สนง.ผู้ตรวจการแผ่นดิน 23 เม.ย.-“เจิมศักดิ์” ร้องผู้ตรวจฯ ถูกดีเอสไอ-อัยการ ฟ้องข้อหากบฏ จากการขึ้นเวที กปปส. ทั้งที่ชุมนุมโดยสงบ ไม่มีอาวุธ ไม่เคยบุกรุกสถานที่ราชการ-ขวางเลือกตั้ง แต่ถูกยกฟ้องแบบเหมารวม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เวลา 10.30 น. วันนี้ (23 เม.ย.) นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ เดินทางเข้ามายื่นหนังสือถึงผู้ตรวจฯ ขอให้ส่งเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย กรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ และสำนักงานอัยการคดีพิเศษ แจ้งข้อหากบฏ จากการเข้าไปมีส่วนรวมชุมนุมในเวทีของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยเป็นที่สุดเด็ดขาดแล้วว่าการชุมนุมของประชาชนไม่เป็นความผิดต่อรัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
นายเจิมศักดิ์ กล่าวว่า ตนได้เข้าร่วมการชุมนุมกับ กปปส. เพียงแค่จัดรายการสดบนเวทีปราศรัยในบางช่วงเวลา ไม่มีอาวุธ ไม่ได้ใช้ความรุนแรง และไม่เคยนำประชาชนเดินทางไปปิดล้อมสถานที่ราชการ หรือขัดขวางการรับสมัครรับเลือกตั้ง หรือขัดขวางการเลือกตั้งในปี 2557 แต่ดีเอสไอและอัยการกลับแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันเป็นกบฏ อั้งยี่ ซ่องโจร มั่วสุมตั้งแต่ 10 ขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ร่วมกันขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งเป็นการใช้อำนาจแจ้งข้อกล่าวหาที่เกินความเป็นจริง ไม่แยกแยะการกระทำของแต่ละบุคคลออกจากกัน ดำเนินคดีกับตนในข้อหาเดียวกันกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กปปส. เพียงเหตุผลว่า ใครก็ตามที่ร่วมชุมนุมกับนายสุเทพ จะต้องมีความผิดเช่นเดียวกัน
“ในการจัดรายการบนเวทีปราศรัยทุกครั้งจะมีพิธีกรร่วม โดยเป็นการจัดรายการถ่ายทอดสดจากการชุมนุมบนถนนสาธารณะ ไม่เคยบุกรุก หรือเข้าไปภายในสถานที่ราชการ อีกทั้งไม่เคยจัดรายการเพียงลำพัง แต่กลับถูกแจ้งข้อกล่าวหาเพียงคนเดียว ทั้งนี้ผมหนักใจในข้อหากบฏเพียงข้อหาเดียว เพราะมั่นใจมาโดยตลอดว่าการกระทำที่ผ่านมา ไม่ได้เป็นการชุมนุมเพื่อล้มล้างการปกครอง ซึ่งเป็นการแจ้งข้อกล่าวหาในยุคที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ เป็นอธิบดีดีเอสไอ ส่วนข้อกล่าวหาอื่น ๆ ผมพร้อมที่จะสู้คดี” นายเจิมศักดิ์ กล่าว
ด้านนายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า กรณีดังกล่าวคล้ายกับกรณีที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ได้ยื่นคำร้องต่อประธานผู้ตรวจฯ มาก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับการชุมนุมของ กปปส.และพวกรวม 14 คน ซึ่งในข้อหากบฏศาลรัฐธรรมนูญได้วางหลักไว้แล้ว ไม่ควรมีหน่วยงานใดจะนำไปกล่าวหา หรือฟ้องได้อีก ส่วนความผิดอาญาข้อหาอื่น ๆ ต้องไปต่อสู้คดีกันเอง โดยทางสำนักงานผู้ตรวจฯ จะเร่งทำคำร้องและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องเสนอผู้ตรวจฯ เพื่อวินิจฉัยต่อไป.-สำนักข่าวไทย