักธุรกิจเกษตร 15,000 ราย และผู้ประกอบการธุรกิจเกษตร 5,000 ราย นำไปสู่เกษตรแปรรูปเกษตรพันธุ์ใหม่ 2,500 ราย
นายสมคิด กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงอุตสาหกรรมต้องเปลี่ยนแปลงทั้งการบริหารยุคใหม่ให้ทันประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อแต่งตั้ง ครม.เสร็จจะเริ่มเดินหน้าบริหารได้เต็มที่ จึงต้องการให้ทุกหน่วยงาน ทั้งสถาบันอาหาร สถาบันการศึกษา และหน่วยงานต่าง ๆ เตรียมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลง ในเรื่องด้านเกษตรต้องการให้ช่วยเหลือแบบก้าวกระโดด ต้องการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือให้เกิดการเปลี่ยนผ่านให้เป็นภาคเกษตร 4.0 สำหรับสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ต้องนำบุคลากรที่เชี่ยวชาญมาช่วยพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ดูแลอุตสาหกรรมเป้าหมายรองรับนโยบายดิจิทัล one Belt One Road ของจีน
หลายกรมของกระทรวงอุตสาหกรรมควรปรับหน่วยงานระดับภาครองรับให้เพียงพอแต่ละภูมิภาคในการดูแลภาคเกษตร อีกทั้งการเดินทางไปเยือนญี่ปุ่นคราวหน้าต้องมีความคืบหน้าเกี่ยวกับนโยบาย Open Innovation Columbus เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการสตาร์ทอัพผ่านไทยแลนด์ไซเบอร์พอร์ต หวังปั้นผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ 50 ราย ด้วยทุนเริ่มต้น 500 ล้านบาท ในส่วนของเอสเอ็มอีแบงก์ สั่งการให้เดินหน้าส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ให้จัดกลุ่มเป้าหมายปล่อยสินเชื่อ เพื่อช่วยเหลือรายย่อยเข้าถึงแหล่งทุนเพิ่มเติม
ส่วนการพัฒนาผู้ประกอบการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ในท่าเรือมาบตาพุดและแหลมฉบัง เมื่อผังเมืองเตรียมประกาศบังคับใช้เร็ว ๆ นี้ เพื่อทำให้การพัฒนารวดเร็วมากขึ้น ด้วยการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมสมัยใหม่หรือสมาร์ทปาร์ค การนำสินค้าเกษตรแปรรูปแล้วเก็บไว้จำหน่ายผ่านการใช้ความเย็น LNG มาจัดสร้างห้องเย็นขนาดใหญ่ดูแลภาคเกษตรภาคตะวันออก การช่วยเหลือเอสเอ็มอี การจัดการเรื่องขยะ กากของเสีย การสร้างตลาดเอสเอ็มอี
นายสมคิด ย้ำว่า รัฐบาลต้องดึงภาคเอกชนมาร่วมพัฒนาในเขตที่มีศักยภาพ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ต้องนำอุตสาหกรรมเป้าหมายไปลงทุนในพื้นที่เหมะสม จัดหาที่ดินรองรับการตั้งนิคมฯ ของเอสเอ็มอีและผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ เพราะเป็นรายย่อย เนื่องจากเอกชนระดับโลกจะไปลงทุนในเขตอุตสาหหกรรมของภาคเอกชน เพื่อสร้างอนาคตให้กับรายย่อยและคนตัวเล็ก เพื่อพัฒนาสินค้าในยุคดิจิทัล ผ่านความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและหน่วยงานต่าง ๆ .-สำนักข่าวไทย