รัฐสภา 21 ก.พ. -สนช.ผ่านร่างพ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมาณกฎหมายอาญา วาระ 2 ความผิดคดีข่มขืน เตรียมส่งครม.พิจารณาต่อไป
การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) วันนี้ (21 ก.พ.) พิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา วาระ 2 มีทั้งสิ้น 15 มาตรา แก้ไข 5 มาตรา โดยพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร กรรมาธิการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าว เสียงน้อย ขอสงวนความเห็นในมาตรา 4 ซึ่งแก้ไขมาตรา 276 โดยได้เสนอให้การกระทำความผิดเกี่ยวกับเพศเรื่องการข่มขืน การรุมโทรมรวมถึงพฤติการณ์อื่น ๆ ที่เป็นการกระทำในลักษณะเดียวกัน โดยการใช้อาวุธปืนหรือวัตถุระเบิดที่เป็นของปลอม ซึ่งจะทำให้เหยื่อเกิดความกลัว ไม่ขัดขืน เพราะหลงเชื่อว่าเป็นอาวุธจริง ดังนั้น การกระทำลักษณะดังกล่าวควรจะต้องได้รับโทษเท่ากับการใช้อาวุธจริง คือ จำคุก 10 ถึง 20 ปี ปรับแต่ 1 แสน ถึง 4 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับเพื่อเป็นการคุ้มครองประชาชน
ด้าน ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร กรรมาธิการเสียงข้างมาก ชี้แจงว่า ข้อเสนอดังกล่าวกรรมาธิการไม่ได้กำหนดไว้ในร่างกฎหมายนี้ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้อาวุธจริงหรือปลอมในการข่มขู่เหยื่อเพื่อการกระทำทารุณทางเพศ ซึ่งบทลงโทษที่มีกำหนดไว้ในตัวกฎหมายอาญาแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อศาลเห็นว่าโทษที่ได้รับไม่สมควรแก่เหตุ ศาลพิจารณาลงโทษเพิ่มตามที่บทลงโทษของกฎหมายกำหนดได้
นายสุรสิทธิ์ แสงวิโรจนพัฒน์ ผู้แทนจากหน่วยงานศาล ชี้แจงว่า หลักการใช้อาวุธปลอมหรือวัตถุระเบิดปลอม หากเขียนถ้อยคำในลักษณะเช่นนั้น จะส่งผลให้กรอบการบังคับใช้แคบเกินไป เพราะเป็นการกระทำที่ทำให้เหยื่อกลัวและทำให้ยินยอม ซึ่งโทษขั้นต่ำจะต่างกัน แต่โทษขั้นสูงเท่าเทียมกัน และหลักในการใช้ดุลยพินิจของศาลจะดูตามความร้ายแรงของการกระทำความผิด จะไม่ลงโทษผู้ที่ข่มขู่ด้วยวาจา แต่จะดูจากการกระทำที่ใช้อาวุธปืนจริงมากกว่า อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการถกเถียงกันมากในประเด็นเกี่ยวกับบทลงโทษในมาตรา 4 ซึ่งแก้ไขมาตรา 276 ประธานในที่ประชุมจึงสั่งพักการประชุม 10 นาที
ภายหลังจากประธานสั่งพักการประชุมเพื่อพิจารณาประเด็นดังกล่าวให้ได้ข้อสรุป ซึ่งนางสุวรรณี สิริเวชชะพันธ์ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ชี้แจงว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญได้พิจารณาเปลี่ยนแปลงอัตราโทษตามข้อเสนอดังกล่าว หลังจากที่ประชุมมติเห็นชอบให้ผู้กระทำผิดตามร่างมาตรา 4 แก้ไขมาตรา 276 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 10 ปี ถึง 20 ปี ปรับแต่ 1 แสน ถึง 4 แสนบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต พร้อมกันนั้นยังได้หารือในอัตราโทษดังกล่าวและปรับแก้ในร่างมาตราอื่น ๆ ให้มีความสอดคล้องกันทุกมาตรา
จากนั้น นายกล้านรงค์ จันทิก สมาชิกสนช. ตั้งข้อสังเกตมาตรา 5 แก้ไขมาตรา 277 กรณีที่ตัดข้อความในวรรคหนึ่ง ถ้าเป็นการกระทำโดยบุคคลอายุไม่เกิน 18 ปีกระทำต่อเด็กอายุ 13 ปีแต่ยังไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กยินยอม ศาลที่มีอำนาจพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัวจะพิจารณาให้คุ้มครองสวัสดิภาพของเด็กผู้กระทำ หรือผู้กระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็ก โดยตัดข้อความหรือจะอนุญาตให้ทั้งสองฝ่ายสมรสกันโดยกำหนดเงื่อนไขให้ต้องดำเนินการภายหลังการสมรสออก จึงอยากขอให้กลับไปใช้ตามร่างเดิมไม่ควรตัดข้อความดังกล่าวออกไป
ด้านกรรมาธิการ ยืนยันว่า ในอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กต้องคำนึงถึงเด็กเป็นอันดับแรก การที่จะให้เด็กคู่กรณีสมรสกันจะไม่สอดคล้องกับสวัสดิภาพเด็ก ซึ่งการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กต้องมาก่อนการสมรส แต่ศาลสามารถให้คงสิทธิ์สมรสได้ หากเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อเด็กอย่างสูงสุด
ในที่สุดที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา ในวาระ3 เพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมาย ด้วยคะแนนเสียง 150 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง พร้อมเห็นด้วยกับข้อสังเกตของกรรมาธิการ ซึ่งจะนำส่งไปยังคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป.-สำนักข่าวไทย
