แจงคลิป ตร.จราจร สน.ปทุมวันล็อคล้อ ไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุเพียงควบคุมอารมฌ์์ไม่ได้

กรุงเทพฯ 30 พ.ค.- รอง ผบช.น.แจงคลิป ตำรวจจราจร สน.ปทุมวัน ล็อคล้อ ไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ เพียงแต่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ ล่าสุดถูกย้ายไปฝ่ายอำนวยการฝึกการควบคุมอารมฌ์


จากกรณีที่มีคลิปวีดีโอเผยแพร่ในโลกโซเชียลเป็นภาพตำรวจจราจร สน. ปทุมวัน และผู้ขับขี่รถยนต์รายหนึ่งมีปากเสียงกันหลังตำรวจจราจรนายดังกล่าวได้ทำการล็อคล้อ เนื่องจากคนขับรถคันดังกล่าวนำรถยนต์ส่วนบุคคลมารับส่งผู้โดยสาร ซึ่งถือว่าเป็นความผิดเข้าข่ายการใช้รถผิดประเภท แต่ผู้ขับขี่รายดังกล่าวไม่ยินยอมจนเกิดปากเสียงกันและมีการโต้เถียงกัน

พลตำรวจตรีจิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าตำรวจจราจร สน.ปทุมวัน ไปพบรถของผู้ขับขี่ในคลิปไปจอดที่ห้ามจอด บริเวณถนนพระราม 1  และเมื่อจะเข้าไปเปรียบเทียบปรับก็ขับรถเข้ามาภายในห้างสรรพสินค้า และพบว่ามีผู้โดยสารจ่ายเงินให้คนขับก่อนลงจากรถ จึงเข้าไปจับกุมในข้อหา ใช้รถผิดประเภท แต่ผู้ขับขี่รายดังกล่าวไม่ยอมให้ยึดใบขับขี่ จึงล็อคล้อ จนกระทั่งเกิดการโต้เถียงตามที่ปรากฎในคลิป 


ทั้งนี้ตามข้อกฎหมายแล้ว การล็อคล้อสามารถล็อคได้ก็ต่อเมื่อรถคันดังกล่าวจอดอยู่ในถนน หรือที่สาธารณะ ถึงแม้เป็นห้างสรรพสินค้าก็ต้องตรวจสอบว่า ในจุดที่จอดรถเป็นพื้นที่สาธารณะด้วยหรือไม่ แต่หากเป็นการใช้รถผิดประเภท คือนำรถส่วนบุคคลไปวิ่งรับส่งผู้โดยสาร ก็สามารถดำเนินคดีได้ทันที แม้ว่าจะนำรถเข้าไปในพื้นที่ของห้างสรรพสินค้าแล้ว ซึ่งจากคลิปดังกล่าว จะเห็นได้ว่าผู้ขับขี่ก็ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ยึดใบขับขี่ จากรายงานของ สน.ปทุมวัน ทราบว่าในท้ายที่สุดผู้ขับขี่รายดังกล่าวได้ยอมไปเสียค่าปรับในข้อหาขับรถผิดประเภทในอัตราค่าปรับสูงสุด ก่อนที่จะนำคลิปดังกล่าวไปโพสต์ลงในโซเชียลซึ่ง คลิปดังกล่าวถูกตัดต่อออกมาเพียงบางส่วนเท่านั้น

ซึ่งตามความเห็นแล้วตำรวจดังกล่าวไม่ได้ปฏิบัติเกินกว่าเหตุตามที่ระเบียบและกฎหมายกำหนด หรือมีการใช้ถ้อยคำหยาบคายดูหมิ่นผู้ขับขี่รายดังกล่าว แต่มีลักษณะอาการควบคุมสติอารมณ์ไม่ได้ ซึ่งล่าสุดทราบว่า ทาง สน.ปทุมวัน มีการออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนายดังกล่าวไปทำงานในหน้าที่อำนวยการเพื่อเป็นการฝึกการบังคับใช้กฎหมายและการควบคุมอารมณ์ ก่อนที่จะมีการพิจารณาเรื่องการกลับมาปฏิบัติหน้าที่ในการจราจรอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

นายกฯพบสีจิ้นผิง

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง”

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง” ย้ำความสัมพันธ์ทางการทูตและหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ด้านจีนหนุนไทยมีบทบาทในเวที ระดับโลกและภูมิภาค

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟเมื่อวาน

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ขอทำไปประเมินไป อย่าทำให้เป็นประเด็น มองเป็นสิทธิฝั่งเมียนมาซื้อไฟฟ้าจากลาว ลั่นเดี๋ยวต้องคุยอีก ย้ำตัดไฟครั้งนี้ไม่ได้ใช้อารมณ์ รู้อยู่กระทบเศรษฐกิจบ้าง แต่แค่ 0.1%

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี