กรุงเทพฯ 30 ส.ค.-ก.แรงงาน ร่วมกับหลายหน่วยงาน ตรวจจับเเรงงานจีนใช้วีซ่าท่องเที่ยวลักลอบทำงานย่านห้วยขวาง 13 คน และแรงงานต่างด้าวอื่นอีก 6 คน ฝาก ก.พาณิชย์เข้มการจดทะเบียนร้านค้า หลังพบคนจีนใช้คนไทยเป็นนอมินีเปิดร้าน
บ่ายวัน นี้(30ส.ค.) เจ้าหน้าที่กองตรวจและคุ้มครองแรงงาน กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ร่วมกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) นำกำลังทหารเเละล่ามรวม 36 นาย ตรวจค้นอาคารพาณิชย์บริเวณถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ เขตห้วยขวาง หลังได้รับเเจ้งมีเเรงงานต่างด้าวสัญชาติจีนเข้ามาเช่าตึกเพื่อเปิดเป็นร้านค้าขายอาหาร ของฝากเเละเครื่องนอนจำนวนมาก
จากการลงพื้นที่ร้านค้า 6 คูหา พบเเรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามาทำงานโดยผิดกฎหมาย 19 คน เเบ่งเป็นชาวจีนที่ใช้วีซ่านักท่องเที่ยวมาทำงาน 13 คน เเรงงานชาวเขาบนพื้นที่สูง 2 คนเเละเเรงงานชาวพม่าเเอบทำงานนอกพื้นที่ 3 คน เเละนายจ้าง 1 คน จึงได้นำตัวเข้าสอบปากคำเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวางเเละสุทธิสาร
นายณัฐพล รักชาติ นักวิชาการแรงงานชำนาญการ สำนักจัดหางานกรุงเทพมหานครเขตพื้นที่ 3 กรมการจัดหางาน กระทรวงเเรงงาน กล่าวว่า จากการสอบถามชาวจีนส่วนใหญ่ใช้วีซ่าท่องเที่ยวประเภทไม่เกิน 30 วันเข้ามาทำงานทั้งชั่วคราวเเละถาวร บางส่วนวีซ่าหมดอายุก็ไม่กลับประเทศ เมื่อพูดคุยกับนายจ้าง จะหาเเรงงานผ่านคนรู้จักที่เเนะนำ อ้างว่าต้องใช้เเรงงานชาวจีน พราะคนไทยที่สามารถสื่อสารภาษาจีนได้ต้องการเงินเดือนสูง เเรงงานที่จ้างมาให้เงินเดือนเเค่ 8,000-10,000 บาท ทำงานตั้งเเต่ 11.00-23.00 น.6 วันต่อสัปดาห์ อีกทั้งร้านค้าที่เปิดส่วนใหญ่ คนจีนเป็นเจ้าของบริษัทโดยใช้คนไทยเป็นนอมินีมาถือหุ้น จึงอยากฝากกระทรวงพาณิชย์เข้มงวดกับการขอจดทะเบียนร้านค้ามากขึ้น ขณะที่กระทรวงเเรงงานจะเดินหน้าจับกุมเเรงงานต่างด้าว ซึ่งถือเป็นหนึ่งมาตรการสุ่มตรวจเเรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามาทำงานอาชีพงานขายหน้าร้าน หลังปิดขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวไปเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา
สำหรับการลงโทษสำหรับแรงงานต่างด้าว จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 2,000-10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนนายจ้างปรับ10,000-100,000 บาทต่อลูกจ้าง 1 คน .-สำนักข่าวไทย