พรรคเพื่อไทย 28 พ.ค. –ภูมิธรรมระบุไม่ทราบเรื่อง 7 พรรคร่วมจะเสนอพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เป็นนายกฯ ยืนยันแคนดิเดตนายกฯ ยังมีแค่ 4 คน การต่อรองผลประโยชน์ฝ่ายพปชร.ยังไม่ลงตัว ส่งผลเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.
นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่ทราบว่ากระแสข่าวว่า 7 พรรคร่วมจะเสนอชื่อพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยและส.ส.บัญชีรายชื่อชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาจากที่ใด แม้ว่าพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์จะเป็นผู้ที่มีความเหมาะสม เป็นบุคคลตรงไปตรงมา แต่ตามกฎหมายกำหนดว่าแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจะต้องมีจำนวนส.ส.ในพรรคอย่างน้อย 25 คน แต่พรรคเสรีรวมไทย มีจำนวน ส.ส.ไม่ถึง
“แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของ 7 พรรคร่วม จะมี 4 คน คือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายชัยเกษม นิติสิริ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ซึ่ง 7 พรรคร่วมจะนัดหารือเพื่อสรุปชื่อบุคคลอีกครั้ง หลังทราบความชัดเจนวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ได้บุคคลที่เหมาะสมที่สุดในสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน โดยเฉพาะกติกาที่ผิดแปลกไปมาก จะเห็นได้ชัดเจนจากผลการเลือกตั้งซ่อมเขต 8 จังหวัดเชียงใหม่ คะแนนของผู้ชนะการเลือกตั้งไปเพิ่มให้กับพรรคการเมืองอื่นๆด้วย” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าว
นายภูมิธรรม กล่าวว่า กติกาที่เกิดขึ้นสะท้อนว่ากฎกติกาต้องได้รับการทบทวน และจะเห็นว่าจนถึงเวลานี้แต่ละพรรคการเมืองยังไม่มีความชัดเจน เพราะยังมีการต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง ทำให้ประเมินได้ว่าอนาคตทางการเมืองจะไม่มีความมั่นคง การเมืองจะดูเรื่องผลประโยชน์ ความพอใจของนักการเมืองเป็นหลัก ทั้งนี้ 7 พรรคการเมืองยังยืนยันที่จะยึดสิ่งที่สัญญาไว้กับประชาชน จะต่อสู้อย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อให้เจตนารมณ์ของประชาชนเป็นเรื่องที่มีความหมายต่อไป
ส่วนการติดแฮทแท็กบนโลกออนไลน์ให้พรรคประชาธิปัตย์ว่าฝ่ายค้านอิสระ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์อยู่ในภาวะต้องตัดสินใจมาก เพราะสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์จะทำในฐานะพรรคการเมืองคือเมื่อเคยพูดอะไรกับประชาชนไว้ต้องทำให้ชัดเจน เชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์จะตัดสินใจได้ดี และไม่ใช่เพียงแต่พรรคประชาธิปัตย์อย่างเดียวที่เกิดปัญหาความไม่ลงตัวของพรรค แต่พรรคพลังประชารัฐก็ไม่ต่างกัน เพราะขั้วอำนาจเดิมต้องการยึดกระทรวงหลัก ทำให้เกิดการเจรจาต่อรองกันจนถึงวันนี้ก็ยังตกลงผลประโยชน์ไม่จบ เมื่อเกิดปัญหาเหล่านี้เชื่อว่าจะส่งผลต่อการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพราะทุกการกระทำของพรรคการเมืองอยู่ในสายตาประชาชน
นายภูมิธรรม กล่าวถึงกรณีงูเห่า ว่า เป็นเรื่องไม่ง่ายที่จะไประบุว่าคนไหน ปัญหาส่วนหนึ่งมาจากกลไกและกติกาในรัฐธรรมนูญ ที่ทำให้เกิดการต่อรอง ดังนั้น ต้องกลับมาดูและแก้ไขกติกาตรงนี้เพื่อยุติการต่อรอง ซึ่งประชาชนต้องพิจารณาและไม่ยอม.-สำนักข่าวไทย
