พรรคอนาคตใหม่ 16 พ.ค. –ธนาธรประกาศเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล พร้อมเป็นนายกฯ เดินหน้าคุยอนุทิน -จุรินทร์-กัญจนา ไม่กังวล กกต.ส่งศาล รธน.วินิจฉัยคุณสมบัติ
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แถลงถึงจุดยืนทางการเมือง ว่า ก่อนการเลือกตั้ง ได้เห็นว่าสังคมไทยมีความกระตือรือร้นที่จะเห็นความเปลี่ยนแปลง และให้ความหวังว่าการเลือกตั้งจะเป็นทางออกของสังคมได้ เพื่อให้สังคมกลับสู่ความเป็นประชาธิปไตย ทำให้เกิดความหวังสูงขึ้นเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับกระแสการตื่นตัวทางการเมืองสูงขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังการเลือกตั้งทำให้ประชาชนทั่วประเทศสงสัยความชัดเจน ทำให้ความหวังลดน้อยถอยลง ประชาชนรู้สึกว่ามีเลือกตั้งหรือไม่มีก็เหมือนเดิม
“ประชาชนหลายฝ่ายในประเทศไทยตอนนี้หมดหวัง และปักใจเชื่อแล้วว่า พรรคพลังประชารัฐจะเป็นรัฐบาล และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่พรรคอนาคตใหม่ไม่สามารถปล่อยให้สังคมสิ้นหวังแบบนี้ต่อไปได้ จึงขอยืนยันเจตนารมณ์ตั้งแต่การก่อตั้งพรรคถึงภารกิจอันดับ 1 คือการหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช.และจะแสดงเห็นว่าจะสู้ถึงที่สุด ขอประกาศตัวเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพราะเชื่อว่าในสถานการณ์คลุมเครือเช่นนี้ มีแต่พรรคอนาคตใหม่เท่านั้นที่จะดึงความสามัคคีร่วมกันและดึงพรรคการเมืองต่าง ๆ ที่มีความขัดแย้งมาทำงานร่วมกัน เพื่อเป้าหมายเดียวกันคือส่งทหารกับกรม กอง แก้รัฐธรรมนูญ เพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ที่เป็นประชาธิปไตย ดังนั้น เพื่อขจัดความสิ้นหวัง เราจะจัดตั้งรัฐบาลเอง ถ้าหากพรรคอนาคตใหม่สามารถรวบรวมเสียงจนจัดตั้งรัฐบาลได้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของคสช.” หัวหน้าพรรคอนาคต ใหม่ กล่าว
นายธนาธร กล่าวว่า หลังจากนี้จะไปพูดคุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และน.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาด้วยตัวเอง เพื่อขอให้มาร่วมมือกันปิดสวิตช์ ส.ว.ให้ประเทศเดินหน้า และมั่นใจจะสามารถทำได้ เชื่อว่าถ้าพรรคอนาคตใหม่รวบรวมเสียงได้ กระแสสังคมจะช่วยกดดันส.ว.ให้รับมติของประชาชน
นายธนาธร กล่าวถึงการประกาศตัวเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ว่า เป็นการตัดสินใจเพื่อเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลด้วยตัวเอง ไม่ใช่มติของ 7 พรรคการเมืองที่ร่วมลงสัตยาบัน ซึ่งที่ผ่านมาได้พูดคุยอย่างต่อเนื่องและส่งสัญญาณให้บางพรรคทราบแล้ว ซึ่งเหตุที่ตัดสินใจเช่นนี้ เพราะพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นพรรคอันดับ 1 พูดหลายครั้งว่าพร้อมให้ใครก็ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช. อย่างไรก็ตาม ได้แจ้งเจตนานี้ให้พรรคบางพรรคทราบก่อนหน้านี้แล้ว โดยพูดชัดเจนว่าขอเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลเอง เพราะภายใต้ความคลุมเครือเช่นนี้ ผู้ที่ได้ประโยชน์มากสุดคือพรรคพลังประชารัฐ เราต้องการทำลายความคลุมเครือ ต้องการหยุดยั้งการสืบทอด คสช. เมื่อไม่มีใครเป็นแกนนำ เราขออาสาทำเอง
ส่วนมติล่าสุดของกกต.ที่ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส. นายธนาธรกรณีถือหุ้นสื่อ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า มั่นใจว่าไม่มีอะไรสุ่มเสี่ยง เพราะ กกต.ยังไม่ตัดสินใจเรื่องนี้ด้วยตัวเอง จึงมั่นใจในหลักฐานเอกสารทั้งหมดว่าไม่มีผลอะไรกับเรื่องคุณสมบัติการสมัครเป็นส.ส.ของตน และไม่คิดว่าเรื่องนี้เป็นประเด็น กรณีนี้มองว่าคือความพยายามเฮือกสุดท้ายจของคสช. ที่จะสกัดกั้นพรรคอนาคตใหม่.-สำนักข่าวไทย
