นายกฯ ลงพื้นที่จ.ระยองบอกดีกว่าไปดีเบต

ระยอง 27 ก.พ.- นายกฯ ลงพื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่วังจันทร์วัลเล่ย์ จ.ระยอง ติดตามการพัฒนาสถาบันการศึกษาสร้างนักวิทยาศาสตร์  ระบุมาพบทุกคน เป็นประโยชน์มากกว่าการไปขึ้นเวทีดีเบต หากย้อนเวลาได้ อยากเรียนด้านวิทยาศาสตร์ จะได้ไม่เป็นนายกฯ เหมือนทุกวันนี้ 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการที่โครงการพัฒนาพื้นที่วังจันทร์วัลเล่ย์ เพื่อเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง  โดยนายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมทัศนียภาพพื้นที่โครงการ ณ หอชมวิว และตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าการดำเนินงานของสถาบันวิทยสิริเมธี พร้อมเยี่ยมชมงานวิจัยของนิสิตระดับปริญญาโทและปริญญาเอก ด้านวิทยศาสตร์และวิศวกรรมชีวโมเลกุล  ด้านวิทยาการพลังงาน และศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีกักเก็บพลังงานสำหรับโครงการพัฒนาอุปกรณ์กักเก็บพลังงานต้นแบบสำหรับรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอบคุณหน่วยงานและอาจารย์ที่ทุ่มเทดูแลให้เกิดสถาบันและโรงเรียนที่มีคุณภาพ ซึ่งเด็กนักเรียนและนิสิตทุกคน เปรียบเสมือนคือหัวกะทิ ที่ถือเป็นคนชั้นยอด มีคุณภาพ แต่ก่อนที่จะมีหัวกะทิ ต้องมีที่มาต้นมะพร้าวที่ดี ในขณะที่ต้นมะพร้าวก็มีปัญหาศัตรูพืชคอยทำลาย เช่นทุกวันนี้ ก็จะพบทั้งปัญหาความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม และประชาธิปไตย ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาท่ามกลางโลกที่เปลี่ยนแปลง ดังนั้นทุกคนต้องช่วยแก้ปัญหา ขณะที่โรงเรียนและสถาบันที่สร้างขึ้นจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างคนเก่ง ออกมาเป็นกำลังในการพัฒนาประเทศ  ทั้งนี้ทุกคนเลือกเกิดไม่ได้ แต่การศึกษาจะเป็นการช่วยลดความเหลื่อมล้ำได้ ซึ่งหลักของการศึกษา ที่คนไทยยุคใหม่ต้องการ คือ การสร้างให้ทุกคนเป็นคนดี คนเก่ง มีคุณธรรมจริยธรรม มีจิตสำนึก จิตอาสา


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รู้สึกอิจฉาเด็กที่ได้เรียนหนังสือที่สถาบันและโรงเรียนนี้ ซึ่งถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ก็อยากมาเรียนที่นี่ และจะตั้งใจเรียนและสอบ เพื่อได้เป็นนักวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นอาชีพที่น่าสนใจ จะได้ไม่ต้องมาเป็นนายกรัฐมนตรีเหมือนวันนี้ 

“การที่ได้มาพบกับทุกคนในวันนี้ น่าจะเป็นประโยชน์ มากกว่าการไปขึ้นเวทีดีเบต เพราะสิ่งที่พูดวันนี้และที่ได้พูดตลอดมา ถือเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ ในเรื่องความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน  ซึ่งทุกคนก็คงได้เห็นว่าผมมีแนวคิดเป็นอย่างไร การเข้ามาทำงานตรงนี้ อาจมีทั้งคนที่ถูกใจและไม่ถูกใจ ถือเป็นเรื่องธรรมดา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลสนับสนุนด้านการศึกษา เพื่อให้เกิดโรงเรียนและสถาบันที่มีคุณภาพเพิ่มมากขึ้น ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการศึกษาได้ในทุกพื้นที่ โดยต้องเน้นเพิ่มบุคคลากรด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ต้องใช้แนวคิด คิดใหม่ ทำใหม่ แต่ต้องไม่ลืมอัตลักษณ์ ประวัติศาสตร์ของชาติ 


พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้ชี้แจงถึงความจำเป็นของการมีทหาร ที่จะต้องใช้สำหรับการดูแลความมั่นคงของชาติและเพื่อบรรเทาภัยพิบัติให้กับประชาชน และขออย่ามองเพียงเรื่องของกำไร หรือขาดทุน เพราะในภาวะปกติ อาจมองว่าทหารไม่มีมูลค่า แต่ในยามที่มีความจำเป็นในด้านต่าง ๆ  ถือว่าการมีกำลังทหาร ไม่ใช่การขาดทุนแน่นอน

ช่วงท้ายนายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า มีหลายคนบอกให้ตนยิ้มเยอะ ๆ ยิ้มหวาน ๆ แต่ตนเป็นคนที่ยิ้มแบบนี้มานานแล้ว เพราะชีวิตอยู่แต่ในค่ายทหาร คงยิ้มแบบคิขุหรือแสร้งยิ้มไม่เป็น แต่ยืนยันว่าไม่มีอะไร ไม่ได้เป็นคนดุ บางครั้ง ก็ต้องแกล้งดุ  เช่น เมื่อเป็นผู้บังคับบัญชากองทัพ วันจันทร์ วันอังคาร จะใจดี ส่วนวันพฤหัสหรือวันศุกร์ ก็จะต้องดุบ้าง เพื่อให้วันเสาร์ อาทิตย์ ซึ่งเป็นวันหยุดราชการไม่ให้ลูกน้องเกเร เช่นเดียวกับสังคมที่ต้องมีคนนำทาง ส่วนตัวไม่ได้เป็นคนวิเศษ เพราะทุกคนในสังคมมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน แต่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ศักดิ์ศรีแทบเหลือน้อยลง เพราะถูกต่อว่าทุกวัน สังคมมักจับผิดและมองในเรื่องเล็กน้อย เช่นคำพูดเพียงไม่กี่คำ 

พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้กล่าวทักทาย กบ ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี และสินจัย เปล่งพานิช ศิลปินนักร้องนักแสดงชื่อดังที่มาร่วมงาน และขอให้ร้องเพลง ปาฏิหารย์ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมร้องเพลงในประโยคสุดท้าย “ปาฏิหารย์ไม่มีจริง” และบอกว่า ทุกอย่างไม่ใช่ปาฏิหารย์ ทุกคนจะต้องช่วยกันทำและอยู่ภายใต้กฎหมายเพื่อให้เกิดความเท่าเทียม

จากนั้นนายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือภาคีทุกภาคส่วนเพื่อพัฒนาโครงการพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาและการศึกษาทุกช่วงวัยจังหวัดระยอง ณ โรงเรียนกำเนิดวิทย์ อำเภอวังจันทร์ และติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานของโรงเรียนกำเนิดวิทย์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

รวมพลังหยุดเหมืองพิษ คืนชีวิตคนลุ่มน้ำชายแดน

5 มิ.ย. – วันนี้เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งขณะนี้ผู้คนตามลุ่มน้ำชายแดนไทย-เมียนมา ทางภาคเหนือของไทย กำลังเผชิญกับวิกฤติสิ่งแวดล้อม หลัง 2 เดือนมานี้พบสารหนูปนเปื้อนเกินมาตรฐานในลำน้ำกกและน้ำสาย รวมถึงแม่น้ำรวกและแม่น้ำโขง เชื่อว่าเป็นผลมาจากการทำเหมืองแร่หลายแห่งบริเวณต้นน้ำในเมียนมา วันนี้ชาวเชียงใหม่และเชียงราย ร่วมกันออกมาแสดงพลังเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยเฉพาะการเจรจาให้หยุดเหมืองพิษและคืนชีวิตให้กับลุ่มน้ำต่างๆ .-สำนักข่าวไทย

แฉชนวนเหตุ ไรเดอร์บุกยิงดับ 2 ศพคา รพ.

ปทุมธานี 5 มิ.ย. – จากเหตุระทึกขวัญที่ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี เมื่อคืนที่ผ่านมา ไรเดอร์บุกยิงคนถึงในบ้าน แล้วยังขับรถตามไปยิงซ้ำที่โรงพยาบาลจนเสียชีวิต วันนี้ตำรวจจับกุมตัวได้แล้ว ชนวนเหตุมาจากอะไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา ยึดหลักการสันติวิธี ยันไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ชี้ต้องคุยเฉพาะพื้นที่เป็นปัญหา ไม่ขยายประเด็น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ถึงการหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า “จากกรณีที่ทางรัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ดิฉันได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และท่านรองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งได้โทรศัพท์เข้ามารายงานเรื่องการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ณ จังหวัดอุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินภาพรวมอย่างรอบด้าน รัฐบาลไทยขอยืนยันในหลักการแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้ความเคารพในอธิปไตยและดินแดนของกันและกัน ในกรณีที่กัมพูชาประสงค์จะเสนอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เข้ามามีบทบาท รัฐบาลไทยขอเรียนว่า ประเทศไทยไม่ได้ให้การยอมรับเขตอำนาจศาล ICJ ในกรณีพิพาทต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบัน และขอย้ำว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นควรได้รับการแก้ไขปัญหาในบริเวณที่มีการกระทบกระทั่งกันเท่านั้น ไม่ขยายประเด็นปัญหาออกไป ประเทศไทยยังยึดมั่นในกลไกการหารือทวิภาคีที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้มาโดยตลอด เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศค่ะ.-315.-สำนักข่าวไทย

ไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลก ย้ำขอใช้กรอบ JBC

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-รัฐบาลออกแถลงการณ์กรณีไทย-กัมพูชา ยืนยันประเทศไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลกมาตั้งแต่ พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบันแล้ว ย้ำขอใช้กรอบ JBC ในทุกระดับแก้ปัญหาระหว่างกัน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดแหตุการณ์ที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น เวลา 16.30 น. รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์กรณีดังกล่าว เป็นฉบับที่ 2 ดังนี้ นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ปะทะที่บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ทั้งสองฝ่ายได้หารือและตกลงกันที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา ได้แก่ คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Border Commission: JBC) คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (General Border Committee: GBC) และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee: RBC) บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นผลมาจากการหารือระหว่างผู้บัญชาการทหารบกของทั้งสองฝ่าย เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม […]