กรุงเทพฯ 27 มี.ค.- ประธาน กกต.น้อมรับเสียงโจมตี ยอมรับจัดเลือกตั้งมีข้อผิดพลาด บกพร่องจริง พร้อมเร่งแก้ไขให้ดีที่สุด ยังไม่มองปัจจัยร้องให้เลือกตั้งเป็นโมฆะ ย้ำเปิดเผยผลคะแนนต่อสาธารณะทุกหน่วยแล้วตรวจสอบได้ เบื้องต้นขอให้สันนิษฐานว่าการนับคะแนนอย่างเปิดเผยถูกต้อง-ชอบธรรม ส่วนปมบัตรนิวซีแลนด์มีมติไม่เปิดนับตามที่กฎหมายให้อำนาจ ยังไม่โชว์สปิริตลาออก ขอเดินหน้าทำงานให้มีประสิทธิภาพ
ศูนย์ส่งเสริมประชาธิปไตย เวลา 13.45 น. นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของ กกต.ว่า เสียงโจมตีและการให้ความเห็นของประชาชนเป็นสิ่งที่ กกต.เคารพ เพราะความผิดพลาดก็มีอยู่จริง สิ่งที่ กกต.ต้องทำ คือตอบให้ได้ว่าข้อผิดพลาดเกิดจากอะไรและจะแก้ไขอย่างไร ตรงนี้เป็นประเด็นหลัก การถูกโจมตีเป็นเรื่องปกติของการทำงานในลักษณะนี้ จะไม่รับฟังเสียงโจมตีคงเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้ามองในแง่สร้างสรรค์สิ่งเหล่านี้จะเป็นเครื่องเตือนใจ ให้คำนึงถึงการทำงานต่อไปให้ดีที่สุด
ประธาน กกต. กล่าวว่า ส่วนที่มีการขอให้ กกต.เปิดเผยผลคะแนนเป็นรายหน่วยเลือกตั้งนั้น ในความเป็นจริง ทุกหน่วยเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.เมื่อนับคะแนนเสร็จแล้ว ก็จะติดประกาศผลคะแนนไว้ที่หน้าหน่วย ขั้นตอนในขณะนี้ คือ กรรมการประจำหน่วยจะส่งผลคะแนนมาที่ กกต.เขต ให้รวบรวมส่งมายัง กกต.จังหวัด เพื่อส่งต่อมายัง กกต.กลาง
นายอิทธิพร กล่าวว่า ข้อมูลผลคะแนนมีการเปิดเผยตั้งแต่ระดับหน่วยเลือกตั้งอยู่แล้ว ประชาชนสามารถขอข้อมูลผลการนับคะแนนได้ จาก กกต.เขต หรือ กกต.จังหวัด โดยในการประชุมช่วงเช้าที่ผ่านมา กกต.ก็ได้กำชับกับสำนักงานฯ ให้แจ้งไปยังสำนักงาน กกต.จังหวัด ให้ส่งรายงานผลการนับคะแนนจากทุกเขตมายัง กกต.กลาง เพื่อดำเนินการตรวจสอบอีกครั้ง และคิดว่าข้อมูลหลังจากนั้นไม่น่าจะมีอะไรที่เปิดเผยไม่ได้ ส่วนที่มีการเรียกร้องให้นับคะแนนใหม่ทั้งหมด ตนอยากให้ดูประเด็นว่า ทุกหน่วยเลือกตั้งที่เปิดให้ลงคะแนนเมื่อวันที่ 24 มี.ค. เมื่อถึงเวลาปิดหีบ มีการนับคะแนนอย่างเปิดเผย โดยมีประชาชนและผู้สังเกตการณ์ไปเฝ้าดูอยู่ จึงอยากให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าการนับคะแนนในที่สาธารณะ โดยมีผู้มีส่วนได้เสียร่วมสังเกตการณ์อยู่ด้วย เป็นการนับคะแนนที่ถูกต้องชอบธรรมในเบื้องต้น ข้อร้องเรียนในความผิดปกติในบางหน่วยมีอยู่จริง แต่จะนำไปสู่การเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่ยังตอบไม่ได้
ประธาน กกต. กล่าวถึงกรณีที่ประชาชนยังคาใจต่อการทำงานของ กกต. ว่า ขอแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นข่าวลือ ซึ่งเรามีกลไกตรวจสอบ ถ้าเป็นข่าวลือ ข่าวเท็จ ข่าวให้ร้าย เราก็คงต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และกลุ่มที่ 2 เป็นการรายงานข้อมูลบกพร่องผิดพลาด เราก็จะตรวจสอบว่าข้อผิดพลาดบกพร่องเกิดจากอะไร และจะแก้ไขได้อย่างไร ซึ่งก็จะชี้แจงให้ประชาชนทราบอย่างสม่ำเสมอ ทั้งในรูปของเอกสาร หรือตั้งโต๊ะแถลงข่าว เรามีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข่าวทั้งข่าวจริง ข่าวเท็จ และจะมีการให้ข้อมูล ล่าสุดมีการเสริมประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น โดยให้มีตัวแทนของ กกต.เข้าไปร่วมและให้ข้อคิดเห็นในทุกกรณี เพื่อให้เกิดความรอบคอบ เพราะมีข้อร้องเรียนเข้ามาเยอะมาก เมื่อวานได้ชี้แจงไปแล้วบางส่วน อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการชุดนี้จะทำงานต่อไปเรื่อย ๆ เพราะเราตั้งใจว่าทุกข้อสงสัยที่ประชาชนสนใจ กกต.จะพยายามตอบให้ถูกต้องและครบถ้วนที่สุด
นายอิทธิพร กล่าวถึงกรณีบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ที่ประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่ง กกต.มีมติไม่นำบัตรมานับคะแนน ว่า การประชุมเมื่อวันที่ 26 มี.ค. ที่ผ่านมา กกต.ใช้เวลาพิจารณาว่าจะทำอย่างไรต่อไปกับบัตรเลือกตั้งของนิวซีแลนด์ที่ส่งมาถึง ซึ่งตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา 114 มีหลายสาเหตุที่กกต. มีอำนาจสั่งไม่ให้นับคะแนน และให้ถือว่าเป็นบัตรเสีย โดยเฉพาะเรื่องของการส่งบัตรล่าช้า ซึ่งบัตรจากนิวซีแลนด์ในข้อเท็จจริงยังไปไม่ถึงสถานที่เลือกตั้ง ยังอยู่แถวนี้ จึงไม่เข้าข่าย มาตรา 114 ซึ่งระบุว่าเมื่อมีการส่งบัตรเลือกตั้งไปยังสถานที่เลือกตั้งภายหลังเริ่มนับคะแนนแล้ว การพิจารณาเราต้องให้มั่นใจว่า กฎหมายให้อำนาจอะไรเราบ้าง เมื่อเราเห็นว่าเรื่องนี้ไม่เข้ามาตรา 114 สิ่งที่เราทำได้ คือมีมติไม่ให้นับคะแนน ซึ่งก็คล้ายกับกรณีที่มีการส่งบัตรล่าช้าในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่าน ๆ มา คือส่งมาไม่ทันการนับคะแนน จึงต้องนำบัตรดังกล่าวมาเก็บรักษาไว้
เมื่อถามว่าหากนำบัตรจากนิวซีแลนด์มาเปิดนับ จะเกิดปัญหาการเลือกตั้งไม่เป็นความลับและนำไปสู่การร้องให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ตรงนี้ยังตอบไม่ได้ แต่ที่ กกต.มีมติก็อยู่บนพื้นฐานที่ได้อธิบายให้ฟังว่า บัตรเหล่านี้ไม่ใช่บัตรเสีย เป็นเพียงบัตรที่ส่งมาล่าช้า ส่งมาถึงภายหลังปิดการนับคะแนน ส่วนจะมีการนำไปสู่การฟ้องร้องให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่นั้น ตนคงตอบไม่ได้ เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณากันหลายแง่มุม ขึ้นอยู่กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่าง ๆ จะพิจารณาไปในแง่มุมใด แต่ในชั้นนี้ กกต. คิดว่า เหตุผลที่เราตัดสินใจว่าไม่สามารถนับเป็นคะแนนได้ เพราะบัตรส่งมาไม่ทัน
เมื่อถามถึงภาพรวมการเลือกตั้งว่ามีประเด็นใดจะนำไปสู่การวินิจฉัยให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า โดยส่วนตัวยังไม่เห็นว่ามีประเด็นใด แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มี ที่ผ่านมาก็มีการนับคะแนนผิด ส่งบัตรเลือกตั้งผิด ในบางหน่วยเลือกตั้ง เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ กกต.ไม่อยากให้เกิด ขณะนี้จึงอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยกกต. จะทยอยชี้แจงเป็นรายกรณีไป ให้เร็วที่สุด
เมื่อถามว่าเป็นห่วงหรือไม่ว่า การประกาศผลอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 พ.ค. อาจไม่เป็นที่ยอมรับ นายอิทธิพร กล่าวว่า ยังไม่กลัว เพราะสิ่งที่ถามเป็นข้อเท็จจริงที่ยังไม่เกิดขึ้น จึงยังไม่ขอตอบ สิ่งที่กกต.ต้องทำในขณะนี้คือการเลือกตั้งที่ผ่านไป มีการร้องเรียนในประเด็นใดบ้าง และผลของการร้องเรียนจะนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่หรือไม่ เมื่อถามย้ำว่า แต่ละฝ่ายพยายามเร่งจัดตั้งรัฐบาล เป็นไปได้หรือไม่ที่กกต.จะประกาศผลการเลือกตั้งให้เร็วกว่าที่กำหนดไว้ ประธาน กกต.กล่าวว่า เราก็อยากทำให้เร็วที่สุด ไม่อยากทำอะไรช้า แต่ที่ต้องช้าไปเล็กน้อยเพราะอยากให้มั่นใจว่า มันจะไม่ผิดพลาดเหมือนกับบางกรณีที่เราผิดพลาดไปแล้วบ้าง
เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรที่มีการเข้าชื่อถอดถอน กกต.แล้ว ถึง 8 แสนรายชื่อ นายอิทธิพร กล่าวว่า สิ่งที่อยากทำในตอนนี้ คือดูว่ามีอะไรผิดพลาด และสิ่งใดสำคัญ ขอทำในสิ่งที่ต้องรับผิดชอบให้ดีก่อน แก้ไขสิ่งผิดพลาดให้ดีที่สุด เรื่องอื่นก็สุดแล้วแต่ ส่วนที่มีการเรียกร้องให้ กกต.แสดงสปิริตด้วยการลาออกนั้น ตนยังไม่ขอตอบ เพราะยังมุ่งเน้นทำงานให้มีประสิทธิภาพดีที่สุด โดยขณะนี้ กกต.เริ่มพิจารณาเรื่องร้องเรียนและร้องคัดค้านแล้ว แต่ไม่ได้กำหนดว่าวันหนึ่งจะต้องพิจารณาให้ได้กี่เรื่อง ทราบว่าในอดีตมีเรื่องร้องเรียนมากกว่า 500 เรื่อง แต่ในครั้งนี้มีประมาณ 100 เรื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการร้องคัดค้านการเลือกตั้งในต่างจังหวัด.-สำนักข่าวไทย