ผลพวงน้ำท่วมกทม. ผู้ว่าฯ ลั่น ไม่ลาออก ยอมรับพลาดเอง

กทม. 10 มิ.ย.-ผู้ว่าฯกทม. ลั่น ไม่ลาออกตามข้อเรียกร้องเพื่อแสดงความรับผิดชอบเหตุน้ำท่วมกทม.เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา  ยอมรับพลาดเอง ยืนยันไม่เกิดเหตุซ้ำรอยอีก


พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ให้สัมภาษณ์ หลังเป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหาร ถึงกรณีฝนตกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา(7 มิ.ย. ) ส่งผลให้มีน้ำท่วมขัง รอการระบายหลายจุดในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า ได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงสาเหตุของปัญหาน้ำท่วมขังว่าแท้จริงเกิดจากอะไร ซึ่งพบว่า หลักๆมาจากปริมาณฝนที่ตกจำนวนมาก เกินกว่า 100 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งในสถิติที่ผ่านมาในเดือนมิถุนายนฝนจะตกสะสมสุงสุดอยู่ที่ 200 มิลลิเมตร แต่เมื่อศุกร์ที่ผ่านมาตกมาถึง 136 มิลลิเมตรแล้ว ทำให้ระบายน้ำไม่ทัน  รวมถึงอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญ คือ อุโมงค์ระบายน้ำบางซื่อ ขัดข้อง จึงได้เชิญการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) มาร่วมกันตรวจสอบ โดยพบว่าฟิวส์ (Fuse) ซึ่งทำหน้าที่ป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือระบบจากภาวะกระแสเกินพิกัด ของสถานีจ่ายไฟสามเสน และสถานีจ่ายไฟบางซ่อน ชำรุดจึงได้สั่งการให้เปลี่ยนฟิวส์ของสถานีจ่ายไฟทั้ง 2 แห่ง จำนวน 6 ตัว พร้อมเพิ่มกำลังไฟเป็นขนาด 200 แอมป์ จากเดิม 100 แอมป์ เพื่อป้องกันปัญหาไฟตก ซึ่งจะส่งผลให้อุโมงค์ระบายน้ำบางซื่อ ไม่สามารถทำงานได้  และ กทม.ไม่สามารถหาไฟฟ้าสำรองได้ เนื่องจากอุโมงค์ระบายน้ำจะต้องใช้ไฟฟ้า จากสถานีจ่ายไฟ ที่มีกำลังจ่ายไฟขนาดใหญ่ ถึง 6,600 โวลต์ 


พร้อมยอมรับว่า อุโมงค์ระบายน้ำบางซื่อ ไม่มีเครื่องจ่ายไฟฟ้าสำรอง เนื่องจาก มั่นใจว่าสถานีจ่ายไฟสามเสน และสถานีจ่ายไฟบางซ่อน  คงจะไม่เกิดดการชำรุดพร้อมกัน แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็จะไม่ขอแก้ตัวต้องก้มหน้าก้มตาหน้าทางแก้ไขต่อไป ส่วนที่ไม่มีเครื่องปั่นไฟสำรองก็เนื่องจาก กระแสไฟฟ้าที่ใช้ที่อุโมงค์ยักษ์มีขนาดกำลังไฟที่ต้องใช้มากถึง 6,600 โวลต์ ในประเทศไทยไม่มีเครื่องปั่นไฟที่ขนาดใหญ่เท่านี้ ต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศเท่านั้น จึงได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งหาแนวทางและศึกษาวิธีหาไฟฟ้าที่มีกำลังไฟขนาดใหญ่ 6,600 โวลต์ เพื่อสำรองในการทำงานของอุโมงค์ระบายน้ำ ซึ่งถ้าหากจำเป็นต้องสั่งซื้อก็ต้องทำเพื่อพี่น้องประชาชน 

นอกจากนี้  ได้ประสาน กฟน. ให้จัดเตรียมส่งเจ้าหน้าที่ประจำจุดทุกอุโมงค์ระบายน้ำและพื้นที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ หากตรวจพบว่าจะมีกลุ่มฝนตกในพื้นที่ กทม. เพื่อเตรียมพร้อมหากเกิดปัญหาไฟฟ้าเจ้าหน้าที่จะสามารถแก้ปัญหาได้ทันที ตัดปัญหาการเข้าพื้นที่ล่าช้าเมื่อมีสถานการณ์ฝนตก โดย กทม.จะรับผิดอบภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมด  ยืนยันว่าอนาคตจะไม่มีปัญหาเครื่องสูบน้ำหรืออุโมงค์ระบายน้ำชำรุดเช่นเดิมอีกอย่างแน่นอน ส่วนระบบป้องกันน้ำท่วมอื่นๆ เช่น การขุดลอกทำความสะอาดคูคลอง ตอนนี้ดำเนินการไปแล้วร้อยละ 90  การติดตั้งเครื่องสูบน้ำ การซ่อมแซมเครื่องสูบน้ำให้พร้อมใช้งาน กทม. ได้มีการเตรียมพร้อมไว้เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะไม่มีปัญหาขึ้นอีก

ส่วนกรณีที่มีสื่อมวลชน รวมถึงประชาชนวิพากษ์วิจารณ์ และเสนอให้ผู้ว่าฯกทม.ลาออกจากตำแหน่ง แทนคำขอโทษ เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบนั้น  พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ไม่อยากตอบโต้ เข้าใจว่าประชาชนได้รับความเดือดร้อนจึงมีอารมณ์  ถ้าตนลาออกแล้วน้ำไม่ท่วม ก็จะลาออกให้เดี๋ยวนี้เลยก็ได้  แต่ในความเป็นจริงมันไม่ได้  และถ้าหากลาออกแล้วใครจะทำงาน  ไม่ต้องห่วง ตนก็ต้องออกไปตามวาระอยู่ดี ยืนยันไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่งอยู่แล้ว และทั้งหมดที่ออกมาชี้แจง ไม่ใช่ข้อแก้ตัว แต่ยอมรับเป็นข้อบกพร่องของ กทม.เอง .


ส่วนกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยเผยแพร่ภาพถ่าย ปัญหาน้ำท่วม เกิดจากการทิ้งเศษวัสดุก่อสร้าง และดิน ลงในคลองลาดพร้าวนั้น เป็นภาพเก่าเมื่อปี 2560-2561 ปัจจุบันไม่มีแล้ว แต่ก็ต้องขอบคุณ ที่ช่วยติดตามและสะท้อนปัญหาให้แก้ไข ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี  – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

ทำแผนชิงทอง

คุมทำแผนโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท

คุมตัวทำแผน โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ในห้างฯ ย่านลำลูกกา สารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน และซื้ออุปกรณ์หลอมทองเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่

จับเรือประมงเมียนมา

จับเรือประมงเมียนมา รุกล้ำน่านน้ำไทย

ศรชล.ภาค 3 จับกุมเรือประมงเมียนมาพร้อมลูกเรือ 13 คน ขณะลักลอบนำเรือประมงจอดลอยลำในทะเลอาณาเขตของไทย บริเวณ จ.ระนอง ใกล้เกาะค้างคาว