ถอนวีซ่า สั่งไล่ล่าเจ้าของบ้านลอยน้ำกลางทะเล

ภูเก็ต 17 เม.ย.-หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบกรณีชาวต่างชาติติดตั้งบ้านลอยน้ำกลางทะเลภูเก็ต พบก่อสร้างโรงานโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นที่ดินเช่ากว่า 1,000 ไร่ ขณะที่ ตม.สั่งเพิกถอนวีซ่าเจ้าของบ้านแล้ว


วันนี้ (17 เม.ย.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมติดตามกรณีมีการติดตั้ง “วัตถุลอยน้ำ” นอกเขต 12 ไมล์ทะเล โดยมีนายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ฝ่ายความมั่นคง ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ผู้แทนทัพเรือภาคที่ 3 นายอำเภอเมือง นายอำเภอกะทู้ นายอำเภอถลาง ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต อัยการจังหวัดภูเก็ต ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต ด่านศุลกากรภูเก็ต พาณิชย์จังหวัดภูเก็ต ฝ่ายปกครอง ประมงจังหวัดภูเก็ต โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดภูเก็ต ที่ดินจังหวัดภูเก็ต เจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ตประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต อุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ตเข้าร่วม


นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การประชุมวันนี้เพื่อติดตามการดำเนินการกรณีที่มีชาวต่างชาติ ติดตั้ง “วัตถุลอยน้ำ” ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น อยู่ห่างจากแหลมพันวาจังหวัดภูเก็ต ระยะทาง 39 กิโลเมตรหรือ 12 ไมล์ทะเล โดยได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบข้อเท็จจริง ภายใต้ ภารกิจที่มีอำนาจตามกฎหมาย  อาทิ  การนำเข้าวัตถุที่นำมาประกอบ สถานที่ประกอบอุปกรณ์ ที่เรียกว่า “วัตถุลอยน้ำ” การกระทำดังกล่าว เป็นการกระทำในบริเวณเขตน่านน้ำ  จึงเป็นอำนาจของ ทัพเรือภาคที่ 3 โดย ศรชล เขต 3 ซึ่งขณะนี้ ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าว ตามกฎหมาย มาตรา 119 ที่สถานีตำรวจภูธรวิชิต อ.เมืองภูเก็ต โดยพนักงานสอบสวน สภ.วิชิต จะดำเนินการเก็บข้อมูลหลักฐานต่างๆ สอบสวนบริษัทที่รับจ้างต่อเรือและวัตถุลอยน้ำเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป 

นายวิวัธน์ ชิดเชิดวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตกล่าวว่า เขต 12 ไมล์ทะเลเป็นอำนาจอธิปไตยของไทยและมีเขตต่อเนื่อง 24 ไมล์ทะเลซึ่งยังคงอยู่ในอำนาจการดูแลของไทยในเรื่องของการควบคุมมลภาวะทางด้านสิ่งแวดล้อมเช่นการทิ้งของเสียน้ำเสียขยะหรือการปล่อยน้ำมันและจากเส้นฐานศูนย์กลางไปอีก 200 ไมล์ทะเล จะเป็นเขตเศรษฐกิจจำเพาะซึ่งจะเป็นการใช้น้ำเพื่อการประมงทั้งนี้ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตจะเร่งดำเนินการตามกฎหมายแจ้งให้ผู้ก่อสร้างทำการรื้อถอนสิ่งก่อสร้างภายใน 30 วัน ทั้งนี้หากผู้ก่อสร้างไม่ดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนดสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตจะร่วมกับทัพเรือภาคที่ 3 ดำเนินการรื้อถอนสิ่งก่อสร้างดังกล่าวต่อไปเพราะหากปล่อยไว้อาจจะส่งผลกระทบต่อการเดินเรือและเนื่องจากการดำเนินการดังกล่าวไม่มีการขออนุญาตแต่อย่างใดซึ่งเบื้องต้นสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตได้ออกประกาศสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตแจ้งเตือนไปยังชาวประมงและผู้ที่เดินเรือให้ใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือในพื้นที่ที่มีการก่อสร้างวัตถุลอยน้ำดังกล่าวเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นในระหว่างการเดินเรือ 


ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อุตสาหกรรม จ.ภูเก็ต ที่ดิน จ.ภูเก็ต เจ้าท่าภูมิภาค จ.ภูเก็ต ทหารเรือ ทหารบกกองกำลังรักษาความสงบ จ.ภูเก็ต จากกองทัพภาคที่ 4 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบโรงงานที่ก่อสร้างบ้านลอยน้ำที่ ม.7 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พบเป็นที่ดินของของนายหัวใหญ่ จ.ภูเก็ต เนื้อที่ 1,000 กว่าไร่มีเอกสารสิทธิถูกต้องตามกฎหมาย แต่ให้บริษัทชาวฝรั่งเศสเช่าทำอู่ต่อเรือหรู มาประมาณ 2 ปี และเจ้าหน้าที่ขอดูใบอนุญาตในการก่อสร้างโรงงานจากนายช่างใหญ่ชาวฝรั่งเศสปรากฏว่าไม่มีและแจ้งว่าอยู่ในระหว่างการยื่นเรื่องขอตั้งโรงงาน จึงยังไม่มีใบอนุญาตในการก่อสร้างโรงงานมาแสดง และยังพบว่ามีการขุดตักหน้าดินดดยไม่ได้ขออนุญาตเพิ่มเติมด้วย นอกจากนี้ยังพบแบบแพนการก่อสร้างบ้านลอยน้ำติดอยู่ที่อู่ต่อเรือ 1 ใบ เป็นแบบแพนที่สมบูรณ์แบบ สอบถามนายช่างชาวฝรั่งเศสรับว่าเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างบ้านลอยน้ำจริงโดยใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2 เดือน และสร้างเสร็จนำออกไปลงทะเลเมื่อประมาณ 4 มีนาคมที่ผ่านมา โดยมีชาวต่างชาติและภรรยาชาวไทยมาว่าจ้างให้สร้างตามแบบที่มีเห็นติดไว้ และไม่ได้สอบถามว่าจะนำไปติดตั้งที่ใดเพราะผุ้ว่าจ้างนำเรือมาขนไปเอง 

นายวัชรินทร์ ไชยานุพงศ์ อุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า โรงงานที่ก่อสร้างวัสดุลอยน้ำ หรือบ้านลอยน้ำในทะเลนั้น ตั้งอยู่พื้นที่ หมู่ที่ 7 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เป็นโรงงานอู่ต่อเรือ จากการตรวจสอบในเบื้องต้นทราบว่า โรงงานดังกล่าวไม่ได้ขอใบอนุญาตเปิดเป็นโรงงานต่อเรือแต่อย่างใด ซึ่งถือว่าฝ่าฝืนกฎหมาย จะต้องมีการดำเนินการสั่งปิดต่อไป 

พ.ต.อ.คฑาธร คำเที่ยง ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากการตรวจสอบทราบว่า คนต่างด้าวที่เป็นผู้ดำเนินการลงทุนก่อสร้างบ้านลอยน้ำนั้น เข้าเมืองมาโดยใช้วีซ่าประเภทคนอยู่ชั่วคราว (Non-Immigrant) ซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไทยได้ 90 วัน หลังจากนั้นได้มีการต่อวีซ่ามาโดยตลอด วีซ่ายังไม่ขาด แต่เมื่อเกิดเหตุ ทางทัพเรือภาคที่ 3 ได้รายงานเข้ามายังตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต ว่าบุคคลต่างด้าวรายดังกล่าวเข้ามาดำเนินการในลักษณะกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ซึ่งเข้าตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง มาตรา 12 บุคคลต่างด้าวที่มีพฤติกรรมเป็นภัยต่อสังคม และความปลอดภัยของประชาชน และความมั่นคงของราชอาณาจักร ทาง ตม.ภูเก็ตได้เสนอขออนุมัติเพิกถอนวีซ่าอยู่ในราชอาณาจักรของคนต่างด้าวดังกล่าวไปเรียบร้อยแล้ว และได้รับอนุมัติจากผู้บังคับบัญชาเรียบร้อยแล้วเช่นกัน จึงได้มีการดำเนินการลงบันทึกเป็นบุคคลต้องห้ามเข้าราชอาณาจักรแล้ว ซึ่งหลังจากนี้จะมีการแจ้งให้บุคคลต่างด้าวรายดังกล่าวทราบว่าไม่มีสิทธิที่จะอยู่ในประเทศไทยอีก และจากการตรวจสอบเอกสาร ตม.บุคคลต่างด้าวรายดังกล่าวยังอาศัยอยู่ในประเทศไทย ไม่ได้เดินทางออกนอกประเทศแต่อย่างใด ขณะนี้อยู่ในระหว่างการติดตามตัว โดยมีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามตัวต่อไป อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมหารือวันต่อวันจนกว่าการแก้ไขปัญหาจะแล้วเสร็จ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]

อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ย่องให้ข้อมูลตำรวจกองปราบ

12 ก.ค. – อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร แอบย่องเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจกองปราบ เวลา 12.05 น. วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เบื้องต้นส่วมชุด โปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าวันนี้เข้ามาให้ปากคำกรณีที่ ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสวัดโสธรฯ ไม่ตอบแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมต่ออีกว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่นั้น ด้านอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน.-414-สำนักข่าวไทย