เครือข่ายนักวิชาการจับผิดเลือกตั้ง ส่อทุจริต 27 เขตเลือกตั้ง

กทม.29 มี.ค.-เครือข่ายนักวิชาการฯ เเถลงผลสังเกตการณ์การเลือกตั้ง พบพฤติกรรมส่อทุจริต 27 เขตเลือกตั้งจาก 160 เขตที่สุ่มสำรวจ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นระหว่างการเลือกตั้ง จี้ กกต.เร่งเปิดเผยคะแนนทุกหน่วยเลือกตั้ง ให้ประชาชนได้ตรวจสอบอย่างโปร่งใส ย้ำพรรคการเมืองต้องมีมารยาททางการเมือง


เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง นำโดยนายอนุสรณ์ อุณโณ คณบดีคณะสังคมวิทยาเเละมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนายสามชาย ศรีสันต์ อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วย อึ้งภากรณ์ ร่วมเเถลงผลการสำรวจการสังเกตการณ์การเลือกตั้งปี 2562    ซึ่งดำเนินการโดยคณาจารย์เเละนิสิตนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยรัฐ 24 แห่งทั่วประเทศ 


โดยจากการลงพื้นที่ของคณาจารย์ นักวิจัยเเละนักศึกษากว่า 205 คนเพื่อสังเกตการณ์การเลือกตั้ง 77 จังหวัด ใน 160 เขตเลือกตั้งจากทั้งหมด 350 เขต พบว่ามี 27 เขตเลือกตั้งที่ส่อมีการทุจริต คิดเป็นร้อยละ 17 โดยเเบ่งขั้นตอนที่พบพฤติกรรมที่ส่อทุจริต 4 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนก่อนลงคะเเนน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 11 ขั้นตอนการลงคะเเนนร้อยละ 37 ขั้นตอนการปิดการลงคะเเนนร้อยละ 24 เเละขั้นตอนการนับคะเเนนร้อยละ 28


ขั้นตอนที่พบพฤติกรรมที่ส่อการทุจริตมากที่สุด คือการลงคะเเนน โดยพบพฤติกรรมมีการเปลี่ยนตัวกรรมการร้อยละ 1.8 นำคนจำนวนมากมาลง คะแนนร้อยละ 2.5 กรรมการไม่ตรวจบัตรร้อยละ 1.2 กรรมการไม่ให้ผู้มาใช้สิทธิลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐานร้อยละ2.5 กรรมการหย่อนบัตรเลือก ตั้งแทนผู้มาใช้สิทธิร้อยละ1.8 รายชื่อผู้มาใช้สิทธิตกหล่นร้อยละ 1.8 และใช้สื่อ แสดงพฤติกรรมชี้นำการเลือกตั้งร้อยละ7.5 

ส่วนพฤติกรรมส่อทุจริตช่วงปิดการลงคะแนนคือการจัดทำสรุปสำนวนบัตรเลือกตั้งไม่ตรงคามความเป็นจริง ร้อยละ 8.1 และมีการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับหีบบัตรก่อนเปิดนับคะแนน ร้อยละ 1.8 ขณะที่พฤติกรรมส่อทุจริตการนับคะแนน คือเจตนาทำให้บัตรดีกลายเป็นบัตรเสียร้อยละ 1.2 ไม่นับคะแนนอย่างเปิดเผยในทุกขั้นตอนร้อยละ 1.8 อ่านคะแนนโดยไม่แสดงบัตรให้ดูร้อยละ 1.8 ขีดนับคะแนนผิดพลาดร้อยละ 1.8 ประกาศคะแนนผิดจากความเป็นจริงร้อยละ 1.8 วินิจฉัยบัตรเสียอย่างไม่เป็นธรรม ร้อยละ 2.5 สรุปตัวเลขผู้มาใช้สิทธิบัตรดี บัตรเสียไม่ตรงตามจำนวนบัตรที่เหลือ ร้อยละ6.2และมีบุคคลภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้องในกระบวนการนับคะแนนร้อยละ 2.5 

นายสามชาย กล่าวว่า จากการทำงานของ กกต.ในการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ พบเรื่องความบกพร่อง ผิดพลาดและพิรุธ จนนำสู่การรวบรวมรายชื่อถอดถอน กกต.ของหลายกลุ่ม  ซึ่งเชิงกฎหมายยืนยันว่าต่อให้ กกต.ถูกถอดถอน แต่ยังสามารถรักษาการได้ หรือมีกลไกอื่นที่สามารถเดินหน้าต่อได้ อย่างไรก็ตาม ต้องการให้กกต.สร้างความกระจ่าง และอธิบายข้อกังขา และเมื่อพิสูจน์จนสิ้นสงสัยก็ต้องการให้พรรคการเมืองเคารพต่อเจตนารมณ์ของประชาชน และมารยาทของพรรคการเมืองโดยให้พรรคที่มีจำนวนที่นั่ง ส.ส.มากที่สุดจัดตั้งรัฐบาล และ ส.ว.ต้องเคารพเสียงนั้นของประชาชนด้วย 

ด้านนายอนุสรณ์ กล่าวยืนยันว่าอยากให้ กกต.เปิดเผยคะแนนทุกหน่วยเลือกตั้ง หากยังนิ่งเฉยจะนิ่งทำให้เกิดความขัดแย้งในสังคม เพราะสิ่งที่เปิดเผยวันนี้ก็ตรงกับข้อสงสัยส่วนใหญ่ของประชาชน ซึ่งมองว่าหากกกต.ยังไม่เปิดเผย หรือให้มีการตรวจสอบการเลือกตั้งโดยเร็ว อนาคตอาจจะมีความขัดแย้ง แต่ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวบนท้องถนน

ขณะที่นายเดชรัตน์ สุขกำเนิด นักวิชาการเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ขณะนี้หลายฝ่ายมีความพยายามในการจัดตั้งรัฐบาล แต่ตนมองว่า หากมาจากการนับที่ไม่ถูกต้องมีข้อสงสัย ไม่โปร่งใสอยู่ข้อถกเถียงนั้นก็ไม่ได้ตั้งอยู่บนเจตนารมณ์ประชาชนอย่างแท้จริง ดังนั้นต้องทำให้โปร่งใสเร็วที่สุด กกต.ต้องเปิดเผยตัวเลขคะแนนแต่ละหน่วย  ให้มีความเที่ยงตรง โปร่งใส ตรวสอบได้  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังการแถลงผลการสังเกตการณ์การเลือกตั้ง เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง ได้ออกแถลงการณ์ 5 ข้อต่อการเลือกตั้งดังนี้ 1. ทุกคะแนนที่มีการเลือกตั้งไม่ว่าจะเป็นในประเทศหรือนอกประเทศต้องได้รับความเคารพ ไม่ถูกบิดเบือน 

2. ให้กกต.ชี้แจงกรณีบัตรเลือกตั้งที่เพิ่มขึ้นมาจนทำให้เกิดข้อสงสัยมาว่าเหตุใด หรือเป็นอภินิหารหีบเลือกตั้งของ กกต.

3. เรียกร้องให้กกต.เปิดเผยคะแนนเสียงต่อทุกฝ่าย หากไม่เป็นเปิดจะเป็นการตอกย้ำถึงความน่าเชื่อถือของกกต.ที่ไม่มีความเป็นกลาง กระทบต่อความเชื่อมั่นของประเทศ และมีผลต่อการจัดตั้งรัฐบาลโดยตรง 

4.หากเปิดเผยผลคะแนนจากหน่วยเลือกตั้งไม่ตรงกับหลักฐานจากผู้สังเกตการณ์และพยานในการนับคะแนนแต่ละหน่วยจากภาคประชาชน กกต.ควรจัดให้มีการนับคะแนนใหม่อย่างโปร่งใส ซึ่งเป็นคนละกรณีกับการเลือกตั้งใหม่ 

5.เชิญชวนประชาชนแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ให้กกต.เปิดเผยผลการนับคะแนนที่โปร่งใสในรูปแบบต่างๆ เช่น โซเชียลมีเดีย.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]

พบหลุมระเบิดที่กัมพูชายิงใส่ไทย 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดน

กทม. 10 ส.ค.-เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดนไทย ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล เพจเฟซบุ๊ก “กองทัพบก ทันกระแส” โพสต์ว่า เจ้าหน้าที่ EOD เข้าพื้นที่เก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล ซึ่งสร้างความเสียหายและความหวาดกลัวให้ประชาชน ที่กำลังทยอยกลับเข้าพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายของบ้านพักอาศัย ข้อมูลที่เพจโพสต์แสดงให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นใน 4 จังหวัดชายแดน ได้แก่ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ซึ่งเป็นผลจากการยิงอาวุธของกัมพูชาใส่เป้าหมายพลเรือน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องอพยพหนีภัยสงคราม และหากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ประชาชนเริ่มกลับเข้าสู่พื้นที่ตนเอง แต่ต้องเผชิญกับอันตรายจากระเบิดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ EOD ทำงานอย่างหนัก เพื่อเร่งเก็บกู้ระเบิดให้แล้วเสร็จ เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยในบ้านของตนเองอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ชวนชมดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม

ทำเนียบ 10 ส.ค.-รัฐบาลเชิญชวนชมความงดงามของดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ ในโอกาสเฉลิมพระเกียรติ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง วันที่ 12 สิงหาคมของทุกปี (วันแม่แห่งชาติ) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ร่วมใจกัน ติดตั้งไฟประดับทั้ง 2 ข้างทาง เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ขอเชิญชวนประชาชนได้ร่วมสัมผัสความงดงามของดวงไฟประดับ เนื่องในโอกาสมหามงคลนี้ โดยการไฟฟ้านครหลวง ได้ดำเนินการติดตั้งไฟประดับจำนวนกว่า 2 ล้านดวง เพื่อประดับในสถานที่ต่าง ๆ ได้แก่ พระที่นั่งอัมพรสถาน วังศุโขทัย พระบรมมหาราชวัง บริเวณท้องสนามหลวง รอบพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วังสระปทุม พระที่นั่งอนันตสมาคม ลานพระบรมรูปทรงม้า สนามเสือป่า ทำเนียบองคมนตรี กระทรวงมหาดไทย ถนนราชดำเนินใน ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนศรีอยุธยา ตั้งแต่วันนี้ – […]

ไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง

กทม. 10 ส.ค.-กรมอุตุฯ รายงานไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่งบริเวณภาคอีสาน ตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก คลื่นลมทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบนและประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนจะมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ […]