BIG STORY : ความปลอดภัยเครนในกรุงเทพฯ เรียกร้องป้องกันเหตุซ้ำรอย

กรุงเทพฯ 24 ม.ค.- เหตุเครนถล่มระหว่างก่อสร้างคอนโดฯ ย่านพระราม 3 จนมีผู้เสียชีวิต 5 ราย วานนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้น ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา เกิดเหตุลักษณะเช่นนี้อย่างน้อย 3 ครั้ง ในพื้นที่กรุงเทพฯ ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามถึงมาตรการควบคุม กำกับดูแล ว่าใครควรมีหน้าที่รับผิดชอบ


วินาทีที่ชี้ชะตาชีวิตของคนงานที่ติดอยู่บนยอดเครนสูงเสียดฟ้าย่านพระราม 3 หลังเครนถล่ม ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก หากย้อนไปในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา อุบัติเหตุลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นอย่างน้อยถึง 3 ครั้ง เดือนกันยายนเกิดเหตุเครนล้มทับเสาไฟฟ้า-รถยนต์ย่านศาลาแดง มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย ผ่านไปไม่ถึงเดือน ตุลาคมเกิดเหตุซ้ำอีก เครนล้มใส่ป้ายโฆษณาย่านพระราม 9 บาดเจ็บ 2 ราย ล่าสุดวานนี้ เครนถล่มระหว่างก่อสร้างคอนโดฯ มีผู้เสียชีวิตถึง 5 ราย


แม้หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแล ควบคุมนักวิศวกรโดยตรง ลงพื้นที่ตรวจสอบสาเหตุที่เกิดขึ้น แต่ทำได้เพียงสันนิษฐานสาเหตุเบื้องต้นว่า เกิดจากความบกพร่องในการทำหน้าที่ของวิศวกร โดยการก่อสร้างอาคารสูง ตามหลักการแล้วต้องมีวิศวกร 2 ส่วน คือ วิศวกรโยธา ผู้ควบคุมดูแลการก่อสร้าง กับวิศวกรเครื่องกล ผู้ชำนาญการติดตั้งเครน ซึ่งต้องขอเวลาตรวจสอบข้อมูล ก่อนพิจารณาโทษ คาดไม่เกิน 3 เดือน โทษสูงสุดคือ เพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรม


ข้อมูลจากสำนักการโยธา กทม. ระบุขณะนี้มีอาคารสูงอยู่ระหว่างการก่อสร้าง 154 อาคารทั่วกรุง ซึ่งอาคารย่านพระราม 3 ที่เกิดเหตุเครนถล่ม ขออนุญาตก่อสร้างคอนโดฯ 35 ชั้น เมื่อเดือนเมษายน ปี 61 ผู้อำนวยการเขตยานนาวา ยอมรับการติดตั้งเครนเป็นเพียงอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อสร้าง ไม่ใช่ตัวอาคาร จึงไม่เข้าข่ายตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ทำได้เพียงสั่งระงับการก่อสร้าง

เหตุเครนถล่มล้มทับผู้คนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย หัวหอกหลักในการตีความข้อกฎหมาย ต้องกลับมาถกกันใหม่ว่า การติดตั้งเครนควรมีกฎระเบียบ ข้อบังคับหรือไม่ เพื่อมอบอำนาจให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นดำเนินการตามกฎหมายอย่างเต็มที่ หรือทำได้เพียงแจ้งความดำเนินคดีกับผู้รับเหมา หลังเกิดความสูญเสีย เปรียบเสมือนสุภาษิตที่ว่า “วัวหายล้อมคอก”.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”