ผู้ตรวจฯ เร่งวินิจฉัยคำร้องเลือกตั้งโมฆะเสร็จก่อน 9 พ.ค.

สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน  10 เม.ย.-ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน  เร่งวินิจฉัยคำร้องเลือกตั้งโมฆะเสร็จก่อน 9 พ.ค. ชี้เหตุเลือกตั้งโมฆะต้องมีปัญหาความสุจริต เที่ยงธรรม เอื้อประโยชน์ให้ผู้สมัครรายใดรายหนึ่ง  ระบุหน่วยเลือกตั้งจำนวนมาก คนทำงานมากมีโอกาสผิดพลาด ขอประชาชนทำใจเป็นกลางรับฟัง กกต.ด้วย


พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักษาชาติ ยื่นคำร้องขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งความเห็นให้ศาลปกครอง หรือศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้การเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม 2562 เป็นโมฆะ  ว่า ได้อ่านคำร้องดังกล่าวแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการนำเข้าที่ประชุมของผู้ตรวจการแผ่นดิน  โดยอยู่ในขั้นตอนพิจารณาว่าจะรับคำร้องไว้พิจารณาหรือไม่  หากรับไว้พิจารณา ก็ต้องดำเนินการโดยเร็ว ซึ่งน่าจะแล้วเสร็จก่อนวันที่ 9 พฤษภาคม ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ครบกำหนดจะประกาศรับรองผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการไม่น้อยกว่าร้อยละ 95  และเท่าที่ตนได้ดูคำร้อง พบว่าเป็นการร้องเรื่องของจำนวนคะแนนในการประกาศผลร้อยละ 95 กับ 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่ตรงกัน และจำนวนผู้มาใช้สิทธิกับบัตรที่ถูกใช้ไม่ตรงกัน  รวมถึงกรณีบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่มาไม่ทันไม่ได้ถูกนำมานับรวม  ต้องดูข้อกฎหมายก่อน ยังไม่ขอวินิจฉัยในขณะนี้

“ปัจจัยที่จะทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะได้  ต้องเป็นเรื่องที่ชัดเจนว่าการเลือกตั้งไม่สุจริต ไม่เที่ยงธรรม มีอคติ ในการนับคะแนนเอื้อประโยชน์ให้กับผู้สมัครรายใดรายหนึ่ง แต่ถ้าไม่เจตนา ก็มีทางออกของกฎหมายในการแก้ไข เช่น การนับคะแนนใหม่ เลือกตั้งใหม่ โดยอยากให้ประชาชนรับฟังด้วยใจที่เป็นกลาง  การจะร้องเลือกตั้งโมฆะ ต้องดูข้อเท็จจริงว่ามีเหตุผลเพียงพอหรือไม่  การจัดการเลือกตั้งส่วนหนึ่งต้องไว้ใจ กกต.ที่ผ่านการสรรหาและมีการตรวจสอบคุณสมบัติอย่างเข้มข้น” พล.อ.วิทวัส กล่าว


พล.อ.วิทวัส กล่าวอีกว่า การจัดการเลือกตั้ง 350 เขต มีหน่วยเลือกตั้งมากถึงกว่า 9 หมื่นหน่วย ให้กรรมการประจำหน่วยหลายแสนคน  รวมถึงการรายงานผลผ่านระบบอินเทอร์เน็ตที่มุ่งเรื่องความรวดเร็ว  แต่อาจมีปัญหาเรื่องความถูกต้องแม่นยำ โอกาสที่จะมีความผิดพลาดเกิดขึ้นได้  โดยต้องยึดหลักให้การเลือกตั้งสุจริต เที่ยงธรรม และโปร่งใส หากยึดตามนี้ ก็สามารถตอบสังคมได้อยู่แล้ว

“แม้คำร้องที่เข้ามา จะมีผลกระทบต่อทางการเมือง ก็ไม่ลำบากใจ การทำงานยึดหลักความสุจริต เที่ยงธรรม กล้าหาญ ปราศจากอคติ ถ้าองค์กรอิสระทุกองค์กรยึดตามนี้ เชื่อว่าประชาชนจะไว้วางใจ  และสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นได้” พล.อ.วิทวัส กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ลวงมาฆ่า จัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 14 ล้าน

สุดโหด หนุ่มสกลนครถูกญาติตัวเองร่วมมือกับอดีตตัวแทนจำหน่ายประกัน ลวงมาฆ่า ก่อนจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ 3 คัน รวม 14 ล้านบาท แต่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพบพิรุธ แจ้งตำรวจตรวจสอบ ก่อนออกหมายจับเบื้องต้น 4 คน

พระยันตระ

ปิดตำนาน “อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตในวัย 73 ปี ที่สหรัฐ

“อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 73 ปี ที่วัดในสหรัฐอเมริกา ปิดตำนานอดีตพระภิกษุที่เคยมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดรูปหนึ่งของวงการสงฆ์ไทย

อดีตผู้บังคับบัญชา “ผู้กำกับโจ้” เผยสมัยเป็นลูกน้องไม่ใช่คนเกเร

อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดประวัติอดีตผู้กำกับโจ้ สมัยเป็นลูกน้องไม่ใช่คนเกเร เชื่อได้รับผลกรรมที่ทำแล้ว

ข่าวแนะนำ

Exclusive! เปิดห้องขังแดน 5 “อดีต ผกก.โจ้”

กรมราชทัณฑ์ เปิดห้องขัง แดน 5 ของ “อดีต ผกก.โจ้” ให้สังคมได้เห็นสภาพความเป็นจริงอีกด้าน พบด้านในยังรักษาพื้นที่ และข้าวของเครื่องใช้ของอดีต ผกก.โจ้ เอาไว้ เผื่อเจ้าหน้าที่จะเข้ามาเก็บหลักฐานเพิ่มเติม

รัฐบาลเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงละศีลอด เดือนรอมฎอน

รัฐบาลเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงละศีลอด เดือนรอมฎอน ปี ฮ.ศ. 1446 ขณะที่นายกรัฐมนตรี ร่วมส่งใจให้พี่น้องชาวมุสลิมตั้งจิตมุ่งมั่นปฏิบัติศาสนกิจถือศีลอด ในช่วงเวลาแห่งเดือนอันศักดิ์สิทธิ์

โผล่อีก 2 ราย! เหยื่อสาวแบงก์แอบถอนเงินลูกค้า

กรณีสาวแบงก์ แอบถอนเงินลูกค้า 8 ล้านบาท สารภาพเอาไปซื้อบ้าน-รถ และส่งลูกเรียนต่างประเทศ ล่าสุด เหยื่อโผล่แจ้งความเพิ่มอีก 2 ราย วงเงิน 2 ล้าน ยอดรวมเสียหายถึง 10 ล้านบาท