เสนอรัฐทบทวนพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้า

ตึกช้าง 24 ส.ค.- หลายหน่วยงานด้านพลังงานแจงความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่ม  ขณะที่มูลนิธิพลังงานแนะให้ทบทวนพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้า เพื่อวางแผนสร้างโรงไฟฟ้าและผลิตพลังงานอื่นได้แม่นยำ กกพ.แนะเร่งออกมาตรการบังคับทำอย่างจริงจัง  


สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ จัดเสวนา เรื่อง “ไฟฟ้าไทย อย่างไรจะลงตัว” นายวีระพล จิระประดิษฐกุล กรรมการกิจการพลังงาน กล่าวว่า การพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าเร่ิมซับซ้อนมากขึ้น อุตสาหกรรมขนาดใหญ่เร่ิมปรับการใช้ไฟฟ้าลดลง เร่ิมผลิตไฟฟ้าใช้เอง จึงนำตัวเลขนอกระบบดังกล่าวเหล่านี้มาคำนวณเพิ่มเติม  แม้แต่รายเล็กยังเร่ิมผลิตไฟฟ้าใช้เองเช่นกัน  ยอมรับการพยากรณ์ความต้องการใช้พลังงานจึงต้องปรับปรุง และต้องหันมาใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น  จึงต้องหลักดันให้การผลิตไฟฟ้าจากแหล่งอื่น มีสเถียรภาพเหมือนกับการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้า กฟผ.  เพื่อเป็นแหล่งส่งให้ กฟผ.ได้ต่อเนื่องตลอดเวลา ทั้งพลังงงานจากชีวมวลและแห่งอื่น และมีความเป็นแห่งการใช้ไฟฟ้าในภาคใต้ซึ่งเร่ิมใช้พลังงานไฟฟ้าสูงขึ้น

ยอมรับว่า เป็นห่วง เรื่องการประหยัดพลังงานอย่างจริงจัง  ด้วยการออกมาตรการบังคับกับหน่วยงานรัฐและเอกชน เพราะมาตรการประหยัดเบอร์ 5 ยังไม่ได้ผลเท่าที่ควร เนื่องจากการใช้ไฟ้ฟ้าจะสอดคล้องกับจีดีพี โดยช่วง 10 ปีท่ีผ่านมา หากจีดีพีขยายตัวร้อยละ 10 ความต้องการใช้ไฟ้าจะขยายตัวร้อยละ 11-13 แต่ปีที่ผ่านมาการใช้ไฟฟ้ากลับเติบโตถึงร้อยละ 32 นับว่าสูงมาก อาจเนื่องจากค่าไฟ้ฟ้าถูกหรือปัจจัยอื่น จึงต้องนำมาตรการบังคับออกมาใช้อย่างจริงจัง ต้องเดินหน้าให้ได้ตามแผน PDP เห็นว่าคืบหน้าไปมากน่าพอใจ  โดยยังเป็นห่วงการพัฒนาระบบสายส่งเพื่อคลอบคลุมทั่วประเทศ และต้องส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าส่งให้ กฟผ.แบบคอนเฟิร์มเพื่อส่งให้อย่างต่อเนื่อง การคิดค่าไฟฟ้าต้องให้สะท้อนต้นทุนการผลิต ปัจจุบันราคา 3.20 บาทต่อหน่วย อีกทั้งต้องสื่อให้ประชาชนรับทราบว่า การใช้พลังงานทดแทนทั้งแอลพีจีและเอ็นจีวี ช่วงแรกเมื่อรัฐบาลอุดหนุน รถยนต์เชื้องเพลิงดังกล่าวจะเติบโต ขณะนี้ได้ลดการอุดหนุนแล้ว
อุตสาหกรรมดังกล่าวจึงเร่ิมนิ่ง จึงต้องการให้การใช้รถยนต์ไฟฟ้าซึ่งกำลังส่งเสริมได้ดูบทเรียนดังกล่าวด้วยเช่นกัน


นายสหรัฐ บุญโพธิภักดี รองผู้ว่าการกิจการสังคม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า ยอมรับว่าในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาได้ใช้มาตรการประหยัดไฟเบอร์ 5 ได้ส่งเสริมการลดใช้ไฟฟ้า 4,500 เมกกะวัตต์ เป็นเงิน 137,000 ล้านบาท ขณะที่ผ่าน PDP ได้มีมาตรการประหยัดพลังงานผ่าน 6 มาตรการ ต้องลดการใช้ไฟฟ้าให้ได้ 10,000 เมกกะวัตต์ จึงเป็นการบ้านที่หนักพอสมควรและต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนร่วมกัน

โดย กฟผ.มีแผนลงทุนทั้งการสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ การสร้างโรงไฟฟ้าทดแทนโรงเดิมที่หมดอายุ และการวางระบบสายส่งกระจายทั่วประเทศ ต้องใช้เงินลงทุน 2  ล้านล้านบาทในช่วง 10 ปีข้างหน้า ภายในปี 2567  จะมีระบบสายส่งขนาด 500 KW กระจายไปยังพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ รองรับการผลิตพลังงานหมุนเวียนทั้งโซล่าเซลล์ กังหันลม พลังงานหมุนเวียน เกิดขึ้นมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และขยายสายส่งรองรับการรับซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน รองรับนโยบายรัฐในการกระจายพลังงานไปยังแหล่งอื่นเพิ่มเติม

แผนกระจายพลังงานไปยังพลังานอื่น โดยเพิ่มการผลิตพลังงานถ่านหินจากร้อยละ 18 เพิ่มเป็นร้อยละ 20-25 หากเกิดขึ้นไม่ได้ ต้องนำเข้า LNG อาจทำให้ค่าไฟฟ้าแพงเพราะต้นทุนแพงขึ้น ขณะที่พลังงานถ่านหินมีราคาถูกว่าและยังมีสตอกการผลิตไฟฟ้าได้นานนับร้อยปี ขณะที่การเพิ่มสัดส่วนพลังงานนิวเคลียร์ร้อยละ 5 ต้องเร่ิมสร้างความทเข้าใจกับประชาชนเร่ิมตั้งแต่ในปัจจุบัน เพื่อชี้แจงเหตุผลในการสร้างโรงไฟฟ้า และหากรับซื้อกระแสไฟฟ้าจากมาเลเซียมีภาระต้นทุนซื้อ 3.8,5,8 บาทต่อหน่วย นับว่าสูงกว่าการผลิตในประเทศที่ราคา 3 บาทต่อหน่วย ยอมรับว่าความต้องการใช้กระแสไฟฟ้าในภาคใต้ขยายตัวร้อยละ 5-6 สูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศในระดับร้อยละ 3 ภายในปี 2577 ต้องมีโรงไฟฟ้าขนาด 1,000 เมกกะวัตต์ และหากโรงไฟฟ้าเทพา จ.สงขลา เกิดขึ้นไม่ได้ รัฐบาลต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น นำมาชดเชยภาระดังกล่าว


นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงพลังงาน  กล่าวว่า จากแผนพลังงาน
PDP 2015 ได้สอบถามประชาชนมาแล้ว 6 รอบ ต่างเห็นชอบให้กระจายการใช้พลังงานไปยังประเภทต่างๆมากขึ้นจากเดิมเน้นการพึ่งพาเอ็นจีวีมากสุด จึงต้องการกระจายไปยังพลังงานอื่นเพิ่มขึ้น ด้วยการเพิ่มแหล่งพลังงานจากถ่านหินจากร้อยละ 20 เพิ่มเป็นร้อยละ 25 ในปี 69 นับว่าไม่สูงมากนัก การเพิ่มพลังงานหมุนเวียนจากขยะร้อยละ 8 เพิ่มเป็นร้อย
ละ 10-20 ในปี 69 การรับซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้านจากร้อยละ 7 เพิ่มเป็นร้อยละ 10-15  ด้วยการลดพึ่งพาก๊าซธรรมชาติจากร้อยละ 64 ลดเหลือร้อยละ  45-50  ยอมรับว่าหากต้องปรับการพยากรณ์ความต้องการใช้พลังงาน ต้องปรับเป็นรายภาคให้มากขึ้น เนื่องจากภาคใต้มีความต้องการใช้ไฟ้ฟ้าสูง จึงต้องกระจายให้การผลิตไฟฟ้ามีความหลากหลาย เนื่องจากเป็นพื้นที่มีความเป็นห่วงมาก เพราะความต้องการใช้ไฟฟ้าภาคใต้ขยายตัวร้อยละ 5-6  การใช้พลังงานที่ลงตัวมากที่สุด ต้องเป็นส่ิงประชาชนส่วนใหญ่ยอมรับได้ และรัฐบาลทำตามเงื่อนไขเวทีสากล และต้องสร้างความั่นคงในราคาสังคมยอมรับได้

นายสุวัฒน์ กมลพนัส รองเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย  กล่าวว่า การใช้ไฟฟ้าของภาคอุตสหากรรมมีสัดส่วนร้อยละ 44 ของการใช้ไฟฟ้าทั้งระบบ และขณะนี้ภาคอุตสาหกรรมเร่ิมปรับตัวลดต้นทุน เพราะอุตสหากรรมบางแห่งเปิดทำงานในช่วงกลางคืน จึงทำให้การพีคเปลี่ยนไปอยู่ในช่วงกลางคืน อีกทั้งตัวเลขการใช้ไฟฟ้าของ กฟน.ขยายตัวร้อยละ 6.3 นับว่าเป็นระดับปกติ ขณะที่ กฟภ.กลับเติบโตขยายตัวร้อละ 6.8 เนื่องจากเศรษฐกิจหัวเมืองใหญ่ขยายตัวมากขึ้น โดยภาคอุตสาหกรรมจะใช้ไฟฟ้าสอดคล้องกับจีดีพีของประเทศ

นางสุวพร ศิริคุณ กรรมการและเลขานุการมูลนิธิพลังงานเพื่อส่ิงแวดล้อม กล่าวว่า เสนอแนะให้กระทรวงพลังงานทบทวนการพยากรณ์ความต้องการใช้พลังงานจากแผน PDP 2015 เพราะขณะนี้มีความต้องการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นจากหลายแหล่ง เช่น การใช้รถยนต์ไฟฟ้า และการพัฒนาระบบสายส่งยังมีปัญหาจากการต่อต้านของชาวบ้านเจ้าของพื้นที่ เนื่องจากระบบสายส่งทำให้ที่ดินมีราคาลดลงไม่เหมือนกับการตัดถนน เพราะในหลายประเทศได้ทบทวนการพยากรณ์ความต้องการใช้พลังงานหลายครั้ง และมองว่าค่าไฟ้ฟ้าถูกแพงไม่ใช่ประเด็นหลัก แต่รัฐบาลต้องบริหารจัดการให้ไฟฟ้ามีใช้ต่อเนื่องสม่ำเสมอ และคำนวณค่าไฟฟ้าให้เหมาะสม และอยากเห็นมาตรการประหยัดพลังงานซึ่งทำแล้วได้ผลเห็นด้วยกับมาตรการบังคับกับการใช้พลังงาน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]

รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้

พรรคภูมิใจไทย 16 ก.ย.-รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้ หลังนายกฯ ลั่นเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีอนุทิน 1 คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วสุดในเย็นวันนี้ (16 ก.ย.) หรืออย่างช้าวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขณะที่บรรยากาศพรรคภูมิใจไทยในช่วงเช้าวันนี้ยังคงเงียบเหงา มีแกนนำพรรคเดินทางเข้าที่ทำการพรรค อาทิ นายทรงศักดิ์ ทองศรี ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เบื้องต้นยังไม่มีกำหนดการเดินทางเข้าพรรคในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายอนุทิน ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ไว้ว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งจะสามารถทูลเกล้าฯ ถลายได้ภายในสัปดาห์นี้.-สำนักข่าวไทย

เตือนภาวะน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.

กรุงเทพฯ 16 ก.ย.-สทนช. ออกประกาศเตือน เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.นี้ คาดระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงจะสูงกว่าจุดวิกฤติ 0.20 เมตร เสี่ยงน้ำเอ่อล้นริมเจ้าพระยา-ท่าจีน-แม่กลอง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศเตือน เรื่อง “เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง” เตือนประชาชนและหน่วยงานในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ให้เฝ้าระวังระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ระหว่างวันที่ 17–22 กันยายน 2568 ในช่วงเวลา 16.00–19.00 น. ของแต่ละวัน โดยเฉพาะพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว ซึ่งยังไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร หรือที่เรียกว่า “แนวฟันหลอ” นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสทนช. กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมอุทกศาสตร์ คาดว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูง โดยระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงอาจสูงถึง 1.70–1.90 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำวิกฤติประมาณ 0.20 เมตร ปัจจัยที่ส่งผลต่อการหนุนสูงของน้ำทะเลในช่วงนี้ได้แก่ ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทย ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังปานกลาง ซึ่งยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยและบริเวณอ่าวไทย ส่งผลให้บางพื้นที่ยังคงมีฝนตก และเมื่อรวมกับปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุน จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ พื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ […]