ประชาธิปัตย์ 29 พ.ค.- รองหัวหน้า ปชป. แนะ พปชร.เอาให้ชัด ว่าใครมีอำนาจคุย และต้องอดทนในการประสานเจรจา ยังไม่ปิดประตูพูดคุย
นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ “สำนักข่าวไทย” ถึงความคืบหน้าในการหารือจัดตั้งรัฐบาล หลังจากที่พรรคพลังประชารัฐเกิดปัญหาภายในเคลียร์กันไม่ลงตัว ว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ได้เสนอแนวทางในการทำงานร่วมกัน คือ แก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย ต้องนำนโยบายแก้จน สร้างคน สร้างชาติ รวมถึง การประกันรายได้พืชผลทางการเกษตร เป็นส่วนหนึ่งในนโยบายรัฐบาล หากพรรคแกนนำรับเงื่อนไขนี้ได้ ค่อยมาคุยกันในรายละเอียดในเรื่องการจัดสรรตำแหน่ง
“คนที่เป็นแกนหลักต้องพิจารณาว่า จะทำอย่างไรให้ได้สมบูรณ์ทั้งหมด ไม่ใช่ได้แค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง คนที่เป็นแกนหลักต้องมีความอดทน ประสาน เจรจา โดยต้องรู้ว่าจุดไหนที่จะทำให้เดินหน้าต่อไปได้ ที่สำคัญคือ ต้องให้เกียรติกันและกัน และพูดจากันด้วยเหตุผล” นายนิพนธ์ กล่าว
ส่วนกรณีที่นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แถลงว่าจะให้มีการเลือกนายกรัฐมนตรีก่อน ค่อยจัดสรรตำแหน่งทีหลังนั้น นายนิพนธ์ กล่าวว่า เป็นดุลยพินิจของพรรคพลังประชารัฐที่จะตัดสินใจ หากต้องการเดินแบบนี้ก็เป็นสิทธิ เพราะมีเสียง ส.ว. 250 เสียงสนับสนุนอยู่แล้ว ส่วนพรรคประชาธิปัตย์จะตัดสินใจอย่างไร จะต้องหารือกันในที่ประชุมร่วมระหว่างกรรมการบริหารพรรคและส.ส. ซึ่งขณะนี้ยังไม่กำหนดว่าจะประชุมเมื่อไร
“ที่ผ่านมาการจัดตั้งรัฐบาลจะดีลทุกอย่างให้จบก่อน แล้วค่อยเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะทำให้การตัดสินใจเป็นไปพร้อมกันทีเดียว แต่คนที่เป็นแกนหลัก เขามีสิทธิตัดสินใจ ผมคิดว่าเจ้าของบ้านต้องมีความอดทนในการเชิญแขก แต่ทั้งหมดก็เป็นเรื่องภายในที่พรรคพลังประชารัฐต้องไปจัดการ ผมยังคิดว่าขณะนี้ยังเจรจากันต่อได้ ภายใต้การเคารพซึ่งกันและกัน ให้เกียรติซึ่งกันและกัน เพราะมีหลายหลักที่จะนำมาใช้ในการจัดรัฐบาลร่วมกัน เพื่อให้เกิดความพอดี คุยด้วยเหตุด้วยผล” นายนิพนธ์ กล่าว
เมื่อถามว่า หากไม่ได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะสามารถผลักดันนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ได้หรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า ต้องพิจารณาถึงกลไกในการแก้ปัญหาว่า เมื่อเรากำหนดเรื่องการแก้ปัญหาพืชผลการเกษตร ต้องใช้เครื่องมือบริหารอย่างไร ซึ่งต้องพูดคุยกัน
“ผมเห็นว่า สิ่งที่ควรชัดเจนก่อน คือ ในพรรคพลังประชารัฐใครคือบุคคลที่มีอำนาจในการเจรจา เรื่องนี้จะต้องนิ่งและเป็นเอกภาพก่อน เพราะขณะนี้พรรคการเมืองที่จะไปร่วม ก็ไม่ทราบว่าพูดจากับใคร” นายนิพนธ์ กล่าว ..- สำนักข่าวไทย