สำนักข่าวไทย 9 ม.ค.- นักวิชาการแรงงาน ชี้ ไทยพ้นไอยูยู แต่ภาพลักษณ์ยังกระทบ คาดใช้เวลาเป็นปี กว่าจะเรียกความเชื่อมั่นจากตลาดโลกได้
ศาสตราภิชานแล ดิลกวิทยรัตน์ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะนักวิชาการแรงงาน กล่าวว่า จากกรณีที่สหภาพยุโรป หรืออียู ปลดล็อกใบเหลืองให้ประมงไทยพ้นจากการเป็นประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม หรือ ไอยูยู หลักติดแบล็คลิสต์นานกว่า 4 ปี ถือเป็นข่าวดีสำหรับประมงไทย ที่จะได้รับการรับรองทางกฎหมาย หลุดพ้นจากการถูกกีดกันทางการค้า แต่ก็อย่าลืมว่า ตลอดเวลาที่ไทยได้รับใบเหลืองนั้น สินค้าประมงของไทยได้รับผลกระทบหนัก นอกจากการขาดทุนในเรื่องของตัวเงินที่มีมูลค่ามหาศาลแล้ว ภาพลักษณ์ของสินค้าประมงจากประเทศไทยยังได้รับผลกระทบไม่ต่างจากการกีดกันสินค้าจากประเทศแอฟริกา เนื่องจากการเหยียดสีผิวในอดีต ซึ่งตลาดโลกโดยเฉพาะตลาดยุโรป ลูกค้ารายใหญ่ของไทย ต่างคว่ำบาตรไม่ซื้อสินค้าประมงจากประเทศไทย เพราะมองว่าไทยทำประมงขัดต่อหลักของกฎหมาย ไม่เป็นที่ยอมรับ
ดังนั้นแม้ว่าไทยจะได้รับการปลดล็อกทางกฎหมายแล้วแต่ในทางความรู้สึกของผู้บริโภค ต้องใช้เวลากว่าที่พวกเขาจะยอมรับ หันมาซื้อสินค้าประมงไทยเพราะเป็นเรื่องของความรู้สึก ซึ่งการปลดล็อกทางกฎหมายเป็นเพียงสะพานที่ทอดให้ผู้บริโภคข้ามมาซื้อสินค้าของเรา แต่จะตัดสินใจซื้อหรือไม่ขึ้นอยู่กับผู้บริโภค โดยส่วนตัวคาดว่า กว่าสินค้าประมงไทยจะได้รับการยอมรับอย่างแท้จริง ต้องใช้เวลาเกือบปี ดังนั้น ประมงไทยควรเร่งฟื้นตัวสร้างและเรียกความน่าเชื่อมั่นจากตลาดโลกให้กลับมาโดยเร็ว ด้วยการดำเนินการการแก้ปัญหา ทั้งการคุ้มครองแรงงานประมง คุมเข้มให้มีการรายงานการทำประมงที่ชัดเจน สามารถตรวจสอบ พิสูจน์ได้อย่างต่อเนื่อง เพราะหากไทยทำเพียงแค่เป็นผักชีโรยหน้าปัญหาประมงไทยก็คงไม่ถูกแก้ไขอย่างยั่งยืน .-สำนักข่าวไทย