ถอนวีซ่า สั่งไล่ล่าเจ้าของบ้านลอยน้ำกลางทะเล

ภูเก็ต 17 เม.ย.-หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบกรณีชาวต่างชาติติดตั้งบ้านลอยน้ำกลางทะเลภูเก็ต พบก่อสร้างโรงานโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นที่ดินเช่ากว่า 1,000 ไร่ ขณะที่ ตม.สั่งเพิกถอนวีซ่าเจ้าของบ้านแล้ว


วันนี้ (17 เม.ย.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมติดตามกรณีมีการติดตั้ง “วัตถุลอยน้ำ” นอกเขต 12 ไมล์ทะเล โดยมีนายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ฝ่ายความมั่นคง ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ผู้แทนทัพเรือภาคที่ 3 นายอำเภอเมือง นายอำเภอกะทู้ นายอำเภอถลาง ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต อัยการจังหวัดภูเก็ต ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต ด่านศุลกากรภูเก็ต พาณิชย์จังหวัดภูเก็ต ฝ่ายปกครอง ประมงจังหวัดภูเก็ต โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดภูเก็ต ที่ดินจังหวัดภูเก็ต เจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ตประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต อุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ตเข้าร่วม


นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การประชุมวันนี้เพื่อติดตามการดำเนินการกรณีที่มีชาวต่างชาติ ติดตั้ง “วัตถุลอยน้ำ” ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น อยู่ห่างจากแหลมพันวาจังหวัดภูเก็ต ระยะทาง 39 กิโลเมตรหรือ 12 ไมล์ทะเล โดยได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบข้อเท็จจริง ภายใต้ ภารกิจที่มีอำนาจตามกฎหมาย  อาทิ  การนำเข้าวัตถุที่นำมาประกอบ สถานที่ประกอบอุปกรณ์ ที่เรียกว่า “วัตถุลอยน้ำ” การกระทำดังกล่าว เป็นการกระทำในบริเวณเขตน่านน้ำ  จึงเป็นอำนาจของ ทัพเรือภาคที่ 3 โดย ศรชล เขต 3 ซึ่งขณะนี้ ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าว ตามกฎหมาย มาตรา 119 ที่สถานีตำรวจภูธรวิชิต อ.เมืองภูเก็ต โดยพนักงานสอบสวน สภ.วิชิต จะดำเนินการเก็บข้อมูลหลักฐานต่างๆ สอบสวนบริษัทที่รับจ้างต่อเรือและวัตถุลอยน้ำเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป 

นายวิวัธน์ ชิดเชิดวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตกล่าวว่า เขต 12 ไมล์ทะเลเป็นอำนาจอธิปไตยของไทยและมีเขตต่อเนื่อง 24 ไมล์ทะเลซึ่งยังคงอยู่ในอำนาจการดูแลของไทยในเรื่องของการควบคุมมลภาวะทางด้านสิ่งแวดล้อมเช่นการทิ้งของเสียน้ำเสียขยะหรือการปล่อยน้ำมันและจากเส้นฐานศูนย์กลางไปอีก 200 ไมล์ทะเล จะเป็นเขตเศรษฐกิจจำเพาะซึ่งจะเป็นการใช้น้ำเพื่อการประมงทั้งนี้ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตจะเร่งดำเนินการตามกฎหมายแจ้งให้ผู้ก่อสร้างทำการรื้อถอนสิ่งก่อสร้างภายใน 30 วัน ทั้งนี้หากผู้ก่อสร้างไม่ดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนดสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตจะร่วมกับทัพเรือภาคที่ 3 ดำเนินการรื้อถอนสิ่งก่อสร้างดังกล่าวต่อไปเพราะหากปล่อยไว้อาจจะส่งผลกระทบต่อการเดินเรือและเนื่องจากการดำเนินการดังกล่าวไม่มีการขออนุญาตแต่อย่างใดซึ่งเบื้องต้นสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตได้ออกประกาศสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตแจ้งเตือนไปยังชาวประมงและผู้ที่เดินเรือให้ใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือในพื้นที่ที่มีการก่อสร้างวัตถุลอยน้ำดังกล่าวเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นในระหว่างการเดินเรือ 


ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อุตสาหกรรม จ.ภูเก็ต ที่ดิน จ.ภูเก็ต เจ้าท่าภูมิภาค จ.ภูเก็ต ทหารเรือ ทหารบกกองกำลังรักษาความสงบ จ.ภูเก็ต จากกองทัพภาคที่ 4 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบโรงงานที่ก่อสร้างบ้านลอยน้ำที่ ม.7 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พบเป็นที่ดินของของนายหัวใหญ่ จ.ภูเก็ต เนื้อที่ 1,000 กว่าไร่มีเอกสารสิทธิถูกต้องตามกฎหมาย แต่ให้บริษัทชาวฝรั่งเศสเช่าทำอู่ต่อเรือหรู มาประมาณ 2 ปี และเจ้าหน้าที่ขอดูใบอนุญาตในการก่อสร้างโรงงานจากนายช่างใหญ่ชาวฝรั่งเศสปรากฏว่าไม่มีและแจ้งว่าอยู่ในระหว่างการยื่นเรื่องขอตั้งโรงงาน จึงยังไม่มีใบอนุญาตในการก่อสร้างโรงงานมาแสดง และยังพบว่ามีการขุดตักหน้าดินดดยไม่ได้ขออนุญาตเพิ่มเติมด้วย นอกจากนี้ยังพบแบบแพนการก่อสร้างบ้านลอยน้ำติดอยู่ที่อู่ต่อเรือ 1 ใบ เป็นแบบแพนที่สมบูรณ์แบบ สอบถามนายช่างชาวฝรั่งเศสรับว่าเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างบ้านลอยน้ำจริงโดยใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2 เดือน และสร้างเสร็จนำออกไปลงทะเลเมื่อประมาณ 4 มีนาคมที่ผ่านมา โดยมีชาวต่างชาติและภรรยาชาวไทยมาว่าจ้างให้สร้างตามแบบที่มีเห็นติดไว้ และไม่ได้สอบถามว่าจะนำไปติดตั้งที่ใดเพราะผุ้ว่าจ้างนำเรือมาขนไปเอง 

นายวัชรินทร์ ไชยานุพงศ์ อุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า โรงงานที่ก่อสร้างวัสดุลอยน้ำ หรือบ้านลอยน้ำในทะเลนั้น ตั้งอยู่พื้นที่ หมู่ที่ 7 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เป็นโรงงานอู่ต่อเรือ จากการตรวจสอบในเบื้องต้นทราบว่า โรงงานดังกล่าวไม่ได้ขอใบอนุญาตเปิดเป็นโรงงานต่อเรือแต่อย่างใด ซึ่งถือว่าฝ่าฝืนกฎหมาย จะต้องมีการดำเนินการสั่งปิดต่อไป 

พ.ต.อ.คฑาธร คำเที่ยง ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากการตรวจสอบทราบว่า คนต่างด้าวที่เป็นผู้ดำเนินการลงทุนก่อสร้างบ้านลอยน้ำนั้น เข้าเมืองมาโดยใช้วีซ่าประเภทคนอยู่ชั่วคราว (Non-Immigrant) ซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไทยได้ 90 วัน หลังจากนั้นได้มีการต่อวีซ่ามาโดยตลอด วีซ่ายังไม่ขาด แต่เมื่อเกิดเหตุ ทางทัพเรือภาคที่ 3 ได้รายงานเข้ามายังตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต ว่าบุคคลต่างด้าวรายดังกล่าวเข้ามาดำเนินการในลักษณะกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ซึ่งเข้าตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง มาตรา 12 บุคคลต่างด้าวที่มีพฤติกรรมเป็นภัยต่อสังคม และความปลอดภัยของประชาชน และความมั่นคงของราชอาณาจักร ทาง ตม.ภูเก็ตได้เสนอขออนุมัติเพิกถอนวีซ่าอยู่ในราชอาณาจักรของคนต่างด้าวดังกล่าวไปเรียบร้อยแล้ว และได้รับอนุมัติจากผู้บังคับบัญชาเรียบร้อยแล้วเช่นกัน จึงได้มีการดำเนินการลงบันทึกเป็นบุคคลต้องห้ามเข้าราชอาณาจักรแล้ว ซึ่งหลังจากนี้จะมีการแจ้งให้บุคคลต่างด้าวรายดังกล่าวทราบว่าไม่มีสิทธิที่จะอยู่ในประเทศไทยอีก และจากการตรวจสอบเอกสาร ตม.บุคคลต่างด้าวรายดังกล่าวยังอาศัยอยู่ในประเทศไทย ไม่ได้เดินทางออกนอกประเทศแต่อย่างใด ขณะนี้อยู่ในระหว่างการติดตามตัว โดยมีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามตัวต่อไป อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมหารือวันต่อวันจนกว่าการแก้ไขปัญหาจะแล้วเสร็จ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

เตือนภาวะน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.

กรุงเทพฯ 16 ก.ย.-สทนช. ออกประกาศเตือน เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.นี้ คาดระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงจะสูงกว่าจุดวิกฤติ 0.20 เมตร เสี่ยงน้ำเอ่อล้นริมเจ้าพระยา-ท่าจีน-แม่กลอง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศเตือน เรื่อง “เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง” เตือนประชาชนและหน่วยงานในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ให้เฝ้าระวังระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ระหว่างวันที่ 17–22 กันยายน 2568 ในช่วงเวลา 16.00–19.00 น. ของแต่ละวัน โดยเฉพาะพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว ซึ่งยังไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร หรือที่เรียกว่า “แนวฟันหลอ” นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสทนช. กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมอุทกศาสตร์ คาดว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูง โดยระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงอาจสูงถึง 1.70–1.90 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำวิกฤติประมาณ 0.20 เมตร ปัจจัยที่ส่งผลต่อการหนุนสูงของน้ำทะเลในช่วงนี้ได้แก่ ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทย ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังปานกลาง ซึ่งยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยและบริเวณอ่าวไทย ส่งผลให้บางพื้นที่ยังคงมีฝนตก และเมื่อรวมกับปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุน จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ พื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ […]

จับตาเวทีหารือปราบสแกมเมอร์

15 ก.ย. – พรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ต้องเกาะติดการประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา วางแนวทางปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสแกมเมอร์ ที่ จ.สระแก้ว ต่อยอดการประชุม GBC ที่เกาะกง เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี

เชียงใหม่ 15 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 บรรยายพิเศษที่เชียงใหม่ ปลุกพลังรักชาติของคนไทย ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี พร้อมให้ข้อมูลแนวหน้าและคำแนะนำกับรัฐบาล ช่วงบ่ายวันนี้ (15 ก.ย.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อม พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมบรรยายพิเศษ บอกเล่า “เรื่องจริงจากชายแดน” ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีนักเรียน นักศึกษา ประชาชนชาวเชียงใหม่ และนักศึกษาวิชาทหาร กว่า 2,000 คน รอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ได้พูดคุยกับคุณยายที่มารอต้อนรับ พร้อมสวมกอดคุณยายอย่างเป็นกันเอง และยังมอบลายเซ็นลงบนรูปถ่ายของตนที่คุณยายเตรียมมาด้วย พล.ท.บุญสิน ได้กล่าวสดุดีเหล่าทหารกล้าที่เสียสละเพื่อแผ่นดินไทย แสดงความเสียใจต่อประชาชนผู้สูญเสีย พร้อมประณามการกระทำของทหารกัมพูชาที่โจมตีเข้ามาด้วยอาวุธหนักโดยไม่เลือกเป้าหมาย พร้อมเน้นย้ำกับน้องๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมฟังบรรยายในวันนี้ว่าขอให้ยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของชาติ มีความรักชาติหวงแหนในผืนแผนดินไทย จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และช่วยกันทำนุบำรุงศาสนา ร่วมแรงร่วมใจสามัคคีกันเป็นพลังให้ประเทศไทยก้าวผ่านหลากหลายความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบันไปให้ได้ ส่วนการเปิดด่านชายแดน […]

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]