ผู้ตรวจการแผ่นดินเผย สตช.- กรมการปกครองถูกร้องเรียนมากสุด

สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน 10 เม.ย.- 19 ปี ผู้ตรวจการแผ่นดิน  แก้ปัญหาประชาชนแล้ว 44,198 เรื่อง สตช.- กรมการปกครอง ถูกร้องเรียนมากที่สุด เตรียมเรียกประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย  อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  หารือแก้ปัญหาพาราควอตภายในเดือนนี้ หากไม่มาเจอคุก หลังไม่ยอมปฏิบัติตามข้อเสนอผู้ตรวจฯ พร้อมตามติดปัญหาสัมปทานดิวตี้ฟรี สนามบินหลายแห่ง หลัง ทอท.แหกข้อเสนอ ให้เอกชนรายเดียวแทนแข่งขันสามราย  เรียกชี้แจงพฤษภาคมนี้ หากไม่ฟังร้อง ป.ป.ช. 


สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้จัดพิธีสักการะพระพรหมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสครบรอบ 19 ปี  ในวันที่ 12 เมษายน 2543  สถาปนาสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน มีพล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน  พร้อมด้วยนายบูรณ์  ฐาปนดุลย์   และนายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ตรวจการแผ่นดิน  คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่เข้าร่วมพิธี   

ในโอกาสนี้พล.อ.วิทวัส  ได้กล่าวถึงผลการปฏิบัติงานแก้ปัญหาประชาชน รวม 44,198 เรื่อง จากทั้งหมด 45,922 เรื่อง อยู่ระหว่างดำเนินการ 1,724  เรื่อง   หน่วยงานที่ถูกร้องเรียนลำดับต้น คือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)  และกรมการปกครอง ประเด็นที่ถูกร้องเรียนมากที่สุด 3 อันดับแรก 1.การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ  2. การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ 3. ปัญหาเรื่องที่ดิน


พล.อ.วิทวัส  กล่าวว่า ปัญหาการควบคุมสารเคมีอันตรายพาราควอตที่ใช้ในการเกษตร  ล่าสุดผู้ตรวจการแผ่นดินจะเชิญประธานคณะกรรมการวัตถุอันตรายอธิบดีกรมวิชาการเกษตร รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านผลกระทบของวัตถุอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมาหารือร่วมกัน  ถึงศักยภาพขีดความสามารถ และปัญหาอุปสรรค ปลายเดือนเมษายนนี้  หลังจากที่คณะกรรมการชุดดังกล่าว ยังไม่ได้ปฏิบัติตามข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดินที่ขอให้ยกเลิกการใช้สารอันตรายนี้ตั้งแต่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป  

พล.อ.วิทวัส กล่าวว่า ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ออกประกาศเกี่ยวกับการจำกัดการใช้การถ่ายทอดความรู้  เกี่ยวกับวัตถุอันตรายพารา ควอตแก่ประชาชนแล้วเร่งพัฒนา วิธีอื่นขึ้นมาทดแทน  ซึ่งในปัจจุบันนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์  รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับการบริหารราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงอุตสาหกรรม พิจารณาเร่งดำเนินการ ในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ในการเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือเป็นไปตามมาตรา 25 ของพ.ร.ป.ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน  หากไม่มาจะมีโทษตามมาตรา 55 จำคุกไม่เกิน 6 เดือนปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

พล.อ.วิทวัส  ยังกล่าวถึงการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มราคาสูงกว่าปกติร้อยละ 40-50 ภายในสนามบินท่าอากาศยานดอนเมืองและสุวรรณภูมิ  ซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอให้ควบคุมอาหารและเครื่องดื่มไม่ให้เกินราคาเฉลี่ยเช่นขายน้ำดื่มราคา 10 บาทและเพิ่มจุดจำหน่ายอาหารเครื่องดื่มราคาถูก  


พล.อ.วิทวัส  กล่าวถึงกรณี ทอท. ออกประกาศคัดเลือกผู้ได้รับสิทธิประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ภายในอาคารผู้โดยสาร สุวรรณภูมิและประกาศคัดเลือกผู้ได้รับสิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร หรือ duty free ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ภูเก็ต เชียงใหม่และหาดใหญ่  โดยมีการให้สิทธิ์ ผู้บริหารจัดการในแต่ละประกาศเพียงรายเดียว  ซึ่งขัดต่อข้อเสนอของผู้ตรวจการแผ่นดินที่ให้ดำเนินการไม่น้อยกว่า 3 ราย โดยผู้ตรวจการแผ่นดินกำลังเร่งติดตามผลชี้แจงจาก ทอท.  พร้อมกำหนดการประชุมร่วมกับ ทอท.และกระทรวงคมนาคม  รวมถึงกระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้น   เพื่อสอบถามถึงเหตุผลที่ไม่สามารถปฏิบัติตามข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดินได้ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ 

“แต่ถ้าหารือกันแล้วยังไม่ปฏิบัติตามอีก ก็จะถือว่าหัวหน้าหน่วยงานมีเจตนาไม่ปฏิบัติหน้าที่ซึ่งตามกฎหมายให้อำนาจผู้ตรวจการแผ่นดินส่งรายงานไปยัง ป.ป.ช.  โดย ป.ป.ช.ต้องยึดสำนวนการสอบสวนของผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นหลัก กรณีมีพฤติกรรมจงใจไม่ปฏิบัติหน้าที่ทำให้ราชการเกิดความเสียหาย  ซึ่งสามารถผิดได้ทั้งทางวินัยและอาญา” พล.อ.วิทวัส กล่าว

พล.อ.วิทวัส  ยังกล่าวถึงการแก้ปัญหาในเรื่องอื่น ๆ ของผู้ตรวจการแผ่นดินด้วยว่า  กรณีการป้องกันปัญหาการพิการในเด็ก ที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน มีข้อเสนอแนะให้องค์การเภสัชกรรมผลิตวิตามิน folic Acid ขนาด 400 ไมโครกรัมหรือ 0.4 มิลลิกรัม  ซึ่งจะมีการผลิตภายในเดือนพฤษภาคม ปี 2563  สอดคล้องกับข้อสนับสนุนขององค์การอนามัยโลก  

พล.อ.วิทวัส กล่าวว่า ส่วนการแก้ไขปัญหาอัตราค่าไฟบนเกาะปันหยี  ที่มีอัตราสูงกว่าปกติหลายเท่า ขณะนี้คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติโครงการขยายเขตตั้งระบบไฟฟ้าไปยังเกาะปันหยีแล้ว เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซึ่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคกำลังออกแบบสำรวจและประกวดราคาเพื่อจัดจ้างผู้ดำเนินการก่อสร้างเคเบิลใต้น้ำระบบ จ่ายไฟฟ้าบนเกาะปันหยีให้ได้ภายในเดือนกันยายนนี้   คาดว่าโครงการจะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2564  

สำหรับการแก้ไขปัญหาที่จะส่งผลกระทบต่อสาธารณะ ในเรื่องของกรมศิลปากรที่กำหนดเขตพื้นที่โบราณสถานเมืองพิมายทับซ้อนที่ดินชุมชนอำเภอพิมายกว่า 2,600 ไร่   ขณะนี้จังหวัด นครราชสีมาได้เร่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาและกรม ศิลปากรได้เร่งจัดทำแผนการจัดทำประชาพิจารณ์รับฟังความเห็นประชาชนใหม่อีกครั้ง  

“ปัญหาการร้องเรียนของประชาชน  และข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดินที่มีต่อภาครัฐ เสมือนเสียงสะท้อนถึงการดำเนินการของรัฐที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน  ซึ่งเจตนาในการแก้ปัญหาของผู้ตรวจการแผ่นดิน ไม่ได้เป็นการมุ่งจับผิดหน่วยงานของรัฐ แต่ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาความบกพร่องว่าเกิดจากสาเหตุอะไร และมีทางออกหรือร่วมกันแก้ปัญหาอย่างไร  เพื่อให้การแก้ไขปัญหาประชาชนเกิดประสิทธิภาพและเป็นจริงมากขึ้น” พล.อ.วิทวัส  กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กระเช้าหลุด ช่างทาสีร่วงตึก 5 ชั้น ตาย 1 สาหัส 1

พัทลุง 2 ส.ค. – เกิดเหตุสลด กระเช้าปลายบูมหลุดจากเครน ช่างทาสีร่วงจากตึก 5 ชั้น เสียชีวิต 1 เจ็บสาหัส 1 ที่ไซต์งานก่อสร้างอาคารเรียน จ.พัทลุง เกิดเหตุสลดกลางไซต์งานก่อสร้างอาคารเรียนแห่งหนึ่ง ในตำบลควนมะพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เมื่อกระเช้าที่ผูกติดกับหัวเครนเกิดหัก หลุดจากตึกสูง 5 ชั้น ส่งผลให้ช่างทาสี 2 คน ที่อยู่บนกระเช้าร่วงตกลงกระแทกพื้น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันที 1 คน คือ นายธวัชชัย อายุ 36 ปี และนายชุติเดช อายุ 43 ปี บาดเจ็บสาหัส ขาทั้งสองข้างหักละเอียด แขนซ้ายหักผิดรูป เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลพัทลุงอย่างเร่งด่วน ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า คนงานทั้ง 2 เป็นช่างทาสี ได้ขึ้นกระเช้าเหล็กเพื่อขึ้นไปทาสีบริเวณชั้น 5 ของอาคาร ซึ่งมีความสูงประมาณ 26 เมตร แต่ด้วยน้ำหนักของคนงานทั้งสองคน […]

รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง

ทำเนียบ 2 ส.ค.-รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง ด้วยพยานหลักฐานทุกมิติ ต่อประชาคมโลกผ่าน OSCE-เวทีระดับสูงด้านความมั่นคงของยุโรป ยืนยันหลักสันติวิธี ยึดกฎหมายระหว่างประเทศ และตอกย้ำว่าการปกป้องประชาชนจากการโจมตีของฝ่ายกัมพูชาเป็นสิทธิโดยชอบตามกฎหมายสากล พร้อมใช้โอกาสนี้ขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงในระดับภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการ ศบ.ทก. เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าบทบาทของประเทศไทย ในเวทีระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสื่อสารข้อเท็จจริงและแสดงท่าทีอย่างตรงไปตรงมาต่อสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ถึงวานนี้ (1 สิงหาคม 2568) ที่ผ่านมา ไทยได้เข้าร่วมการประชุม Helsinki+50 ในกรอบองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (Organization for Security and Co-operation in Europe: OSCE) ณ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ โดยมี นางครองขนิษฐ รักษ์เจริญ อธิบดีกรมยุโรป เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม โดยในช่วงของการกล่าวถ้อยแถลง หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้ย้ำท่าทีของไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ว่า “ไทยยึดมั่นในกฎบัตรสหประชาชาติ หลักมนุษยธรรมสากล และหลักการของ Helsinki Final […]

EOD เก็บกู้ระเบิดฝังอยู่ใกล้ปั๊มที่ถูกกัมพูชายิงใส่

ศรีสะเกษ 2 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายหัวระเบิด HE ของจรวด BM 21 ที่ฝังอยู่บนถนนกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ใกล้กับปั๊มน้ำมันที่ถูกกัมพูชายิงใส่ร้านสะดวกซื้อ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD เริ่มเตรียมความพร้อมเพื่อทำลายระเบิดที่ฝังอยู่ในถนน บ้านน้ำเย็น-บ้านผือ ฝั่งมุ่งหน้าเขาพระวิหาร ในพื้นที่ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นระเบิดที่ฝั่งกัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือน โดยจุดที่ระเบิดถูกฝังบนถนนอยู่ห่างจากปั๊ม ปตท. บ้านผือ ไม่ถึง 1 กิโลเมตร เป็นระเบิดที่ถูกยิงมาในวันที่ 24 กรกฎาคม พร้อมกับเหตุการณ์ยิงกัมพูชายิงจรวดใส่ร้านสะดวกซื้อภายในปั๊ม จนมีผู้เสียชีวิต 8 ราย เจ้าหน้าที่ได้นำกระสอบทรายมาทำเป็นบังเกอร์ล้อมรอบจุดที่ระเบิดฝังอยู่ในถนน เจ้าหน้าที่ชุดจากตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ตำรวจ ตชด.ที่ 22 อุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย หรือ TMAC โดยมีการปิดถนนรัศมี 1 กิโลเมตร […]

กองทัพภาคที่ 2 แชร์ข้อมูลอาวุธไฮเทคสำหรับยิงโดรน

นครราชสีมา 2 ส.ค.-กองทัพภาคที่ 2 แชร์ข้อมูลอาวุธสำหรับกำจัดโดรนโดยเฉพาะ ซึ่งล่าสุดได้ทดสอบระบบ ณ กองบิน 1 ศูนย์ทดสอบอาวุธทางอากาศ เรียบร้อยแล้ว ด้านชาวอุดรธานี แห่บริจาคหนังสติ๊กพร้อมลูกแก้ว ตามที่ทหารขอมาจำนวนมาก หลังทหารกัมพูชายังก่อกวน ยั่วยุ ทั้งขว้างก้อนหินใส่ และมีโดรนปริศนามาบินอีก จากกรณีที่ช่วงนี้ มีการตรวจพบโดรนไม่ทราบฝ่าย เข้ามาบินตรวจการณ์ในพื้นที่ที่ตั้งทางทหาร ทำให้หลายฝ่ายมีความกังวล และสงสัยว่าอาจเป็นภัยคุกคามร้ายแรงจากประเทศเพื่อบ้าน ที่กำลังมีปัญหาระหว่างประเทศกับประเทศไทย ทำให้เมื่อวานเพจกองทัพภาคที่ 2 ได้แชร์ข้อมูลอาวุธสำหรับกำจัดโดรนโดยเฉพาะ ซึ่งล่าสุดได้มีการทดสอบระบบ ณ กองบิน 1 ศูนย์ทดสอบอาวุธทางอากาศ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อวานนี้ (1 ส.ค.68) เฟซบุ๊กเพจ กองทัพภาคที่2 ได้แชร์ข้อมูลเพจ SMART Soldiers Strong ARMY พร้อมระบุข้อความว่า “หากศัตรูซ่อนตัวในเงามืด เราจะเป็นแสงที่มองเห็นมันก่อนใคร”เลเซอร์พร้อมยิง — ทหารไทยพร้อมรบโดยอาวุธชนิดนี้ คือ Directed Energy Weapon หรือ (DEW) เป็นอาวุธยุคใหม่ที่กองทัพอากาศไทยพัฒนาขีดความสามารถอย่างต่อเนื่อง […]