อังกฤษ 7 พ.ค. – คืนนี้..!! ลิเวอร์พูล ดวล บาร์เซโลนา ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก่อนลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก เฮือกสุดท้ายกับ แมนฯ ซิตี้
แชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาลนี้ ระหว่าง เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ต้องไปตัดสินกันในนัดสุดท้าย วันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคมนี้ หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0
โดยเกมนัดรองสุดท้ายของศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เมื่อคืนมีเตะเพียงคู่เดียว แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านพบ เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งนัดนี้ แมนฯ ซิตี้ ต้องชนะ เพื่อแซง ลิเวอร์พูล กลับไปเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง และแฟนบอลของลิเวอร์พูล ก็หวังว่า เลสเตอร์ จะหยุดความร้อนแรงของแมนฯ ซิตี้ ได้ แต่สุดท้ายแมนฯ ซิตี้ มาได้ประตูชัยสุดสวยจาก แว็งซ็องต์ กอมปานี ในนาทีที่ 70
ชัยชนะนัดนี้ทำให้ แมนฯ ซิตี้ มี 95 คะแนน แซงลิเวอร์พูล ที่มี 94 คะแนน ขึ้นไปเป็นจ่าฝูง และมีผลต่างประตูได้เสียดีกว่า 4 ลูก อันดับ 3 เชลซี มี 71 คะแนน อันดับ 4 สเปอร์ส มี 70 คะแนน อันดับ 5 อาร์เซนอล มี 67 คะแนน อันดับ 6 แมนฯยู มี 66 คะแนน
โดยโปรแกรมนัดสุดท้ายวันที่ 12 พฤษภาคมนี้ จะเตะพร้อมกันทุกคู่ในเวลา 21.00 น. โดยแมนฯ ซิตี้ จะบุกไปเยือน ไบรท์ตัน อันดับ 17 ที่มี 36 คะแนน และรอดตกชั้นแล้ว ส่วนลิเวอร์พูล เปิดแอนฟิลด์ พบ วูล์ฟแฮมป์ตัน อันดับ 7 ที่มี 57 คะแนน และหมดลุ้นไปฟุตบอลยุโรปฤดูกาลหน้าแล้วเช่นกัน
ขุมกำลังของแมนฯ ซิตี้ ชุดนี้ เสียประตูไปเพียง 22 ประตูเท่ากับ ลิเวอร์พูล และเก็บได้ 18 คลีนชีท ต้องให้เครดิตแผงแนวรับทั้งเอแดร์ซอน ผู้รักษาประตู ไคล์ วอล์คเกอร์, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์ และ ซินเชนโก้ ขณะที่แนวรุกพวกเขายิงได้ถึง 91 ประตู ทำให้ผลต่างนำหน้าลิเวอร์พูลอยู่ 4 ประตู ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของ ดาบิด ซิลบา 6 ประตู, แบร์นาร์โด้ ซิลวา 7 ประตู, ลีรอย ซาเน่ 10 ประตู, เซร์คิโอ อเกวโร่ 20 ประตู และ ราฮีม สเตอร์ลิง 17 ประตู และเพิ่งจะคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสมาคมนักข่าวกีฬาฟุตบอลอังกฤษ
ขุมกำลังของลิเวอร์พูล ชุดนี้ โชว์ผลงานได้น่าประทับใจ จากการเสียประตูไป 22 ประตู และเก็บคลีนชีทได้ถึง 20 เกม แพ้ไปเพียง 1 เกมเท่านั้นให้กับ แมนฯซิตี้ เมื่อเดือนมกราคม การก้าวขึ้นมาของ เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค กองหลังเนเธอร์แลนด์ค่าตัว 75 ล้านปอนด์ เจ้าของรางวัลพีเอฟเอคนล่าสุด และ อลิสซอน เบคเกอร์ ผู้รักษาประตูชาวบราซิเลียน ค่าตัว 67 ล้านปอนด์ ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงแนวรับในทีมได้อย่างยอดเยี่ยม ส่วนแนวรุก โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ 3 ประสาน ยิงประตูรวมกันในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลนี้ ไปแล้วถึง 54 ประตู จากการลงเตะ 37 เกม โดยซาลาห์ 22 ประตู นำเป็นดาวซัลโวอยู่ในเวลานี้ ขณะที่ มาเน่ 20 ประตู ส่วน ฟีร์มิโน่ 12 ประตู
ซึ่งเรามีทัศนะของกูรู มาวิเคราะห์ว่า ลิเวอร์พูล กับ แมนฯ ซิตี้ ทีมไหนมีโอกาสที่จะคว้าแชมป์มากกว่ากันไปเริ่มกันที่ “แจ็คกี้” อดิศร พึ่งยา คอลัมนิสต์ชื่อดัง
คืนนี้ เวลา 02.00 น. ลิเวอร์พูล มีโปรแกรมในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 เตรียมเปิดบ้านรับ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลนา โดยนัดแรก ลิเวอร์พูล บุกไปพ่าย 0-3 เจอร์เก้น คล็อปป์ พาทีมเบียดชนะ นิวคาสเซิ่ล 3-2 ในเกมลีก แต่มีข่าวร้าย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ บาดเจ็บที่ศีรษะ ไม่สามารถลงสนามในเกมนี้ได้ เช่นเดียวกับ นาบี เกอิต้า และ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บก่อนหน้านี้ คาดว่า แดเนียล สเตอร์ริดจ์ กับ เซอร์ดาน ชากิรี่ จะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง โดยมี ดิว็อค โอริกี้ ที่ทำประตูชัยในนัดล่าสุดเป็นตัวสอดแทรก
เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ เทรนเนอร์บาร์เซโลนา พาทีมแพ้เซลต้า บีโก้ 0-2 ในเกมลีกล่าสุด เป็นการแพ้นัดแรกในรอบ 5 เกม แต่เจ้าบุญทุ่มคว้าแชมป์ลา ลีกา มาครองเรียบร้อยแล้วจึงส่งสำรองลงเล่นทั้งหมด สภาพทีมเกมนี้จะไม่มี อุสมาน เดมเบเล่ ที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่า แต่จะได้ อิวาน ราคิติช และ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ พ้นโทษแบนกลับมาลงสนาม ขณะที่ตัวหลักพร้อมลงสนามทั้งหมด เคราร์ด ปีเก้, จอร์ดี้ อัลบา, ลิโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซ และ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่
เกมนี้ บาร์เซโลนา ดูพร้อมกว่า ลิเวอร์พูล ที่แนวรุกมีเพียงแค่ ซาดิโอ มาเน่ ที่สมบูรณ์ แต่การเล่นในถิ่นแอนฟิลด์ ก็พร้อมสร้างปัญหาให้กับ บาร์เซโลนา ไม่มากก็น้อย!! -. สำนักข่าวไทย