ประธานกกต.ยอมรับจัดเลือกตั้งมีข้อผิดพลาดเร่งแก้ไข

กรุงเทพฯ 27 มี.ค.- ประธาน กกต.น้อมรับเสียงโจมตี  ยอมรับจัดเลือกตั้งมีข้อผิดพลาด บกพร่องจริง พร้อมเร่งแก้ไขให้ดีที่สุด ยังไม่มองปัจจัยร้องให้เลือกตั้งเป็นโมฆะ  ย้ำเปิดเผยผลคะแนนต่อสาธารณะทุกหน่วยแล้วตรวจสอบได้  เบื้องต้นขอให้สันนิษฐานว่าการนับคะแนนอย่างเปิดเผยถูกต้อง-ชอบธรรม ส่วนปมบัตรนิวซีแลนด์มีมติไม่เปิดนับตามที่กฎหมายให้อำนาจ ยังไม่โชว์สปิริตลาออก ขอเดินหน้าทำงานให้มีประสิทธิภาพ 


ศูนย์ส่งเสริมประชาธิปไตย  เวลา 13.45 น. นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของ กกต.ว่า เสียงโจมตีและการให้ความเห็นของประชาชนเป็นสิ่งที่ กกต.เคารพ เพราะความผิดพลาดก็มีอยู่จริง  สิ่งที่ กกต.ต้องทำ คือตอบให้ได้ว่าข้อผิดพลาดเกิดจากอะไรและจะแก้ไขอย่างไร ตรงนี้เป็นประเด็นหลัก  การถูกโจมตีเป็นเรื่องปกติของการทำงานในลักษณะนี้  จะไม่รับฟังเสียงโจมตีคงเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้ามองในแง่สร้างสรรค์สิ่งเหล่านี้จะเป็นเครื่องเตือนใจ  ให้คำนึงถึงการทำงานต่อไปให้ดีที่สุด

ประธาน กกต. กล่าวว่า ส่วนที่มีการขอให้ กกต.เปิดเผยผลคะแนนเป็นรายหน่วยเลือกตั้งนั้น   ในความเป็นจริง ทุกหน่วยเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.เมื่อนับคะแนนเสร็จแล้ว  ก็จะติดประกาศผลคะแนนไว้ที่หน้าหน่วย  ขั้นตอนในขณะนี้ คือ กรรมการประจำหน่วยจะส่งผลคะแนนมาที่ กกต.เขต  ให้รวบรวมส่งมายัง กกต.จังหวัด  เพื่อส่งต่อมายัง กกต.กลาง 


นายอิทธิพร กล่าวว่า  ข้อมูลผลคะแนนมีการเปิดเผยตั้งแต่ระดับหน่วยเลือกตั้งอยู่แล้ว ประชาชนสามารถขอข้อมูลผลการนับคะแนนได้  จาก กกต.เขต หรือ กกต.จังหวัด โดยในการประชุมช่วงเช้าที่ผ่านมา กกต.ก็ได้กำชับกับสำนักงานฯ ให้แจ้งไปยังสำนักงาน กกต.จังหวัด  ให้ส่งรายงานผลการนับคะแนนจากทุกเขตมายัง กกต.กลาง เพื่อดำเนินการตรวจสอบอีกครั้ง  และคิดว่าข้อมูลหลังจากนั้นไม่น่าจะมีอะไรที่เปิดเผยไม่ได้  ส่วนที่มีการเรียกร้องให้นับคะแนนใหม่ทั้งหมด ตนอยากให้ดูประเด็นว่า ทุกหน่วยเลือกตั้งที่เปิดให้ลงคะแนนเมื่อวันที่ 24 มี.ค. เมื่อถึงเวลาปิดหีบ มีการนับคะแนนอย่างเปิดเผย โดยมีประชาชนและผู้สังเกตการณ์ไปเฝ้าดูอยู่ จึงอยากให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าการนับคะแนนในที่สาธารณะ โดยมีผู้มีส่วนได้เสียร่วมสังเกตการณ์อยู่ด้วย เป็นการนับคะแนนที่ถูกต้องชอบธรรมในเบื้องต้น  ข้อร้องเรียนในความผิดปกติในบางหน่วยมีอยู่จริง แต่จะนำไปสู่การเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่ยังตอบไม่ได้ 

ประธาน กกต. กล่าวถึงกรณีที่ประชาชนยังคาใจต่อการทำงานของ กกต. ว่า ขอแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นข่าวลือ  ซึ่งเรามีกลไกตรวจสอบ ถ้าเป็นข่าวลือ ข่าวเท็จ ข่าวให้ร้าย เราก็คงต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และกลุ่มที่ 2 เป็นการรายงานข้อมูลบกพร่องผิดพลาด  เราก็จะตรวจสอบว่าข้อผิดพลาดบกพร่องเกิดจากอะไร และจะแก้ไขได้อย่างไร ซึ่งก็จะชี้แจงให้ประชาชนทราบอย่างสม่ำเสมอ   ทั้งในรูปของเอกสาร  หรือตั้งโต๊ะแถลงข่าว   เรามีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข่าวทั้งข่าวจริง ข่าวเท็จ และจะมีการให้ข้อมูล   ล่าสุดมีการเสริมประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น โดยให้มีตัวแทนของ กกต.เข้าไปร่วมและให้ข้อคิดเห็นในทุกกรณี  เพื่อให้เกิดความรอบคอบ เพราะมีข้อร้องเรียนเข้ามาเยอะมาก  เมื่อวานได้ชี้แจงไปแล้วบางส่วน  อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการชุดนี้จะทำงานต่อไปเรื่อย ๆ เพราะเราตั้งใจว่าทุกข้อสงสัยที่ประชาชนสนใจ กกต.จะพยายามตอบให้ถูกต้องและครบถ้วนที่สุด 

นายอิทธิพร กล่าวถึงกรณีบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ที่ประเทศนิวซีแลนด์   ซึ่ง กกต.มีมติไม่นำบัตรมานับคะแนน ว่า  การประชุมเมื่อวันที่ 26 มี.ค. ที่ผ่านมา กกต.ใช้เวลาพิจารณาว่าจะทำอย่างไรต่อไปกับบัตรเลือกตั้งของนิวซีแลนด์ที่ส่งมาถึง  ซึ่งตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา 114  มีหลายสาเหตุที่กกต. มีอำนาจสั่งไม่ให้นับคะแนน และให้ถือว่าเป็นบัตรเสีย  โดยเฉพาะเรื่องของการส่งบัตรล่าช้า   ซึ่งบัตรจากนิวซีแลนด์ในข้อเท็จจริงยังไปไม่ถึงสถานที่เลือกตั้ง ยังอยู่แถวนี้ จึงไม่เข้าข่าย มาตรา 114  ซึ่งระบุว่าเมื่อมีการส่งบัตรเลือกตั้งไปยังสถานที่เลือกตั้งภายหลังเริ่มนับคะแนนแล้ว  การพิจารณาเราต้องให้มั่นใจว่า กฎหมายให้อำนาจอะไรเราบ้าง เมื่อเราเห็นว่าเรื่องนี้ไม่เข้ามาตรา 114  สิ่งที่เราทำได้ คือมีมติไม่ให้นับคะแนน ซึ่งก็คล้ายกับกรณีที่มีการส่งบัตรล่าช้าในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่าน ๆ มา คือส่งมาไม่ทันการนับคะแนน จึงต้องนำบัตรดังกล่าวมาเก็บรักษาไว้ 


เมื่อถามว่าหากนำบัตรจากนิวซีแลนด์มาเปิดนับ จะเกิดปัญหาการเลือกตั้งไม่เป็นความลับและนำไปสู่การร้องให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่  นายอิทธิพร กล่าวว่า ตรงนี้ยังตอบไม่ได้  แต่ที่ กกต.มีมติก็อยู่บนพื้นฐานที่ได้อธิบายให้ฟังว่า บัตรเหล่านี้ไม่ใช่บัตรเสีย เป็นเพียงบัตรที่ส่งมาล่าช้า ส่งมาถึงภายหลังปิดการนับคะแนน  ส่วนจะมีการนำไปสู่การฟ้องร้องให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่นั้น ตนคงตอบไม่ได้ เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณากันหลายแง่มุม ขึ้นอยู่กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่าง ๆ จะพิจารณาไปในแง่มุมใด  แต่ในชั้นนี้ กกต. คิดว่า เหตุผลที่เราตัดสินใจว่าไม่สามารถนับเป็นคะแนนได้ เพราะบัตรส่งมาไม่ทัน  

เมื่อถามถึงภาพรวมการเลือกตั้งว่ามีประเด็นใดจะนำไปสู่การวินิจฉัยให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า โดยส่วนตัวยังไม่เห็นว่ามีประเด็นใด แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มี  ที่ผ่านมาก็มีการนับคะแนนผิด ส่งบัตรเลือกตั้งผิด ในบางหน่วยเลือกตั้ง เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ กกต.ไม่อยากให้เกิด ขณะนี้จึงอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยกกต. จะทยอยชี้แจงเป็นรายกรณีไป ให้เร็วที่สุด

เมื่อถามว่าเป็นห่วงหรือไม่ว่า การประกาศผลอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 พ.ค. อาจไม่เป็นที่ยอมรับ นายอิทธิพร กล่าวว่า ยังไม่กลัว เพราะสิ่งที่ถามเป็นข้อเท็จจริงที่ยังไม่เกิดขึ้น จึงยังไม่ขอตอบ  สิ่งที่กกต.ต้องทำในขณะนี้คือการเลือกตั้งที่ผ่านไป มีการร้องเรียนในประเด็นใดบ้าง และผลของการร้องเรียนจะนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่หรือไม่  เมื่อถามย้ำว่า แต่ละฝ่ายพยายามเร่งจัดตั้งรัฐบาล เป็นไปได้หรือไม่ที่กกต.จะประกาศผลการเลือกตั้งให้เร็วกว่าที่กำหนดไว้ ประธาน กกต.กล่าวว่า เราก็อยากทำให้เร็วที่สุด ไม่อยากทำอะไรช้า แต่ที่ต้องช้าไปเล็กน้อยเพราะอยากให้มั่นใจว่า มันจะไม่ผิดพลาดเหมือนกับบางกรณีที่เราผิดพลาดไปแล้วบ้าง 

เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรที่มีการเข้าชื่อถอดถอน กกต.แล้ว ถึง 8 แสนรายชื่อ   นายอิทธิพร กล่าวว่า สิ่งที่อยากทำในตอนนี้  คือดูว่ามีอะไรผิดพลาด และสิ่งใดสำคัญ  ขอทำในสิ่งที่ต้องรับผิดชอบให้ดีก่อน  แก้ไขสิ่งผิดพลาดให้ดีที่สุด  เรื่องอื่นก็สุดแล้วแต่ ส่วนที่มีการเรียกร้องให้ กกต.แสดงสปิริตด้วยการลาออกนั้น   ตนยังไม่ขอตอบ เพราะยังมุ่งเน้นทำงานให้มีประสิทธิภาพดีที่สุด   โดยขณะนี้ กกต.เริ่มพิจารณาเรื่องร้องเรียนและร้องคัดค้านแล้ว  แต่ไม่ได้กำหนดว่าวันหนึ่งจะต้องพิจารณาให้ได้กี่เรื่อง ทราบว่าในอดีตมีเรื่องร้องเรียนมากกว่า 500 เรื่อง แต่ในครั้งนี้มีประมาณ 100 เรื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการร้องคัดค้านการเลือกตั้งในต่างจังหวัด.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ใหญ่บ้านมอบตัว คดียิงชายใหม่ของเมียเก่า ดับคากระบะ

นนทบุรี 20 พ.ค. – ผู้ใหญ่บ้านหึงโหด บุกยิงกิ๊กของอดีตภรรยา 6 นัด เสียชีวิตคารถกระบะ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต นายอานนท์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก หึงโหด บุกยิงนายพลาธิป อายุ 34 ปี อาชีพขับรถส่งหมู ซึ่งเป็นกิ๊กของอดีตภรรยา เสียชีวิตภายในรถกระบะที่จอดอยู่ในซอยลาดปลาดุก ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) จากภาพจะเห็นว่าเมื่อเวลา 21.02 น. เห็นผู้ตายขับรถกระบะมาจอดริมทาง ก่อนมีรถกระบะสีดำอีกคันตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น เดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่ยังนั่งอยู่ในรถ แล้วหลบหนีไป ช่วงสายที่ผ่านมา (20 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เบิกตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังเมื่อราวตี […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 23-27 พ.ค. 68 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง กรุงเทพฯ […]

ระทึกไล่ยิงเหมือนในหนัง รัว 17 นัด กลางถนน

ชลบุรี 21 พ.ค. – จยย.ไล่รัวกระสุนสกัดเก๋งอย่างกับหนังบู๊ ทำชาวบ้านแตกตื่น แท้จริง เป็นตำรวจเมืองชลบุรี ล่อซื้อยาบ้า พ่อค้าไหวตัว ก่อนจนมุม ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยนาทีกลุ่มชายฉกรรจ์บุกไปที่รถยนต์สีขาว พยายามเคาะกระจกรถให้คนขับลงมา แต่เมื่อไม่เป็นผล จึงชักปืนขึ้นมารัวยิงหลายครั้ง กระทั่งรถยนต์ถอยรถขับออกจากที่เกิดเหตุ โดยมีรถจักรยานยนต์ไล่ตามไปติดๆ พร้อมกับยิงปืนใส่ รวมทั้งหมด 17 นัด เมื่อช่วง 03.30 น. ที่ผ่านมา ภายในซอยเส้นทางหนองซ้ำซาก-สำนักบก ตำบลหนองซ้ำซาก อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ตำรวจลงพื้นที่เกิดเหตุ พบกันชนหน้ารถยนต์คันสีขาวตกอยู่พร้อมป้ายทะเบียน โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และปลอกกระสุนไม่ทราบขนาด 17 ปลอก พร้อมหัวกระสุนอีก 1 หัว สอบถาม นายปรานอม ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตอนแรกตนเห็นรถยนต์สีดำ ขับมาปาดหน้ารถยนต์สีขาว จากนั้นก็มีรถจักรยานยนต์ใส่ชุดคล้ายไรเดอร์ ขี่ตามหลังรถคันสีขาว ครั้งแรกเห็นยิงใส่รถยนต์สีขาว 5 นัด แต่เป็นการยิงผ่านกระบอกเก็บเสียง จากนั้นรถคันที่ถูกยิงพยายามหลบหนี แต่รถคันสีดำขับมาบล็อกข้างหน้าไม่ให้หนี แล้วก็มีเสียงปืนดังขึ้นอีกหลายนัด […]

ปิดเกาะล่า ฆ่าเปลือย-รัดคอพยาบาลหมกศพในหอพัก

สุราษฏร์ธานี 21 พ.ค. – พบศพพยาบาลสาว ถูกคนร้ายฆ่ารัดคอทิ้งศพเปลือยบนเตียงนอน แถมขโมยรถยนต์ผู้ตายไปด้วย ตำรวจปิดเกาะสมุยไล่ล่า ที่เกิดเหตุเป็นหอพักสองชั้น ของโรงบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ 1 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุยจ.สุราษฎร์ธานี โดยในห้องพักชั้นสอง พบศพ นางสาวอัญชุลี อายุ 36 ปี ชาวกรุงเทพ เสียชีวิตสภาพนอนหงายบนที่นอน ไม่สวมเสื้อผ้า ใส่แต่กางเกงในสีดำ ที่ลำคอมีเสื้อยืดสีขาวรัดไว้แน่น สิ่งของบนพื้นข้างเตียงกระจัดกระจาย ยังพบกล่องถุงยางอนามัยหนึ่งกล่อง ไม่พบร่องรอยบาดแผล มีเพียงรอยเขียวคล้ำที่ลำคอ จากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายทำงานเป็นซูเปอร์ไวเซอร์พยาบาลวิชาชีพ โรงบาลเอกชนแห่งหนึ่งในตำบลบ่อผุด คืนเกิดเหตุ ช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนเห็นผู้ตายที่เพิ่งเลิกงานกลับมาที่ห้องพัก ซึ่งอยู่ไม่ไกลกับที่ทำงาน จากนั้นเปลี่ยนเสื้อผ้าและขับรถยนต์นิสสันสีเทา ทะเบียน กทม. ออกไป และขับกลับเข้ามาเวลาประมาณตี 2 เศษ จากนั้นได้ยินเสียงคนทะเลาะกันแล้วเงียบหายไป จนตอนเช้า เพื่อนไปหา พบว่าห้องถูกปิดและติดต่อผู้ตายไม่ได้ กระทั่งมารู้ว่าเสียชีวิตภายหลัง เบื้องต้นบริเวณที่เกิดเหตุไม่มีกล้องวงจรปิด และพบว่ารถยนต์ของผู้ตายหายไป คาดว่าคนร้ายน่าจะใช้เป็นยานพาหนะในการหลบหนี ตำรวจระดมกำลังมกำลังปิดเส้นทางการหลบหนี บริเวณท่าเรือทั้งสองท่า พร้อมนำพยานกลุ่มเพื่อน ผู้ตายไปสอบปากคำ โดยให้การว่า […]

ผู้เชี่ยวชาญคาดบ่ายพรุ่งนี้ นำร่างคนงานขึ้นจากหลุมสำเร็จ

กทม. 21 พ.ค. – ผู้ว่าฯ กทม. เผยผู้เชี่ยวชาญ คาดพรุ่งนี้ช่วงบ่าย นำร่างคนงานผู้สูญหายขึ้นจากหลุมลึก 19 เมตรได้ ย้ำการทำงานทุกขั้นตอนคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก ภารกิจค้นหาคนงานผู้สูญหายที่ตกหลุมลึก 19 เมตรในโครงการขุดเจาะก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณถนนหลานหลวง ใกล้ปากซอยหลานหลวง 8 หลังเหตุการณ์ผ่านพ้นมา 48 ชั่วโมงแล้ว วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังคงใช้เครนขุดเจาะเพื่อขุดหลุมค้นหาร่างผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางมาร่วมประชุมกับทีมเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมและทีมกู้ภัย ระบุว่า อุปสรรคในการปฏิบัติงานในขณะนี้คือความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากอุปกรณ์ชีทไพล์หรือแผ่นเหล็กกั้นดินสไลด์ ที่ติดตั้งลึกถึงสามชั้น ประมาณรวม 16 เมตร ซึ่งด้านล่างมีแรงดันของดินและน้ำมหาศาล ทำให้ระหว่างการขุดดินจะต้องทำโครงสร้างค้ำยัน ชีทไพล์เป็นระยะๆ ในแต่ละชั้น ซึ่งตอนนี้สามารถทำโครงสร้างค้ำยันในชั้นที่สามแล้วถือเป็นชั้นลึกสุด นายชัชชาติ เผยว่าเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ คาดการณ์ว่าหากไม่มีอุปสรรคอย่างอื่นเพิ่มเติม ภายในวันพรุ่งนี้ (22 พ.ค.) ช่วงบ่ายจะสามารถนำร่างผู้สูญหายขึ้นมาได้ ประเมินว่าร่างของผู้สูญหายน่าจะอยู่ในระดับความลึกจากพื้นผิวถนนประมาณ 12 เมตร ไม่ใช่ 16 เมตร อย่างที่เคยคาดการณ์ก่อนหน้านี้ ส่วนประเด็นญาติของผู้สูญหายซึ่งเป็นพี่ชายและน้องชาย ทำงานด้วยกันขณะเกิดเหตุด้วย […]