ตั้งเป้าเพิ่มยอดส่งออกแฟชั่นแตะ 1 ล้านล้านบาทใน 5 ปี

กรุงเทพฯ 22 ส.ค. – ก.อุตฯ ตั้งเป้ายกระดับสินค้าแฟชั่นด้วยอุตสาหกกรม 4.0 มุ่งเพิ่มยอดส่งออกเป็น 1 ล้านล้านบาทใน 5 ปีนับจากนี้ไป


นางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธานเปิดงานประชุมนานาชาติด้านการออกแบบแฟชั่น International Fashion CO-Desing:Ride the Power of Asia โดยระบุว่า ยุทธศาสตร์การพัฒนาภาคอุตสาหกรรมของไทยไปสู่ industry 4.0 ในส่วนอุตสาหกรรมแฟชั่น ประเทศไทยมีเป้าหมายก้าว ขึ้นสู่การเป็น ฮับด้านแฟชั่นของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน พร้อมตั้งเป้าหมายเพิ่มยอดการส่งออกสินค้าแฟชั่น ซึ่งประกอบด้วย สิ่งทอเครื่องนุ่งห่ม อัญมณีและเครื่องประดับและเครื่องหนัง จากที่ปัจจุบันมียอดส่งออกปีละประมาณ 700,000 ล้านบาทให้เพิ่มเป็น 1 ล้านล้านบาทภายใน 5 ปีนับจากนี้ไป นอกจากนี้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม(กสอ.)กำลังจะฟื้นโครงการ Bangkok international Fashion Week เพื่อให้คำว่า Bangkok คู่กับคำว่า Fashion ไปด้วยกันเพื่อให้ประเทศไทยก้าวไปสู่การเป็นฮับแฟชั่นของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนให้ได้

สำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย จะดำเนินการทั้งการใช้เทคโนโลยีและการออกแบบโดยใช้ความคิดเชิงสร้างสรรค์ทั้งนี้ประเทศไทยยังมีนักออกแบบไม่เพียงพอ กระทรวงอุตสาหกรรมจึงเดินหน้าผลักดันให้มีการตื่นตัวในการพัฒนานักออกแบบขึ้นภายในประเทศ อย่างไรก็ตามหากจำนวนนักออกแบบยังไม่เพียงพอกับความต้องการ ก็จะนำผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศเข้ามาช่วยเหลือซึ่งขณะนี้ได้นำผู้เชี่ยวชาญจากประเทศอิตาลีเข้ามาช่วยเหลือแล้ว โดยเริ่มตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา เข้ามาช่วยเหลือในส่วนของอุตสาหกรรมรองเท้าบูทและปีนี้ผู้เชี่ยวชาญจากอิตาลีได้เข้ามาช่วยเหลือในการพัฒนารองเท้าเพื่อสุขภาพ ขณะเดียวกันจะมีการ ผสมผสานงานออกแบบร่วมกับนักออกแบบไทยและมีการผสมผสานวัฒนธรรมไทยเข้าไปด้วย นอกจากนี้การพัฒนาอุตสาหกรรมแฟชั่น ยังสามารถทำได้ในรูปแบบต่างๆ เช่น  โค-แบรนด์ Co-branding ได้มีการออกแบบร่วมกันระะหว่างเจ้าของตราสินค้าแฟชั่น  Co-design การออกแบบสินค้าแฟชั่นร่วมกันตั้งแต่วัตถุดิบจนถึงสินค้าสำเร็จรูปโดยอาจเป็นการข้ามอุตสาหกรรม เช่นสินค้าเสื้อผ้าร่วมกับสินค้าอัญมณีและเครื่องหนังเป็นต้น และอาจทำในรูปแบบ Cross Culture โดยปัจจุบันแฟชั่นเสื้อผ้าไทยมีการพัฒนาสินค้าเสื้อผ้าแฟชั่นโดยร่วมมือกับนักออกแบบประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซีย ส่งผลให้สินค้าแฟชั่นเสื้อผ้าภาคใต้ของประเทศไทย สอดคล้องกับความต้องการของประชากรในมาเลเซียและอินโดนีเซียเป็นต้น


ขณะนี้ อุตสาหกรรมแฟชั่นไทยยังต้องการการออกแบบเพื่อให้มีความร่วมสมัยทั้งนี้เพื่อให้อุตสาหกรรมแฟชั่นไทย มีความสามารถในการผลิตสินค้าที่ตรงกับความต้องการของตลาดโลกเพื่อจะได้ส่งออกสินค้าแฟชั่นป้อนสู่ตลาดโลกได้

วันนี้ประเทศไทยมีทิศทางชัดเจนในการก้าวสู่ Thailand 4.0 ที่จะสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนให้กับประเทศไทยในศตวรรษที่ 21 โดยอาศัยความได้เปรียบของประเทศไทยที่มีความหลากหลายทางชีวภาพและความหลากหลายเชิงวัฒนธรรมมาสร้างสินค้าที่เป็นนวัตกรรมไม่ใช่สินค้าโภคภัณฑ์เช่นที่ผ่านมา ซึ่งสาขาแฟชั่นเป็นการผสมผสานระหว่างความคิดสร้างสรรค์กับเทคโนโลยีที่สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันบนความหลากหลายทางวัฒนธรรมของไทยและอาเซียนอยู่แล้ว เพียงพัฒนาเทคโนโลยีต่อยอดให้เกิดมูลค่าเพิ่มโดยอาศัยกลไกในการพัฒนาที่มีความมุ่งเน้นความร่วมมือกันในหลายมิติทั้งภาคการผลิตกับภาคบริการออกแบบด้านความคิดสร้างสรรค์กับเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ความร่วมมือในระดับนานาชาติและการเป็นหุ้นส่วนกันในระดับภูมิภาคอาเซียน

สำหรับงานประชุมนานาชาติด้านการออกแบบแฟชั่น International Fashion CO-Desing:Ride the Power of Asia จัดขึ้นภายใต้กิจกรรมสร้างนักออกแบบ Innoneering desiners ยุคใหม่ ในโครงการยกระดับผลิตภัณฑ์ SMEs สู่ตลาดโลก ซึ่งจัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่าง 22-23 ส.ค.นี้ โดยมีผู้ทรงอิทธิพลและนักออกแบบชื่อดังทั้งในประเทศและระดับโลกรวมทั้งนักออกแบบชั้นนำของไทยมาร่วมงาน-สำนักข่าวไทย


 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

วันที่ 5 ชายแดนสุรินทร์ปะทะหนักแต่เช้ามืด

สุรินทร์ 28 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 5 ชายแดนสุรินทร์ กัมพูชาเปิดฉากปะทะหนักตั้งแต่เช้ามืด โดยเฉพาะโซนปราสาทตาควาย ด้านทีมข่าวลงพื้นที่ ต.บักได พบกระสุน BM-21 ตกจำนวนมาก บางหมู่บ้านเกิน 40 ลูก ขณะที่ศูนย์พักพิง ชาวบ้านยังมีปัญหาการหลับนอน และยังต้องการสิ่งของบริจาคจำนวนมาก ทีมข่าวลงพื้นที่ ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ วันนี้ มีกระสุน BM 21 มาตกในพื้นที่เป็นจำนวนมาก บางหมู่บ้านเกินกว่า 40 ลูก แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวบ้าน แต่สถานการณ์การปะทะ ที่เข้าสู่วันที่ 5 ทำให้วัวตายไปหลายตัว ส่วนใหญ่ตกในพื้นที่ทางการเกษตร โดยวันนี้พบว่า มีการเปิดฉากยิงปะทะกันด้วยอาวุธหนักตั้งแต่ช่วงเวลาตี 3 และมีเสียงดังอย่างต่อเนื่องจนถึงขณะนี้ เว้นระยะบ้าง เสียงรัวถี่บ้าง สลับกันไป โดยเฉพาะช่วง 10 โมงครึ่งที่ผ่านมา มีการปะทะกันชุดใหญ่เกินครึ่งชั่วโมง ทำให้เครื่องบินรบ F 16 ต้องขึ้นบินถล่ม เมื่อ 11 โมงเศษที่ผ่านมา สองแนวหลักที่ยิงข้ามมาเป็นประจำคือ […]

“ภูมิธรรม” ยกทีมไปมาเลเซีย ย้ำกัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กทม. 28 ก.ค.-“ภูมิธรรม” ยกทีมไปมาเลเซีย คุย “ฮุน มาเนต” หยุดยิงเป็นเรื่องแรก และต้องแสดงให้เห็นว่าจริงใจ ยันไม่มีเรื่องแผนที่ 1 : 200,000 พร้อมยึดหลักอธิปไตยและทรัพย์สินของประชาชนเป็นที่ตั้ง และก่อนไปหารือกองทัพแล้ว นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะประกอบด้วย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน. 6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย เพื่อเข้าร่วมการประชุมหารือแนวทางสันติภาพในภูมิภาค ณ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย นายภูมิธรรม กล่าวว่าวันนี้จะพบกันในเวลาประมาณ 15.00 น. จะมีการคุยกับนายฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งเป็นการยกระดับการคุยในระดับผู้นำประเทศในระดับนายกรัฐมนตรี โดยมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนจะเป็นโฮส มีผู้เสนอตัวเข้ามาเป็นผู้สังเกตการณ์2 ประเทศคือสหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐประชาชนจีน […]

มทภ.2 ลั่น “ผมยังอยู่” หลังกัมพูชาปล่อยเฟกนิวส์

กทม. 28 ก.ค.-มทภ.2 ลั่น “ผมยังอยู่” หลังกัมพูชาปล่อยเฟกนิวส์ ทหารถือรูปภาพ ข้อความ RIP หวังทำลายขวัญกำลังใจ ยันจะต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ลูกน้อง ดูแลความปลอดภัยประชาชน ในการปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 ก.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ภายหลังกัมพูชามีการรายงานและเผยแพร่รูปทหารถือภาพของตนเอง พร้อมข้อความ RIP ว่า เป็นข่าวปลอม หวังทำลายขวัญกำลังใจทหารแนวหน้าและคนไทย ยืนยันว่า ปัจจุบันนี้ตนยังต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่เจ้าหน้าที่ทหารทุกคนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ รวมถึงการปกป้องอธิปไตยของไทยต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และประชาชนมีความปลอดภัยอย่างแท้จริง พล.ท.บุญสิน ระบุต่อว่า ที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชาพยายามบิดเบือนข้อมูล โดยการปล่อยข่าวเท็จ สร้างความสับสนในหมู่ของคนไทย ดังนั้น อยากให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้.-313.-สำนักข่าวไทย

จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเร่งอพยพชาวบ้านกลางดึก

แพร่ 28 ก.ค.-จ.แพร่ น้ำป่าไหลหลากในช่วงกลางดึก พื้นที่ ม.9 และ ม.1 ต.ไผ่โทน อ.ร้องกวาง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพประชาชน แต่ในระหว่างอพยพ กระแสน้ำไหลเชี่ยว ทำให้ชาวบ้านที่กำลังข้ามน้ำถูกพัดออกไปติดอยู่อีกฝั่ง โชคดีชาวบ้านโยนเชือกช่วยเหลือไว้ได้ทัน ขณะน้ำเมื่อคืนไหลแรงมาก ชาวบ้านเก็บของไม่ทัน มีรถยนต์ ของใช้ที่ได้ถูกน้ำท่วมเสียหายเป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่ได้รับรายงานผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต สำหรับฝนที่ตกลงมาใน จ.แพร่ โดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลห้วยโรง และตำบลไผ่โทน เมื่อเวลา 20.00 น. มีปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด 130 มม. สำหรับแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ที่บริเวณ Y20 สถานีวัดระดับน้ำบ้านห้วยสักวัดได้ 7.58 เมตร จากระดับตลิ่ง 9.00 ม. เมื่อตอนเวลา 22.00 น. หากฝนยังคงตกต่อเนื่องทำให้ปริมาณน้ำยมสูง อาจส่งผลให้น้ำท่วมระลอกที่ 2 ได้.-สำนักข่าวไทย