พล.อ.ประยุทธ์ จัดรายการคืนความสุขให้คนในชาติ



พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จัดรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ประจำวันวันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม 2559 กล่าวว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา มีหลายเหตุการณ์เกิดขึ้นในบ้านเมืองของเรา นับตั้งแต่การแสดงออกถึงความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถเนื่องในโอกาสมหามงคลทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา อีกทั้งยังเป็น “วันแม่แห่งชาติ” ที่ครอบครัวคนไทย จะได้กลับมาอยู่พร้อมหน้า มีกิจกรรมทำร่วมกัน ลูก ๆ มักจะถือโอกาสแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อบุพพการีของตน ที่สำคัญอีกประการ คือ ผมถือว่าเป็นวันที่ “ท้องฟ้าเปิดและสดใส” หลังจากที่พี่น้องประชาชน“ผู้มีสิทธิออกเสียง” ได้แสดงออกถึงความรักชาติแสดงพลังอันบริสุทธิ์ ในการไปใช้สิทธิ์ออกเสียงประชามติ โดยเสียงส่วนใหญ่ให้การยอมรับ ทั้งรัฐธรรมนูญและประเด็นคำถามพ่วง นับว่าเป็นสัญญาณการเริ่มเดินหน้าประเทศใหม่อีกครั้ง ภายใต้กติกาและอนาคตที่คนไทยเลือกร่วมกัน ซึ่งผมก็หวังว่าเราจะสามารถสลัดทิ้งพันธนาการและก้าวข้ามกับดักทุกอย่างในอดีตที่ผ่านมา ที่คอยฉุดรั้งสังคมไทยมากว่า 20 ปี สำหรับเหตุการณ์ “ระเบิด” ใน 7 จังหวัดภาคใต้นั้น อาจสร้างความเสียหายกับทรัพย์สินและชีวิต “ผู้บริสุทธิ์” ได้ แต่ไม่อาจสั่นคลอนความรัก ความสามัคคีของคนในชาติและความรักชาติได้ ตัวอย่างที่น่าชื่นชม คือ นายกำธร เกตุแก้วเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ศูนย์การค้าไชน่าทาวน์ หาดป่าตอง จ. ภูเก็ต ที่ตัดสินใจหิ้ววัตถุต้องสงสัย ออกไปนอกห้างฯ โดยหวังเพียงให้ทุกคนปลอดภัยและประเทศไม่เสียชื่อเสียง ทั้งนี้โดยไม่ห่วงสวัสดิภาพของตนเอง เป็นที่น่ายินดีที่ปลอดภัย ก็เป็นการแสดงให้เห็นว่า “ทุกคน” สามารถแสดงออกถึงความรักชาติ หรือเป็นพลเมืองดีได้ในหลายรูปแบบ เช่น การแจ้งเบาะแสเมื่อพบสิ่งผิดปกติ หรือการให้ข้อมูลจากกล้องวงจรปิดอาคาร สถานที่ และบ้านเรือนของตน หากมีหลักฐานเชื่อมโยง เป็นประโยชน์


สำหรับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ฝ่ายความมั่นคงแล้ว เราสามารถจะแจ้งก่อนล่างหน้าได้นะครับโดยการป้องกัน เพราะถ้าทุก ๆ คนช่วยกัน “เป็นหู เป็นตา” แล้ว ผมเชื่อว่าจะไม่มีใครมาทำร้ายบ้านเกิดเมืองนอนของเราได้นะครับทุกพื้นที่ขอความร่วมมือ โดยผมขอฝากให้เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงและผู้เกี่ยวข้องได้เผยแพร่ให้คำแนะนำหลักการปฏิบัติที่ถูกต้องในกรณีฉุกเฉินต่าง ๆ สอนหลักการในการเฝ้าระวังบุคคลผู้ต้องสงสัย อากัปกิริยา ท่าทางที่ต้องให้ความสนใจที่ผิดปกติ ส่วนนี้จะเป็นการป้องกัน ป้องปรามให้ได้เป็นมาตรการที่ดีกว่าจะไปแก้ไขภายหลังทั้งเรื่องของความรุนแรง ก่อความไม่สงบและสาธารณภัย เราต้องการป้องกันสังคมให้ปลอดภัย และลดความเสียหายในชีวิตและทรัพย์ของประชาชนให้ได้มากที่สุด สำหรับกรณีนี้ผมขอเวลาให้กับเจ้าหน้าที่ได้ทำงานตามวิถีทางของกระบวนการยุติธรรม การสืบสวนสอบสวนให้เป็นไปตามครรลองที่ถูกต้อง เพราะว่าเราต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้กับกระบวนการยุติธรรมของเรา ทุกอย่างต้องเป็นไปตามหลักฐาน

สำหรับเหตุเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพบกตกที่ จ. เชียงใหม่ ระหว่างการปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่ อ.ปาย และ อ.ปางมะผ้า จ. แม่ฮ่องสอน ผมถือว่าผู้ประสบอุบัติเหตุในครั้งนี้ทุกคนล้วนเป็นผู้เสียสละ ทุ่มเท ในการทำงาน เพราะการเป็น “ทหารของพระราชา” นั้น จะต้องมีหน้าที่รับใช้ประเทศชาติ และช่วยเหลือประชาชนต้องเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ทุกโอกาส โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่เกิดสาธารณภัย พี่น้องประชาชนต้องการที่พึ่ง รอคอยการหยิบยื่นความช่วยเหลือความเดือดร้อนลักษณะนี้ “แม้นาทีเดียว ก็ไม่อาจจะชักช้าได้” ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งไปยังครอบครัว ที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก

ทั้งนี้ จากเหตุระเบิดและเฮลิคอปเตอร์ตกผมได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าไปดูแล ให้ความช่วยเหลือด้านสวัสดิการ และทุก ๆ ด้าน แก่ผู้เสียหาย ครอบครัว และนักท่องเที่ยว อย่างรวดเร็วและเต็มที่ ด้วยการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือ อีกทั้งได้ให้ในส่วนของศูนย์การบินทหารบกหรือว่าทุกหน่วยบินของทางราชการให้มีมาตรการในการเดินทางด้วยอากาศยานให้เป็นไปด้วยความปลอดภัยให้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม ประเทศชาติต้องเดินหน้าต่อไป ผมอยากให้พี่น้องประชาชนเป็นกำลังใจให้แก่กันและกัน รัฐบาลก็จะทำหน้าที่ของรัฐบาลให้ดีที่สุด


ผมได้อ่านบทวิเคราะห์ ในหนังสือเล่มหนึ่ง ซึ่งเขียนโดยชาวต่างประเทศ ได้กล่าวถึงสาเหตุอันตรายของโลกใบนี้ ก็คือในเรื่อง “ความล้มเหลวของประเทศ” โดยระบุชัดว่า เกี่ยวข้องกับปัจจัยทางการเมือง “มากกว่า” ปัจจัยทางเศรษฐกิจ มีคำอธิบายที่น่าสนใจว่า “ความล้มเหลวจากปัจจัยทางการเมือง” ได้แก่ กลุ่มอำนาจทางการเมืองที่ไร้ธรรมาภิบาล แสวงประโยชน์จากการใช้อำนาจ ขูดรีดทรัพยากรของคนอื่น ของประชาชน หรือของชาติ มาเป็นของตนและพวกพ้อง ล้วนเป็นสาเหตุให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม บั่นทอนกำลังใจของประชาชน สร้างความเข้าใจผิด และทำลายแรงจูงใจนักลงทุน เรียกได้ว่าเป็น “การเมืองผูกขาด” อันเป็นต้นตอความไร้เสถียรภาพของบ้านเมืองและการพัฒนาที่ไม่ยั่งยืน บ่อยครั้งในโลกใบนี้ อันตรายเหล่านั้นเกิดขึ้นจากผู้นำทางการเมืองที่เป็น “นักเลือกตั้ง” ซึ่งอาศัยนโยบาย “ประชานิยม” ที่ทำให้เกิดความเสียหาย บริหารราชการแผ่นดินโดยดูแลเพียง “ฐานเสียง” หรือผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม แทนที่จะดูแลแบ่งปันทุกข์สุขและทรัพยากรของประเทศที่มีอยู่อย่างจำกัด ให้ครอบคลุมประชากรทุกกลุ่ม ทุกพื้นที่ อย่างมียุทธศาสตร์ ที่ชัดเจน

สำหรับ “หนทางสู่ความสำเร็จ” ของประเทศที่พัฒนาหรือพัฒนาแล้วนั้น ได้แก่ การสร้างระบบการเมืองที่มีการถ่วงดุล ป้องกันการผูกขาดหรือ “อำนาจนิยม” และส่งเสริมความเข้มแข็งของภาคประชาสังคม ด้วยการมีส่วนร่วมทางการเมือง ซึ่งจะเป็น “ภูมิคุ้มกัน” ให้ประเทศ รองรับความเปลี่ยนแปลงของโลกได้ นอกจากนี้ ต้องให้ความสำคัญกับ “นิติรัฐ” เน้นความชอบด้วยกฎหมาย เอาจริงเอาจังกับการต่อต้านการทุจริต ร่วมทั้งมุ่งส่งเสริมบทบาทภาคเอกชน และสนับสนุนการริเริ่มของทุกภาคส่วน อย่างสร้างสรรค์ มีการบูรณาการ ประเด็นสำคัญก็คือว่า ผมขอเวลาช่วงนี้ไปก่อนแล้วหลังจากที่เรามีการเลือกตั้งมีรัฐบาลให้เข้ามาแล้วนั้น จะต้องดำเนินการให้เต็มที่อย่างที่ผมกล่าวไว้แล้ว อย่างที่เขามีบทวิเคราะห์ของต่างประเทศออกมา ประเทศไทยของเราโชคดี ที่มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระราชทาน “หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ให้แก่ปวงชนชาวไทยและชาวโลกให้การยอมรับ ว่าเป็นแนวทางหนึ่ง ที่จะนำสู่ความสำเร็จในการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยยึดถือ “ทางสายกลาง” และเน้น “ประชาชนเป็นศูนย์กลาง” ประกอบด้วย ความพอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน รวมทั้งมีความรู้ คู่คุณธรรม รัฐบาลนี้ได้น้อมนำ มาใช้ในการบริหารราชการแผ่นดินในทุกระดับ ร่วมกับกลไก “ประชารัฐ” ของรัฐบาล ใช้เวลามา 2 ปี แล้วสามารถพลิกฟื้นวิกฤตการเมืองและเศรษฐกิจนำพาประเทศ รอดพ้นจากความล้มเหลวแล้วเดินหน้าไปสู่ความสำเร็จ อย่างค่อยเป็นค่อยไป หลายอย่างต้องใช้เวลาภายใต้ ปัจจัยภายนอก ได้แก่ เศรษฐกิจที่ชะลอตัวของโลก ดังที่ปรากฏชัดในหลาย ๆ เรื่อง ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ระบุว่า เศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลัง มีการ “ขยายตัว” ต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกและทำให้เศรษฐกิจทั้งปีนี้ GDP “เติบโต” ได้ตามเป้าหมาย 3-3.5% สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในด้านต่าง ๆ เช่น การใช้จ่ายภาคครัวเรือน ขยายตัวร้อยละ 3.8 การจำหน่ายรถยนต์นั่งที่ขยายตัวเป็นครั้งแรก ในรอบ 13 ไตรมาส ที่ร้อยละ 4.8 การลงทุนภาครัฐยังคงขยายตัวได้ดี ร้อยละ 10.4 และในครึ่งปีหลัง เศรษฐกิจของประเทศ มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง

ทั้งนี้จากการใช้จ่ายและการลงทุนของภาครัฐ ในโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ และการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ วงเงิน 1.64 ล้านล้านบาท ผมเองนั้นเชื่อว่าความเชื่อมั่นในความโปร่งใส มีเสถียรภาพ มีนโยบาย มียุทธศาสตร์ ที่ชัดเจนของรัฐบาลนั้น จะช่วยเป็นแรงผลักดันให้มีการลงทุนภาคเอกชนเพิ่มมากขึ้นในอนาคต ทั้งในธุรกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม แล้วไปสู่ SMEs หรือ Start up ต่างๆ จะช่วยกันทั้งหมด ทุกมิติ ตัวเลขการส่งเสริมการลงทุน ที่ขอมามีการขอเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปีนี้เพิ่มขึ้นถึง 419% อันนี้ก็แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของต่างประเทศ และภาคเอกชนของไทย ยกตัวอย่างเช่น การขอส่งเสริมการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ในรายงานของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ระบุว่า มีจำนวน 39 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน เกือบ 7,500 ล้านบาท ผ่านการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI แล้ว 12 โครงการ เป็นเงินลงทุนกว่า 1,500 ล้านบาท ก็จะส่งผลให้การการลงทุนทางเศรษฐกิจในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ “พื้นที่ชายแดน” ขยายตัวประมาณร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับก่อนที่รัฐบาลนี้ จะเข้ามาขับเคลื่อนประเทศ

ที่กล่าวนั้น เป็นตัวเลข เป็นข้อมูลเชิงสถิติ เป็นการคาดการนะครับ โดยหลักฐานที่มีอยู่นะครับ ในด้านการลงทุนต่าง ๆ เหล่านั้น เพื่อเป็นใช้หลักการในการกำหนดตัวชี้วัดแล้วก็พิสูจน์ให้เห็นว่า “เราเริ่มเดินมาถูกทางแล้ว” โดยทำให้มิติทางการเมืองมี เสถียรภาพ มี “ธรรมาภิบาล” ทางด้านมิติเศรษฐกิจและสังคม ก็จะปรับตัวตามไปในทิศทาง “บวก” ทั้งนี้ก็ขอให้ความสำคัญกับฝ่ายความมั่นคงด้วย เพราะเป็นพื้นฐานของทุกอย่าง โดยภาพรวมแล้ว เสถียรภาพทางเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ “ดี” อัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำ ที่ร้อยละ 1.1 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยร้อยละ 0.3 และบัญชีเดินสะพัดเกินดุล เกือบ 3 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 8.5 ของ GDP สอดคล้องกันกับที่ เว็บไซต์บลูมเบิร์ก ที่รายงานว่าประเทศไทย “ครองแชมป์” ประเทศที่มี “ความทุกข์ยาก น้อยที่สุดในโลก” โดยคำนวณจากอัตราเงินเฟ้อ ร่วมกับอัตราการว่างงาน เป็นอันดับ 1 จากทั้งหมด 74 ประเทศทั่วโลก ผมอยากจะพูดว่าเป็นประเทศที่มี “ความสุขมากที่สุด” น่าจะเข้าใจง่ายกว่า เพราะอะไรพวกเราทุกคนต้องช่วยกัน “ความสำเร็จ” ดังกล่าวเกิดจากความร่วมแรงร่วมใจกัน รักกัน สามัคคีกันของทุกภาคส่วนในรูปแบบ “พลังประชารัฐ” ภายใต้การบริหารของรัฐบาลที่ ต้องมีการบูรณาการ และมี “ธรรมาภิบาล” อย่างแท้จริง ตัวอย่าง “ความเชื่อมโยง” พลังประชารัฐ ที่รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญ ได้แก่ การประชุมยุทธศาสตร์ “ประเทศไทย 4.0″ กับที่ประชุมของอธิการบดีแห่งประเทศไทย ชื่อย่อ ทปอ. จาก มหาวิทยาลัยรัฐ 27 แห่ง และเครือข่ายองค์การบริหารงานวิจัยแห่งชาติ (คอบช.) ที่ผ่านมา “ภาครัฐ” กับ “ภาควิชาการ” หรือนักวิชาการนั้น ต่างคนต่างเดิน ต่างพูด ไม่มียุทธศาสตร์ร่วมกัน ไม่ได้หารือร่วมกันตั้งแต่ต้น ก็เลยไม่เกิดพลัง มีความขัดแย้งสูง ด้วยความไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน ไม่มี momentum ในการขับเคลื่อนประเทศ พูดง่าย ๆ คือ งานวิจัยไม่ได้ตอบสนองความต้องการของประเทศ อย่างแท้จริง และไม่สร้างมูลค่าเพิ่มเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม อันเป็นที่มาของปรากฏการณ์ “งานวิจัยขึ้นหิ้ง” วันนี้เราต้องรื้อทั้งหมด ทั้งระบบเลย ทั้ง ๆ ที่งานวิจัย ร้อยละ 90 ของประเทศ เกิดในรั้วมหาวิทยาลัยในของเรา แต่ไม่มีใครเชื่อมโยง ให้ครบวงจรตั้งแต่ต้นทาง ผู้วิจัย, กลางทาง ได้แก่ผู้ผลิต พัฒนา ต่อยอด สร้างนวัตกรรม แปรรูป ในขั้นสูงขึ้นมา แล้วก็ปลายทาง ไปถึงผู้ใช้ เช่นตลาด ลูกค้า ทั้งในประเทศ และต่างประเทศนะครับ จะต้องทำให้เกิดขึ้นมาให้ได้ ด้วยการบูรณาการกันอย่างแท้จริง

ผมมีตัวอย่างที่ทั้งน่ายินดีและน่าเสียดาย ในเวลาเดียวกัน ได้แก่ หุ่นยนต์ ชื่อ “ดินสอ” ที่ “น่ายินดี” คือเป็นการพัฒนาหุ่นยนต์เชิงพาณิชย์รายแรก และรายเดียว ของประเทศไทย ที่เป็นบริษัทของคนไทย 100% ในการส่งออกไปต่างประเทศ ไปเสิร์ฟอาหาร ที่ประเทศสวีเดน ไปดูแลผู้สูงอายุ ในญี่ปุ่น มีเป้าหมายผลิตและขาย 1 แสนตัว ภายใน 2 ปี ที่ผมกล่าวว่า “น่าเสียดาย” คือ เป็นการรวมกลุ่มกันเอง มาหลายปีแล้วของอดีตนักศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์แขนงต่าง ๆ ที่เป็น “แชมป์โลก” ในการประกวดหุ่นยนต์ ผมเคยพูดหลายครั้งแล้วนะ เอามาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด การประกวดต่าง ๆ เหล่านี้ ด้วยความริเริ่มของ นายเฉลิมพล ปุณโณทก แต่ไม่มีภาครัฐเข้าไปสนับสนุน ภาคเอกชนหรือผู้ประกอบการ ก็ไม่กล้าเข้าไปลงทุน วันนี้ รัฐบาลนี้ ผมในฐานะนายกรัฐมนตรีได้เข้าไปพูดคุย ได้ให้ความสำคัญ กับงานวิจัย กับนักวิจัย สิ่ง “น่าเสียดาย” ลักษณะนี้ จะต้องไม่เกิดอีกต่อไปนะครับ ล่าสุด องค์การทรัพย์สินทางปัญญา แห่งโลก (ไวโป) มีรายงานผลการจัดอันดับประเทศ ที่มีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม โดยประเทศไทย ได้อันดับที่ 52 จาก 128 ประเทศทั่วโลกนะครับ ในช่วงนี้ดีขึ้นมา 3 อันดับ

ดังนั้นการประชุมเชิงบูรณาการนี้ ถือว่าเป็น “ครั้งแรก” ในรอบ 10 กว่าปี บรรดานักวิชาการก็ได้กล่าวในที่ประชุมมาว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 10 กว่าปี ที่ได้มีการหารือกับรัฐบาล เพราะงั้นรัฐบาลก็จะให้วามสำคัญกับภาควิชาการ เข้ามาร่วมกันทำงาน ช่วยกันพัฒนาประเทศ ในกรอบของ “ประชารัฐ” เพื่อขับเคลื่อน “ประเทศไทย 4.0″ ด้วยนวัตกรรม ผลที่ตามมาก็คือความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาในรูปแบบประชารัฐ และเครือข่ายนักวิจัยและแรงงานฝีมือ ในมหาวิทยาลัย ราชภัฏ ราชมงคล อาชีวะ ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ เป็นไปตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ด้วยการนำนวัตกรรมด้านต่าง ๆ ไปสู่การผลิตและต่อยอด เพื่อใช้เองในประเทศและส่งออกไปต่างประเทศต่อไป มีหลายอย่างที่เกี่ยวพันเชื่อมโยงกันทั้งหมด การกำหนดมาตรฐาน การผ่าน อย. สมอ. ต่าง ๆ ต้องเร่งดำเนินการให้ได้โดยเร็วเพื่อจะผลิตได้ จำหน่ายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ตรงกับกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายรัฐบาล ทั้ง 5 กลุ่มเดิมที่มีศักยภาพ ที่จะต้องพัฒนาไปสู่การมีเทคโนโลยีสูงขึ้น นะครับ และ 5 กลุ่มใหม่ที่เราต้องการส่งเสริม สอดคล้องกับ Thailand 4.0 ทั้งนี้ รัฐบาลจะเข้ามาดูแลด้านนโยบาย กฎหมาย งบประมาณ กองทุน แรงจูงใจด้านภาษี ผลตอบแทนนักวิจัย และมาตรการส่งเสริมต่างๆ อีกด้วย

สุดท้ายนี้ ผมขอเรียนเกี่ยวกับสื่อ online ที่อาจจะมีคนใช้ชื่อผมออกไป ไม่ว่าจะเป็นการสร้างการรับรู้ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน โดยผู้ที่สนับสนุนผม รัฐบาล และ คสช. หรือจากการบิดเบือนข้อเท็จจริง ทั้งที่อาจจะโดยเจตนา หวังดี หรือจากผู้ไม่ประสงค์ดี ก็ตาม ผมขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า “ไม่เคย” ใช้สื่อ online หรือช่องทางอื่นใดในนามของผม ในการสื่อสารกันกับพี่น้องประชาชน เพราะผมต้องการจะพบกับพี่น้องด้วยตัวเอง โดยผ่านช่องทางที่เป็นทางการ “เท่านั้น” อาทิเช่น รายการคืนความสุขให้คนในชาติ ทุกวันศุกร์ เวลาประมาณ 2 ทุ่ม 15 การออกแถลงการณ์ เมื่อเกิดเหตุการณ์สำคัญๆ เพื่อต้องการสร้างความเข้าใจ ที่ตรงกัน ให้ทันต่อเหตุการณ์ หรือการให้สัมภาษณ์ ในประเด็นที่สื่อ หรือสังคมให้ความสนใจ ทั้งนี้ก็ต้องการสร้างการรับรู้ และร่วมมือซึ่งกันและกันของคนในชาติ อย่าขยายความเข้าใจผิดๆ กันอีกต่อไปเลย ส่วนช่องทางสื่อสาร “ข้อมูลข่าวสาร” ของรัฐบาลนั้น ก็จะเป็นช่องทางที่สำหรับใช้ในเรื่องที่มีความสำคัญ มีความ เร่งด่วน ลำดับรองๆ ลงไป หรือสิ่งที่เราทำไปแล้วนะครับ ไม่ว่าจะเป็นการแถลงข่าวของทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หรือโฆษกของกระทรวง ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนั้น ๆ ก็จะเป็นผู้แจ้งข่าวสาร รายละเอียดกับพี่น้องประชาชน โดยตรง ด้วยตนเอง สิ่งอื่น ๆ ที่ผมกล่าวมาแล้วทั้งหมดนี้ ผมไม่ต้องการจะปิดบังอะไรสื่อทั้งสิ้น หรือประชาชน สังคมทั้งสิ้น เพราะว่าผมจะทำอะไร ผมก็บอกเล่าชี้แจง ให้ทราบทุกครั้ง ไม่ว่าจะก่อน หรือระหว่างทำ หรือว่าหลังจกนั้น เพราะเป็นการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนว่าเขาต้องการอะไรเพิ่มเติมก็แก้ไขได้ สิ่งที่เราทำได้ เพียงแต่ขอว่าให้พิจารณาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการเสนอข่าว ถึงแม้ว่าอาจจะเป็นข้อเท็จจริงก็ตาม เสนอได้แต่ไม่ใช่เป็นการ “ประโคมข่าว” แล้วมีการแข่งขันกันอย่างเอาเป็นเอาตายในการที่จะให้สังคม ประชาชนได้ซื้อสื่อต่าง ๆ ในการอ่านนะครับ แข่งขันกันมากในขณะนี้ เพราะว่าต้องไปแข่งกับ Social Media ด้วย วันนี้สื่อจริง ๆ ก็ค่อนข้างจะมีปัญหาเรื่องในเชิงธุรกิจ เพราะคนนิยมไปอ่านใน โซเชียล แล้วสามารถที่จะ โพสต์ อะไรต่าง ๆ เข้าไปก็ได้ ทำนองนี้ เพราะฉะนั้นสิ่งต่าง ๆ บางอย่างยังไม่ได้ข้อยุติ ยังไม่มีหลักฐานในการกระทำความผิดที่ชัดเจน ยังอยู่ในกระบวนการยุติธรรม การสอบสวน สืบสวน ก็อย่าเพิ่งได้ว่ากันเอง แล้วก็ขยายความขัดแย้งไปอื่น ๆ ประเด็นอื่น ส่วนใหญ่มักจะเกิดเกี่ยวกับเรื่องการที่จะสงสัย นี่ โน่น ก็เสนอมาได้ เพียงแต่ว่าอย่าขุดคุ้ยกันจนกระทั่งมันเป๋ไป เป๋มา สังคมก็สับสน เขาก็ไม่มีความเชื่อมั่นในเจ้าหน้าที่ในการทำงาน แล้วกดดันเจ้าหน้าที่ด้วย บางอย่างทำให้ทุกย่างเสียหายไปทั้งหมด ก็ขอร้องแค่นั้นเอง วันนี้รัฐบาลได้เพิ่มช่องทางการสื่อสาร ในการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายสำคัญของรัฐบาลให้กับชาวต่างชาติ เป็นภาคภาษาอังกฤษ ในรายการ “ดิ อิน-ไซ-เดอร์ ไทยแลนด์” ช่อง NBT และ NBT World ทุกวันอาทิตย์ เวลาประมาณ 11 นาฬิกา

สำหรับกีฬาโอลิมปิก 2016 ที่กำลังจะปิดฉากลง เราได้เหรียญเพิ่ม 2 เหรียญ จากกีฬาเทควันโดคือ1 “เหรียญเงิน” จาก “เจ้าเทม” เทวินทร์ หาญปราบ และ 2 “เหรียญทองแดง” จาก “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ผมขอเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชนชาวไทยแสดงความยินดี และขอชื่นชมนักกีฬา “ทุกคน ทุกประเภท” รวมทั้งโค้ชและทีมงาน ที่ได้ทำหน้าที่ “ตัวแทนของคนไทยทั้งประเทศ” อย่างสมเกียรติ สมศักดิ์ศรี และนำความสุขมาสู่คนไทยอีกครั้งหนึ่ง รวมความไปถึงนักกีฬาประเภทอื่นด้วย ถึงแม้จะไม่ได้เหรียญ ผมและประชาชนคนไทยก็ยังเป็นกำลังใจให้ท่านเสมอ นำกลับมาพัฒนา แก้ไข ปรับปรุงต่อไป ชัยชนะอยู่ไม่ไกล ขอย้ำอีกครั้งว่า “ชัยชนะ” นั้น เป็นทั้งกำลังใจและเป็นโชคด้วย ดังนั้นคนที่ยังไม่สำเร็จ ก็อย่าได้ท้อแท้ หมดหวัง สิ้นแรง หมดกำลังใจ พยายามต่อไป เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราได้มาในวันนี้อาจจะมองไม่เห็น ก็คือความเป็นเพื่อน และการมีน้ำใจนักกีฬาให้กันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักกีฬาไทยนักกีฬาชาวต่างชาติ ที่ผมเห็นว่าเป็นชัยชนะอย่างหนึ่ง ก็มีความสำคัญไม่แพ้กันกับเหรียญรางวัลต่าง ๆ ที่ทุกคนพยายามที่จะได้ชัยชนะกัน ในช่วงที่ผ่านมา เดี๋ยวนี้เป็นสิ่งที่ประเทศไทยต้องการมากที่สุด ในเวลานี้คือความรัก ความสามัคคี ความเข้าอก เข้าใจซึ่งกันและกัน ความไว้เนื้อเชื่อใจ ถ้าเข้าใจถึงความปรารถนาดีของรัฐบาล ของ คสช. แล้วท่านก็จะใจเย็นลงบ้าง ว่าเราพยายามอย่างเต็มที่ ใช้เวลาให้น้อยที่สุด ในการที่จะเริ่มต้นในการปฏิรูปประเทศ ในการจะพ้นผ่านอันตรายต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจากปัจจัย ทั้งภายใน และภายนอกให้ได้ โดยเร็ว ช่วงนี้อาจจะต้องมีมาตรการต่าง ๆ ออกมา ทั้งนี้เพื่อให้สังคม ให้ประเทศชาติ สงบสุข ถ้าไม่สงบสุข มีปัญหา นี่ โน่นกันจนวุ่นวายทั้งหมด มีความรุนแรงเกิดขึ้นก็เดินหน้าไปสู่การเป็นประชาธิปไตยไม่ได้ เลือกตั้งก็ไม่ได้อีกเพราะบ้านเมืองสับสนวุ่นวานไปหมด อันนี้จะต้องเป็นสิ่งที่จะต้องเป็นข้อพิจารณาที่สำคัญ ผมยืนยันทุกอย่างเป็นไปตาม โร้ดแม๊ป ทุกประการ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประชาชนทุกคน นักการเมือง พรรคการเมืองทุกคน ที่หวังดีต่อประเทศชาติอย่างแท้จริง

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

คุมได้แล้วเพลิงไหม้โรงงานผลิตทิชชู ตาย 8 สูญหาย 2

สระบุรี 1 ก.ค. – เหตุเพลิงไหม้โรงงานผลิตทิชชูใน อ.หนองแค จ.สระบุรี เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงไว้ได้ พบผู้เสียชีวิตแล้ว 8 ราย สูญหาย 2 ราย เบื้องต้นอาคารโรงงานเสียหายทั้งหมด ส่วนสาเหตุต้องรอกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอีกครั้ง ช่วงเที่ยงวานนี้ (30 มิ.ย.) เกิดเพลิงไหม้อย่างรุนแรงในโรงงานผลิตทิชชู ตั้งอยู่ภายในนิคมเหมราช อ.หนองแค จ.สระบุรี เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถดับเพลิงกว่า 50 คัน ช่วยควบคุมสถานการณ์ พบเพลิงลุกไหม้ภายในโรงงาน และได้รับแจ้งว่ามีพนักงานอยู่ภายในสำนักงานชั้น 2 และชั้น 3 รวม 10 คน ยังไม่สามารถออกมาได้ จึงเร่งฉีดน้ำสกัด แต่เนื่องจากจุดที่เกิดเพลิงไหม้มีกองกระดาษซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี กระทั่งเวลาล่วงเลยไปกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด จากนั้นได้รับรายงานว่ามีผู้สูญหาย 10 คน ทั้งหมดเป็นพนักงาน ก่อนเกิดเหตุทำงานอยู่บนชั้น 2 และชั้น 3 ของโรงงานและเป็นห้องกระจก แต่จุดเกิดเพลิงไหม้อยู่ชั้นล่าง อาจไม่ได้ยินหรือไม่รู้ว่าเกิดเพลิงไหม้ ซึ่งจุดที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุดคือชั้น 2 […]

อุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในรายภาค ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 […]

5 คนร้ายปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดังย่านลาดพร้าว

กรุงเทพฯ 30 ก.ค. – อุกอาจ! นัดซื้อคริปโต กลายเป็นแผนปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท กลางลานจอดรถห้างดังย่านลาดพร้าว ก่อนหลบหนีลอยนวล ตำรวจเร่งสกัดจับคนร้าย เกิดเหตุอุกอาจ ปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท กลางลานจอดรถชั้น 2 ของห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. โดยกลุ่มคนร้ายเป็นชาย 5 คน มีทั้งอาวุธปืนและมีด หลังก่อเหตุ กลุ่มคนร้ายใช้รถยนต์ฮอนด้า ซีวิค สีเทา ทะเบียน ขก 1116 นครสวรรค์ หลบหนีออกจากห้าง ล่าสุดทราบว่า คนร้ายหลบหนีไปตามเส้นทางถนนสายเอเชีย สอบถามผู้เสียหาย ให้การว่า นัดกับกลุ่มคนร้ายมาซื้อทรัพย์สินเป็นเงินคริปโทเคอร์เรนซี 3.4 ล้านบาท โดยผู้เสียหายนำเงินสดมาเพื่อจ่ายแลกกับเงินคริปโต แต่ถูกฝ่ายคนร้ายชิงเงินสดทั้งหมดและขับรถหนีไป ทั้งนี้ ตำรวจสืบสวน สน.พหลโยธิน อยู่ระหว่างลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี. – สำนักข่าวไทย

จับ 6 ล้อขนยาบ้า 10 ล้านเม็ด ซุกลำโพง

30 มิ.ย. – ขบวนค้ายาเสพติดยังพยายามขนยาบ้าเข้ามาทางชายแดนภาคเหนือของไทย ช่วง 9 เดือนมานี้ เจ้าหน้าที่สกัดได้กว่า 130 ล้านเม็ด แต่ที่หลุดรอดไปได้อีกมหาศาล ซึ่งพบว่ามีการขนยาบ้าลอตใหญ่เข้าสู่พื้นที่ชั้นในมากขึ้น โดยเปลี่ยนจุดพักยาบ้าเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจและใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ขนยาบ้าที่ซุกซ่อนมากับสินค้ามากขึ้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่สกัดรถ 6 ล้อ ขนยาบ้า 10 ล้านเม็ด ได้ที่จังหวัดแพร่ โดยซุกซ่อนในตู้ลำโพง คนขับอ้างว่า รับงานจากบริษัทให้ไปส่งสินค้าที่ลพบุรี โดยไม่รู้ว่ามีการซุกซ่อนยาบ้าไว้ เจ้าหน้าที่เร่งขยายผล.-สำนักข่าวไทย