ไทยปลื้มอันดับพลังงานโลกพุ่ง

กรุงเทพฯ 25มี.ค. – อันดับระบบพลังงานของประเทศไต่ขึ้น 3 อันดับไปสู่อันดับที่ 51 ของโลก จากประสิทธิภาพการจัดหาพลังงานที่มั่นคง สนับสนุนเศรษฐกิจและดูแลสิ่งแวดล้อม แต่อันดับยังต่ำกว่ามาเลเซียและสิงคโปร์ ด้าน ปตท.ศึกษาความร่วมมือแลกเปลี่ยนแอลเอ็นจีอาเซียน


นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า สภาเศรษฐกิจโลก หรือ WEF (World Economic Forum) เปิดเผยรายงานประจำปี “Global Energy Transitions Index 2019” ซึ่งเป็นการจัดอันดับระบบพลังงานของประเทศต่อการเปลี่ยนแปลงสู่อนาคตที่ WEF ได้จัดอันดับระบบพลังงานของประเทศต่อการเปลี่ยนแปลงสู่อนาคตประจำปี 2562 โดยไทยได้อันดับที่ 51 ของโลกจากทั้งหมด 115 ประเทศทั่วโลก ซึ่งลำดับดีขึ้นจากปี 2561 ที่ไทยอยู่อันดับที่ 54 เนื่องจากพลังงานของไทยตอบโจทย์ระบบสามเหลี่ยมพลังงานที่สร้างความมั่นคงและประชาชนเข้าถึง  การดูแลสิ่งแวดล้อม และตอบสนองการพัฒนาทางเศรษฐกิจและการเติบโตในอนาคต 

อย่างไรก็ตาม หากนับในอาเซียนนั้น ไทยเป็นอันดับที่ 3 รองจากสิงคโปร์ที่ได้อันดับที่ 13 ของโลก และมาเลเซียอยู่ที่อันดับที่ 31 โดยไทยได้รับคำชื่นชมว่ามีความก้าวหน้าเรื่องพลังงานทดแทน ซึ่งภายใต้แผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า(พีดีพี2018) ปี 2561-2580 จะมีสัดส่วนร้อยละ 35 ในอีก 20 ปีข้างหน้าจากปัจจุบันมีสัดส่วนร้อยละ 14 และยังมีการเปิดให้ประชาชนเข้าถึงและมีส่วนร่วม โดยการเปิดโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนหลังคาที่อยู่อาศัย (โซลาร์รูปท็อป) ภาคประชาชนตลอดแผนพีดีพี 10,000 เมกะวัตต์  แต่ไทยยังขาดเรื่องความพร้อมด้านบุคลากร ซึ่งขณะนี้ไทยส่งเสริมให้การพัฒนา โดยเฉพาะในการติดตั้ง ออกแบบ โซลาร์ภาคประชาชนจึงต้องเร่งพัฒนามารองรับ เป็นต้น 


นายโรแบร์โต้ บาคคา ประธานด้านพลังงานและผลิตภัณฑ์แห่งอนาคตและกรรมการบริหารสภาเศรษฐกิจโลก กล่าวว่า  ไทยจะเป็นประธานอาเซียนปีนี้ ซึ่ง WEF พร้อมจะให้การสนับสนุนแผนพัฒนาความพร้อมสู่ระบบพลังงานในอนาคตอาเซียน โดยจะใช้ดัชนีวัดความพร้อมของระบบพลังงานของประเทศต่อการเปลี่ยนแปลงสู่อนาคต ควบคู่ไปกับความร่วมมือด้านพลังงานผ่านเวทีของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ชาติในอาเซียน

นายวุฒิกร สติฐิต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บมจ.ปตท. กล่าวว่า ปตท.ร่วมเสริมสร้างความมั่นคงพลังงานก่อให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ  เช่น ในส่วนของก๊าซธรรมชาติมีการเชื่อมโยงท่อก๊าซธรรมชาติรับก๊าซจากทั้งแหล่งในประเทศ และการนำเข้าก๊าซธรรมชาติ หรือแอลเอ็นจี โดยมีการสร้างสถานีรับจ่ายก๊าซฯ ในจังหวัดระยองทั้งคลังมาบตาพุด, หนองแฟบ ส่วนในอนาคตจะสร้างคลังใหม่นำเข้าในพื้นที่ใด ไม่ว่าจะเป็นโครงการความร่วมมือในเมียนมา  การสร้างคลังลอยน้ำในภาคใต้ และการลงทุนโครงการมาบตาพุดระยะที่ 3 นั้น ในเรื่องนี้ต้องรอนโยบายรัฐบาลและต้องรอดูการปรับปรุงแผนก๊าซระยะยาว (GAS PLAN ) ของกระทรวงพลังงาน ว่าจะปรับปรุงอย่างไร ตามแผนพีดีพีฉบับใหม่ ซึ่งมีการใช้ก๊าซฯเพื่อผลิตไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นจากร้อยละ37 เป็นร้อยละ 53 และมีการใช้ก๊าซในประเทศเพิ่มขึ้นหลังจากที่มีการประมูลแหล่งบงกช-เอราวัณเสร็จสิ้น และส่งผลให้การนำเข้าแอลเอ็นจีลดลงจากแผนเดิมลดลงจากประมาณ 34 ล้านตันต่อปีในปี 2579 เหลือประมาณ 24 ล้านตัน


นอกจากนี้ การสร้างความมั่นคงด้านก๊าซฯนั้น กลุ่มอาเซียนได้ศึกษาแผนว่าจะร่วมมือกันอย่างไรให้มากขึ้น จากที่มีความเชื่อมโยงด้วยระบบท่อก๊าซฯ ก็ควรจะมีการเชื่อมโยงในลักษณะสัญญาความร่วมมือแบ่งกันในสถานีรับจ่าย(เมอร์มินอล) ระหว่างกัน โดยในขณะนี้ ในอาเซียนมีเทอร์มินอลแอลเอ็นจีแล้ว 4 ประเทศได้แก่ ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจ ลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร ด้านบริษัท 9PK นำเอกสารชี้แจง พร้อมขอให้บริษัทจีนช่วยอนุมัติเงินมาจ่ายให้กลุ่มผู้รับเหมาก่อน

จับแล้วโจรบุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่

จับแล้วโจรมาเลย์บุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่ จนมุมสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เผยมาหาลูกชายที่ จ.นนทบุรี แต่ลูกไม่ให้เข้าบ้าน

ปิดล้อมจับชายวัย 43 ยิงเพื่อนบ้าน-ตร.เจ็บ 4

ตำรวจปิดล้อมนานถึง 11 ชั่วโมง จับชายวัย 43 ปี ใช้ปืนยิงเพื่อนบ้านและตำรวจที่เข้าระงับเหตุ บาดเจ็บรวม 4 ราย หลังโมโหเพื่อนบ้านติดกล้องวงจรปิดหันส่องไปทางบ้านผู้ก่อเหตุ ยิงแก๊สน้ำตา-ญาติเกลี้ยกล่อม ยังไม่เป็นผล

แผ่นดินไหวขนาด 5.8 ในไต้หวัน-ไม่มีรายงานความเสียหาย

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไต้หวันรายงานวันนี้ว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดด 5.8 ที่เทศมณฑลอี้หลาน (Yilan) ซึ่งเป็นพื้นที่ชนบทห่างไกลทางตจะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือน “เหนือ-กลาง” เฝ้าระวังพายุฤดูร้อน

กรมอุตุฯ เผย “ภาคเหนือ-ภาคกลาง” ยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก ส่วนภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น

สงกรานต์เชียงใหม่ชุ่มฉ่ำทั้งเมือง

ประเพณีปี๋ใหม่เมือง หรือสงกรานต์ล้านนา วันนี้เรียกว่าเต็มไปด้วยสีสันวัฒนธรรมและเหล่าสาวงาม ขณะที่การเล่นน้ำสงกรานต์ก็ชุ่มฉ่ำไปทั้งเมือง โดยเฉพาะรอบคูเมือง และอุโมงค์น้ำแห่งแสงสีเสียง ที่ถนนท่าแพ ยิ่งค่ำยิ่งคึกคัก

สงกรานต์ภูเก็ตคึกคัก คาดสร้างเม็ดเงินสะพัดกว่า 8,200 ล้าน

บรรยากาศสงกรานต์ที่ จ.ภูเก็ต ปีนี้สุดคึกคัก นักท่องเที่ยวสนุกกันสุดเหวี่ยงตั้งแต่เช้าเป็นต้นมา และคาดว่าบรรยากาศแห่งความสนุกสนานนี้จะยังคงดำเนินต่อเนื่องไปแบบข้ามวันข้ามคืน