นนทบุรี 27 ก.พ. – พาณิชย์ส่งหน่วยเคลื่อนที่เร็วออกตรวจสตอกน้ำมันปาล์มดิบในแหล่งผลิต หวังสกัดลักลอบนำเข้า พร้อมเดินเร่งลดน้ำมันปาล์มให้กลับสู่ปกติ
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกระแสข้อกังวลต่อปัญหาการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มเป็นเหตุให้ผลปาล์มและราคาน้ำมันปาล์มมีราคาไม่ดี เพื่อให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มและผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม มีความมั่นใจว่าจะไม่มีการลักลอบนำน้ำมันปาล์มเข้ามาสร้างปัญหากระทบต่ออุปสงค์อุปทานในประเทศ ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์จะส่งหน่วยเคลื่อนที่เร็วออกตรวจสตอกน้ำมันปาล์มดิบในแหล่งผลิตสำคัญเป็นกรณีพิเศษอย่างเข้มงวดทุกสัปดาห์ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2562 เป็นต้นไป และจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มทุกรูปแบบ
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความผันผวนของอุปสงค์อุปทานและราคาน้ำมันปาล์มในตลาดโลก กระทรวงพาณิชย์เชื่อมั่นว่ามาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ โดยใช้น้ำมันปาล์มดิบส่วนเกินผลิตกระแสไฟฟ้าจะช่วยดูดซับน้ำมันปาล์มดิบในระบบและช่วยยกระดับราคาผลปาล์มน้ำมันให้แก่เกษตรกรชาวสวนปาล์มได้ สำหรับมาตรการป้องปรามการลักลอบนำเข้าจะช่วยสกัดปัญหาจากภายนอกไม่ให้กระทบต่ออุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มในประเทศ พร้อมกันนี้ ขอเชิญชวนผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมมาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศเพื่อช่วยยกระดับราคาให้เกษตรกรชาวสวนปาล์ม รีบยื่นใบสมัครเพื่อจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดที่เป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ หรือโรงงานหรือคลังเก็บน้ำมันปาล์มดิบ ภายในวันศุกร์ที่ 1 มีนาคม 2562
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันผลักดันความช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันที่ประสบปัญหาราคาผลปาล์มน้ำมันตกต่ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบจากปริมาณผลผลิตผลปาล์มน้ำมันที่เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 8 ทำให้ปริมาณสตอกน้ำมันปาล์มดิบในระบบเพิ่มขึ้น โดยได้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติงบประมาณ งบกลาง 525 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2561 เพื่อใช้ในการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ โดยให้ กฟผ.รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบส่วนเกิน 160,000 ตัน กิโลกรัมละ 18 บาท นำไปเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา กระทรวงพาณิชย์ได้จัดหาน้ำมันปาล์มดิบให้แก่ กฟผ. เพื่อใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าดังกล่าว โดยเปิดรับสมัครผู้ประสงค์จำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบให้แก่ กฟผ.ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2562 เป็นต้นมา
ทั้งนี้ ความคืบหน้าล่าสุดมีผู้ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้จำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบให้แก่ กฟผ.แล้ว 125,000 ตัน หรือร้อยละ 78 ของเป้าหมาย และเพื่อดูดซับน้ำมันปาล์มดิบส่วนเกินให้ครบตามเป้าหมาย 160,000 ตัน ได้ขยายระยะเวลารับสมัครถึงวันที่ 1 มีนาคม 2562 โดยน้ำมันปาล์มดิบที่เสนอขายให้แก่ กฟผ. ทั้ง 160,000 ตัน จะถูกดูดซับออกจากระบบ ไม่นำมาหมุนเวียนจำหน่ายในระบบการค้าปกติ ดังนั้น หลังวันที่ 1 มีนาคม 2562 จะมีสตอกน้ำมันปาล์มดิบคงเหลือในระบบไม่เกิน 215,000 ตัน ซึ่งเป็นระดับสมดุลที่จะช่วยรักษาเสถียรภาพราคาผลปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม และช่วยยกระดับราคาผลปาล์มน้ำมันให้แก่เกษตรกรชาวสวนปาล์มได้ตามเป้าประสงค์ของรัฐบาลเป็นหลัก.-สำนักข่าวไทย