อุดมสุข 16 มิ.ย.-จากกรณี 2 วินรถจักรยานยนต์ทะเลาะวิวาทแย่งลูกค้า จนมีผู้เสียชีวิตถึง 2 ราย อดีตวินรับจ้างเล่าว่าปัญหานี้เรื้อรัง คนในพื้นที่แก้ไม่ได้ ด้านประชาชนยังหวาดกลัว ขณะที่ ผอ.เขตบางนา สั่งเพิ่มเจ้าหน้าที่ดูแลมากขึ้น
ซอยสุขุมวิท 103 เขตเชื่อมต่อบางนา ประเวศ ศรีนครินทร์ เป็นแหล่งชุมชน โรงเรียน ตลาด ผู้คนสัญจรไปมาคับคั่งทุกวัน แต่ไม่มีรถประจำทางให้บริการ คนส่วนใหญ่จึงเดินทางด้วยรถสองแถวและรถจักรยานยนต์ ทำให้ซอยย่อยที่มีเกือบ 60 ซอย มีวินรถจักรยานยนต์รับจ้างกว่า 50 วิน
วินที่ก่อเหตุ คือ วินปากซอย1-2 และวินหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ อยู่ห่างกัน 50 เมตร โดยวินปากซอยตั้งอยู่ก่อนที่วินธนาคารจะมาตั้ง หลายปี ทั้งสองวินมีลูกค้ามากที่สุดในซอย เพราะอยู่ต้นซอยใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอส แต่วินหน้าธนาคารใกล้กว่า จนกลายเป็นปมทะเลาะวิวาทที่สะสมมาแรมปี
หญิงที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งขายของบริเวณนั้นเล่าว่า เดิมทีมีวินเดียวก็ให้บริการผู้โดยสารที่มีจำนวนมากไม่ทันหรือช้าในเวลาเร่งด่วน มีการเกณฑ์รถจักรยานยนต์ของวินอื่นเข้ามาวิ่งรองรับคน ซึ่งเป็นป้ายขาวไม่ใช่ป้ายเหลืองที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย วอนผู้เกี่ยวข้องเพิ่มมาตรการดูแลประชาชนเพราะกลัวและกังวลว่าอาจถูกลูกหลงได้สักวัน
ด้านอดีตวินรถจักรยานยนต์เผย ปัญหานี้เจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจและกทม.ทราบมาโดยตลอด แต่ยังไม่ได้แก้ไข มองว่าควรควบคุมการขอจดทะเบียนเปิดวิน เพราะมีมากเกินไป ตรวจสอบยาก หากเป็นรถจักรยานยนต์เถื่อนและมีผู้เดือนร้อน จะหาความผิดชอบจากหน่วยงานใด
ผอ.เขตบางนา ย้ำทั้ง 2 วินได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย แต่ผู้ขับขี่ได้รับอนุญาตหรือไม่ต้องตรวจสอบเพิ่ม ปัจจุบันมี 122 วิน และผู้ขับขี่ 2,638 คนที่ได้รับอนุญาตถูกต้อง หากลงทะเบียนแล้วก่อเหตุ เขตจะขึ้นทะเบียนเป็นบุคคลอันตรายไม่ควรประกอบอาชีพวิน พร้อมเพิ่มเทศกิจดูแล แต่ไม่สามารถสั่งให้ยกเลิกวินได้ ขณะที่ชี้แจงว่ากฎหมายให้ใช้ดุลยพินิจประเมินที่ตั้งวิน และเสนอว่าหากอยู่ใกล้กันให้ยุบรวม
การตั้งหรือยกเลิกวินรถจักรยานยนต์รับจ้างในพื้นที่ใดๆ เป็นอำนาจของกรมการขนส่งทางบก โดยต้องหารือร่วมกับตำรวจ และกทม. เพื่อพิจารณาใน 3 เงื่อนไข คือ สถานที่ตั้งต้องไม่อยู่ในเงื่อนไขของรัฐ ผู้ขับขี่และรถจักรยานยนต์ต้องจดทะเบียนถูกต้อง.-สำนักข่าวไทย