ประธานกกต.ยอมรับจัดเลือกตั้งมีข้อผิดพลาดเร่งแก้ไข

กรุงเทพฯ 27 มี.ค.- ประธาน กกต.น้อมรับเสียงโจมตี  ยอมรับจัดเลือกตั้งมีข้อผิดพลาด บกพร่องจริง พร้อมเร่งแก้ไขให้ดีที่สุด ยังไม่มองปัจจัยร้องให้เลือกตั้งเป็นโมฆะ  ย้ำเปิดเผยผลคะแนนต่อสาธารณะทุกหน่วยแล้วตรวจสอบได้  เบื้องต้นขอให้สันนิษฐานว่าการนับคะแนนอย่างเปิดเผยถูกต้อง-ชอบธรรม ส่วนปมบัตรนิวซีแลนด์มีมติไม่เปิดนับตามที่กฎหมายให้อำนาจ ยังไม่โชว์สปิริตลาออก ขอเดินหน้าทำงานให้มีประสิทธิภาพ 


ศูนย์ส่งเสริมประชาธิปไตย  เวลา 13.45 น. นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของ กกต.ว่า เสียงโจมตีและการให้ความเห็นของประชาชนเป็นสิ่งที่ กกต.เคารพ เพราะความผิดพลาดก็มีอยู่จริง  สิ่งที่ กกต.ต้องทำ คือตอบให้ได้ว่าข้อผิดพลาดเกิดจากอะไรและจะแก้ไขอย่างไร ตรงนี้เป็นประเด็นหลัก  การถูกโจมตีเป็นเรื่องปกติของการทำงานในลักษณะนี้  จะไม่รับฟังเสียงโจมตีคงเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้ามองในแง่สร้างสรรค์สิ่งเหล่านี้จะเป็นเครื่องเตือนใจ  ให้คำนึงถึงการทำงานต่อไปให้ดีที่สุด

ประธาน กกต. กล่าวว่า ส่วนที่มีการขอให้ กกต.เปิดเผยผลคะแนนเป็นรายหน่วยเลือกตั้งนั้น   ในความเป็นจริง ทุกหน่วยเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.เมื่อนับคะแนนเสร็จแล้ว  ก็จะติดประกาศผลคะแนนไว้ที่หน้าหน่วย  ขั้นตอนในขณะนี้ คือ กรรมการประจำหน่วยจะส่งผลคะแนนมาที่ กกต.เขต  ให้รวบรวมส่งมายัง กกต.จังหวัด  เพื่อส่งต่อมายัง กกต.กลาง 


นายอิทธิพร กล่าวว่า  ข้อมูลผลคะแนนมีการเปิดเผยตั้งแต่ระดับหน่วยเลือกตั้งอยู่แล้ว ประชาชนสามารถขอข้อมูลผลการนับคะแนนได้  จาก กกต.เขต หรือ กกต.จังหวัด โดยในการประชุมช่วงเช้าที่ผ่านมา กกต.ก็ได้กำชับกับสำนักงานฯ ให้แจ้งไปยังสำนักงาน กกต.จังหวัด  ให้ส่งรายงานผลการนับคะแนนจากทุกเขตมายัง กกต.กลาง เพื่อดำเนินการตรวจสอบอีกครั้ง  และคิดว่าข้อมูลหลังจากนั้นไม่น่าจะมีอะไรที่เปิดเผยไม่ได้  ส่วนที่มีการเรียกร้องให้นับคะแนนใหม่ทั้งหมด ตนอยากให้ดูประเด็นว่า ทุกหน่วยเลือกตั้งที่เปิดให้ลงคะแนนเมื่อวันที่ 24 มี.ค. เมื่อถึงเวลาปิดหีบ มีการนับคะแนนอย่างเปิดเผย โดยมีประชาชนและผู้สังเกตการณ์ไปเฝ้าดูอยู่ จึงอยากให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าการนับคะแนนในที่สาธารณะ โดยมีผู้มีส่วนได้เสียร่วมสังเกตการณ์อยู่ด้วย เป็นการนับคะแนนที่ถูกต้องชอบธรรมในเบื้องต้น  ข้อร้องเรียนในความผิดปกติในบางหน่วยมีอยู่จริง แต่จะนำไปสู่การเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่ยังตอบไม่ได้ 

ประธาน กกต. กล่าวถึงกรณีที่ประชาชนยังคาใจต่อการทำงานของ กกต. ว่า ขอแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นข่าวลือ  ซึ่งเรามีกลไกตรวจสอบ ถ้าเป็นข่าวลือ ข่าวเท็จ ข่าวให้ร้าย เราก็คงต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และกลุ่มที่ 2 เป็นการรายงานข้อมูลบกพร่องผิดพลาด  เราก็จะตรวจสอบว่าข้อผิดพลาดบกพร่องเกิดจากอะไร และจะแก้ไขได้อย่างไร ซึ่งก็จะชี้แจงให้ประชาชนทราบอย่างสม่ำเสมอ   ทั้งในรูปของเอกสาร  หรือตั้งโต๊ะแถลงข่าว   เรามีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข่าวทั้งข่าวจริง ข่าวเท็จ และจะมีการให้ข้อมูล   ล่าสุดมีการเสริมประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น โดยให้มีตัวแทนของ กกต.เข้าไปร่วมและให้ข้อคิดเห็นในทุกกรณี  เพื่อให้เกิดความรอบคอบ เพราะมีข้อร้องเรียนเข้ามาเยอะมาก  เมื่อวานได้ชี้แจงไปแล้วบางส่วน  อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการชุดนี้จะทำงานต่อไปเรื่อย ๆ เพราะเราตั้งใจว่าทุกข้อสงสัยที่ประชาชนสนใจ กกต.จะพยายามตอบให้ถูกต้องและครบถ้วนที่สุด 

นายอิทธิพร กล่าวถึงกรณีบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ที่ประเทศนิวซีแลนด์   ซึ่ง กกต.มีมติไม่นำบัตรมานับคะแนน ว่า  การประชุมเมื่อวันที่ 26 มี.ค. ที่ผ่านมา กกต.ใช้เวลาพิจารณาว่าจะทำอย่างไรต่อไปกับบัตรเลือกตั้งของนิวซีแลนด์ที่ส่งมาถึง  ซึ่งตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา 114  มีหลายสาเหตุที่กกต. มีอำนาจสั่งไม่ให้นับคะแนน และให้ถือว่าเป็นบัตรเสีย  โดยเฉพาะเรื่องของการส่งบัตรล่าช้า   ซึ่งบัตรจากนิวซีแลนด์ในข้อเท็จจริงยังไปไม่ถึงสถานที่เลือกตั้ง ยังอยู่แถวนี้ จึงไม่เข้าข่าย มาตรา 114  ซึ่งระบุว่าเมื่อมีการส่งบัตรเลือกตั้งไปยังสถานที่เลือกตั้งภายหลังเริ่มนับคะแนนแล้ว  การพิจารณาเราต้องให้มั่นใจว่า กฎหมายให้อำนาจอะไรเราบ้าง เมื่อเราเห็นว่าเรื่องนี้ไม่เข้ามาตรา 114  สิ่งที่เราทำได้ คือมีมติไม่ให้นับคะแนน ซึ่งก็คล้ายกับกรณีที่มีการส่งบัตรล่าช้าในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่าน ๆ มา คือส่งมาไม่ทันการนับคะแนน จึงต้องนำบัตรดังกล่าวมาเก็บรักษาไว้ 


เมื่อถามว่าหากนำบัตรจากนิวซีแลนด์มาเปิดนับ จะเกิดปัญหาการเลือกตั้งไม่เป็นความลับและนำไปสู่การร้องให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่  นายอิทธิพร กล่าวว่า ตรงนี้ยังตอบไม่ได้  แต่ที่ กกต.มีมติก็อยู่บนพื้นฐานที่ได้อธิบายให้ฟังว่า บัตรเหล่านี้ไม่ใช่บัตรเสีย เป็นเพียงบัตรที่ส่งมาล่าช้า ส่งมาถึงภายหลังปิดการนับคะแนน  ส่วนจะมีการนำไปสู่การฟ้องร้องให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่นั้น ตนคงตอบไม่ได้ เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณากันหลายแง่มุม ขึ้นอยู่กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่าง ๆ จะพิจารณาไปในแง่มุมใด  แต่ในชั้นนี้ กกต. คิดว่า เหตุผลที่เราตัดสินใจว่าไม่สามารถนับเป็นคะแนนได้ เพราะบัตรส่งมาไม่ทัน  

เมื่อถามถึงภาพรวมการเลือกตั้งว่ามีประเด็นใดจะนำไปสู่การวินิจฉัยให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า โดยส่วนตัวยังไม่เห็นว่ามีประเด็นใด แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มี  ที่ผ่านมาก็มีการนับคะแนนผิด ส่งบัตรเลือกตั้งผิด ในบางหน่วยเลือกตั้ง เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ กกต.ไม่อยากให้เกิด ขณะนี้จึงอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยกกต. จะทยอยชี้แจงเป็นรายกรณีไป ให้เร็วที่สุด

เมื่อถามว่าเป็นห่วงหรือไม่ว่า การประกาศผลอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 พ.ค. อาจไม่เป็นที่ยอมรับ นายอิทธิพร กล่าวว่า ยังไม่กลัว เพราะสิ่งที่ถามเป็นข้อเท็จจริงที่ยังไม่เกิดขึ้น จึงยังไม่ขอตอบ  สิ่งที่กกต.ต้องทำในขณะนี้คือการเลือกตั้งที่ผ่านไป มีการร้องเรียนในประเด็นใดบ้าง และผลของการร้องเรียนจะนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่หรือไม่  เมื่อถามย้ำว่า แต่ละฝ่ายพยายามเร่งจัดตั้งรัฐบาล เป็นไปได้หรือไม่ที่กกต.จะประกาศผลการเลือกตั้งให้เร็วกว่าที่กำหนดไว้ ประธาน กกต.กล่าวว่า เราก็อยากทำให้เร็วที่สุด ไม่อยากทำอะไรช้า แต่ที่ต้องช้าไปเล็กน้อยเพราะอยากให้มั่นใจว่า มันจะไม่ผิดพลาดเหมือนกับบางกรณีที่เราผิดพลาดไปแล้วบ้าง 

เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรที่มีการเข้าชื่อถอดถอน กกต.แล้ว ถึง 8 แสนรายชื่อ   นายอิทธิพร กล่าวว่า สิ่งที่อยากทำในตอนนี้  คือดูว่ามีอะไรผิดพลาด และสิ่งใดสำคัญ  ขอทำในสิ่งที่ต้องรับผิดชอบให้ดีก่อน  แก้ไขสิ่งผิดพลาดให้ดีที่สุด  เรื่องอื่นก็สุดแล้วแต่ ส่วนที่มีการเรียกร้องให้ กกต.แสดงสปิริตด้วยการลาออกนั้น   ตนยังไม่ขอตอบ เพราะยังมุ่งเน้นทำงานให้มีประสิทธิภาพดีที่สุด   โดยขณะนี้ กกต.เริ่มพิจารณาเรื่องร้องเรียนและร้องคัดค้านแล้ว  แต่ไม่ได้กำหนดว่าวันหนึ่งจะต้องพิจารณาให้ได้กี่เรื่อง ทราบว่าในอดีตมีเรื่องร้องเรียนมากกว่า 500 เรื่อง แต่ในครั้งนี้มีประมาณ 100 เรื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการร้องคัดค้านการเลือกตั้งในต่างจังหวัด.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“พล.ท.บุญสิน” ยันยังไม่ดำเนินการโครงการอบรมโดรนเกษตร

กทม. 12 ก.ย.- “พล.ท.บุญสิน” แจงบริษัทเอกชนมามอบของ-ถ่ายรูป พร้อมเสนอโครงการอบรมโดรนเกษตร ยืนยันยังไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อวันที่ 12 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่มีบริษัทเอกชนเข้ามาถ่ายรูปร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 2 โดยมีการนำโครงการ “อบรมการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ให้กับทหารเพื่อเป็นการเพิ่มทักษะ เพื่อใช้ในการเกษตร” วานนี้ (11 ก.ย.) ว่า บริษัทดังกล่าวได้เข้ามาพบเหมือนกับพี่น้องประชาชนและบริษัทต่างๆ ที่เข้ามาพบมอบของ เพียงแต่ว่าทางบริษัทนี้เข้ามานำเสนอโครงการโดรน ตนก็ไม่ได้พูดคุยอะไรมาก เพียงแต่รับฟังไว้ ประมาณ 10 นาที ทางคณะดังกล่าวก็ขอถ่ายภาพ ก่อนเดินทางกลับ “ผมยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการดำเนินการทำอะไรเลย ยังไม่ผ่านการตรวจสอบให้รอบคอบ ยืนยันอีกครั้งยังไม่ได้ดำเนินการอะไรทั้งนั้น” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313.-สำนักข่าวไทย

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

ผลักดัน “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว 7 คน กลับกัมพูชา

จันทบุรี 12 ก.ย. – ตม.ศรีสะเกษ ประสาน ตม.จันทบุรี ส่งตัว “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว รวม 7 คน กลับกัมพูชา หลังถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึก และถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ทั้งยังพบอาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นำตัวนางเขื่อน ชาวกัมพูชา และสมาชิกครอบครัว รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับตัวอยู่ก่อนแล้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา นางเขื่อน ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รวมตัวกันขับไล่ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไส้ศึก” คอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กับฝ่ายกัมพูชา และยังพบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบการต่างประเทศ เพื่อส่งตัวกลับภูมิลำเนา. – สำนักข่าวไทย

“ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – “ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ งบปี 69 เน้นเส้นเลือดฝอยคู่เส้นเลือดใหญ่ สถานการณ์น้ำตอนนี้ เตรียมรับน้ำเหนือ-พายุ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2568 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า วันนี้เป็นการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระที่สองและวาระที่สาม ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างเข้มข้น เนื่องจากกว่า 30 วันที่ผ่านมา น่าจะได้ข้อสรุปว่าจะเพิ่มหรือลดงบประมาณอย่างไร ในจุดไหนบ้าง โดยผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน สำหรับงบประมาณส่วนใหญ่ได้ตามที่ตั้งเสนอของบฯ ไว้ โดยจะเน้นงบประมาณลงพื้นที่เขตมากขึ้น เช่น การก่อสร้างและปรับปรุงถนน การก่อสร้างฝายถนน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเส้นเลือดฝอย รวมถึงงบประมาณที่จะพัฒนาเส้นเลือดใหญ่ เช่น ก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ การติดตั้งเซ็นเซอร์วัดการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวที่จะติดตั้งบนอาคารสูงของโรงพยาบาลแห่งใหม่ ก็ได้ตามที่เสนอของบประมาณไว้ […]