ทำเนียบฯ 21 ม.ค.-“พล.อ.ประวิตร” เป็นประธานสักขีพยาน การลงนามบันทึกความเข้าใจการกำหนดมาตรการและแนวทางแทนการกักตัวเด็กไว้ในสถานกักตัวคนต่างด้าว ร่วมกันของ 7 หน่วยงาน ขอให้มั่นใจรัฐบาลจะทำงานอย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานสักขีพยาน การลงนามบันทึกความเข้าใจ เรื่องการกำหนดมาตรการและแนวทางแทนการกักตัวเด็กไว้ในสถานกักตัวคนต่างด้าวเพื่อรอการส่งกลับ ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยบันทึกความเข้าใจดังกล่าว เป็นความร่วมมือของ 7 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงแรงงาน
โดยความร่วมมือดังกล่าว สืบเนื่องจากการที่นายกรัฐมนตรีได้ ให้คำมั่นในการไม่กักตัวเด็กในห้องกักตรวจคนเข้าเมือง โดยคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของเด็ก และการปฏิบัติตามพันธะกรณีว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ในระหว่างการประชุมสุดยอดระดับผู้นำด้านผู้ลี้ภัยของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า มีความยินดีในการเป็นประธานลงนามบันทึกความเข้าใจดังกล่าว มั่นใจว่าทุกคนได้ทราบถึงความพยายามของรัฐบาลในการช่วยเหลือเด็ก โดยยึดหลักการที่สำคัญ คือ ไม่กักตัวเด็กในห้องกักตรวจคนเข้าเมือง พร้อมกันนี้ขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนการทำงานให้เกิดขึ้น ถือเป็นการทำงานร่วมกัน และบันทึกความเข้าใจจะเป็นการกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงานอย่างชัดเจน และหากมีอุปสรรคในการปฏิบัติงาน ให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นตัวกลางประสานงานให้ลุล่วงและมีประสิทธิภาพ
“ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลจะทำงานอย่างเต็มที่ และขอให้ทุกหน่วยงานรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนอย่างรอบด้าน เพื่อนำมาพัฒนาในกระบวนการนี้ต่อไป” พล.อ.ประวิตร กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเป็นประธานสักขีพยานฯ พล.อ.ประวิตร ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใด ๆ กับสื่อมวลชน โดยเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลทันที.-สำนักข่าวไทย

