“จ่านิว” ลั่นไม่อโหสิกรรมคนรุมทำร้าย จี้ตำรวจเร่งตามจับ

กรุงเทพฯ 3 มิ.ย. – “จ่านิว” แกนนำกลุ่มสตาร์ทอัพพีเพิล ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์รุมทำร้ายบาดเจ็บ หลังส่งเพื่อนที่ห้างเดอะสตรีท รัชดาฯ เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวส่ง รพ.ตำรวจ ขณะที่ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ตรวจสอบที่เกิดเหตุและกล้องวงจรปิด


เมื่อเวลาประมาณ 21.15 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ “จ่านิว” แกนนำกลุ่มสตาร์ทอัพพีเพิล ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ไม่ต่ำกว่า 5 คน สวมหมวกกันน็อกรุมทำร้าย บริเวณป้ายรถเมล์ปากซอยนาทอง (รัชดาฯ ซอย 7) หลังส่งเพื่อนที่ห้างเดอะสตรีท รัชดา และกำลังจะเดินทางกลับบ้านพัก จนได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า ปาก และศีรษะแตก ส่วนประชาชนที่ยืนรอรถเมล์อยู่นั้นต่างพากันหนีกระเจิงไปคนละทิศละทาง 


นายสิรวิชญ์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุไปส่งเพื่อนที่ห้างเดอะสตรีท รัชดา ก่อนจะเดินมาที่ป้ายรถเมล์ตรงจุดเกิดเหตุ เพื่อกลับบ้านพัก ระหว่างนั้นมีคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์มากันหลายคน ลงจากรถมารุมทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บตามใบหน้าและร่างกาย ก่อนจะหลบหนี 

ด้าน พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ รักษาราชการแทนผู้กำกับการ สน.ห้วยขวาง กล่าวว่า หลังเกิดเหตุตำรวจได้พานายสิรวิชญ์ไปตรวจร่างกายที่ รพ.ตำรวจ เบื้องต้นพบว่าได้รับบาดเจ็บตามร่างกายและใบหน้า ทั้งนี้ “จ่านิว” แจ้งว่า ขอไปตรวจที่ รพ.มิชชั่น พนักงานสอบสวนจึงพาตัวไป โดย “จ่านิว” ให้การว่า กลุ่มคนร้ายลงมาทำร้ายร่างกายหลายคน จำหน้าไม่ได้ จึงสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดรอบจุดเกิดเหตุ เพื่อหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ความคืบหน้าเมื่อเวลา 01.00 น. วันนี้ (3 มิ.ย.) น.ส.พัฒน์นรี ชาญกิจ อายุ 43 ปี มารดา “จ่านิว” เดินทางไปเยี่ยมบุตรชายที่ห้องฉุกเฉิน รพ.มิชชั่น ท่ามกลางความห่วงใยของเพื่อนๆ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่มาเฝ้าติดตามด้วยความห่วงใย โดย “จ่านิว” กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้ตนรู้สึกหวาดกลัว แต่ติดใจว่าทำไมต้องเล่นหมาหมู่ ที่ผ่านมามีคนเตือนตนมาเยอะ แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องขึ้น เพราะระวังตัวมาตลอดอยู่แล้ว ตอนจะใช้บริการรถประจำทางก็พยายามเลือกรอรถที่ป้ายซึ่งมีคนพลุกพล่าน แต่ก็พลาดจนได้ 

“ตอนเกิดเหตุคนร้ายมีกันประมาณ 5-6 คน แต่งกายรัดกุมมิดชิด มีรถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ และใช้อาวุธคล้ายไม้พลองครบมือทุกคน เข้ามารุมตีตน โดยไม่พูดจาอะไร ตนคิดว่าการกระทำแบบนี้เหมือนจะพยายามฆ่ากัน ไม่รู้จะอาฆาตพยาบาทอะไรตนหนักหนา จึงอยากบอกกับผู้ก่อเหตุว่า ตนจะไม่อโหสิกรรมให้แน่นอน และฝากบอกตำรวจด้วยว่า ขอให้ทำคดีให้เร็วที่สุด 

ด้าน น.ส.พัฒน์นรี ชาญกิจ มารดา “จ่านิว” กล่าวว่า แพทย์ที่ให้การรักษาลูกชาย บอกว่าไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง ผลตรวจในเบื้องต้นไม่มีผลกระทบกระเทือนถึงสมอง แต่ลูกชายบ่นเวียนศีรษะ ตนจึงอยากให้นอนรอดูอาการสัก 24 ชั่วโมง. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]