ทำเนียบรัฐบาล 4 ม.ค.-วิษณุระบุวันที่เหมาะสมจัดเลือกตั้งควรอยู่ช่วงเดือนมีนาคม เพื่อให้พระรราชพิธีบรมราชาภิเษกและกิจกรรมต่าง ๆ เสร็จสิ้นก่อน ย้ำต้องให้พรรคการเมืองหาเสียงอย่างน้อย 52 วัน
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงการหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เรื่องการเลื่อนวันเลือกตั้ง ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้สอบถามเรื่องนี้ และตนได้รายงานรายละเอียดให้ทราบแล้ว ซึ่งโดยสรุปรัฐบาลยืนยันกับกกต.เพื่อให้พิจารณาและวางเทียบวันกับงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกว่า หากจะจัดการเลือกตั้งและหาเสียงก่อนงานพระราชพิธีต้องไม่มีปัญหาต่อการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย
“เมื่อรู้กำหนดการที่ชัดเจน การจัดการเลือกตั้งต้องเกิดก่อนงานพระราชพิธี เพราะต้องอยู่ในกรอบ 150 วัน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่รัฐบาลเป็นห่วงคือกิจกรรมหลังการเลือกตั้ง ที่ต้องประกาศผลการเลือกตั้งและจะกระทบกับช่วงพระราชพิธีหรือไม่ รวมถึงเรื่องการดำเนินการเกี่ยวกับสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งต้องนำความกราบบังคมทูลฯเพื่อโปรดเกล้าฯ และต้องพิจารณาถึงการเสด็จพระราชดำเนินเพื่อทรงประกอบรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภาครั้งแรก และจะตามมาด้วยการเลือกประธานสภาฯ และการจัดตั้งรัฐบาล” นายวิษณุ กล่าว
นายวิษณุ กล่าวว่า พระราชพิธีบรมราชาภิเษกไม่ได้มีงานเพียงในช่วงวันที่ 4-6 พฤษภาคม 2562 เท่านั้น แต่จะมีการดำเนินงานต่าง ๆ ในช่วงก่อนและหลังงานพระราชพิธีอีกหลายขั้นตอน เช่น กิจกรรมสวดมนต์ กิจกรรมสาธารณะ ซึ่งทางรัฐบาลได้นำความกราบบังคมทูล ฯ ไปก่อนหน้านี้ว่าจะจัดขึ้น และได้รับพระราชทานพระราชานุญาตให้จัด โดยกระทรวงมหาดไทยจะเป็นผู้เตรียมการ ซึ่งเมื่อชี้แจงรายละเอียดต่าง ๆ ให้กกต.รับทราบแล้วก็ขึ้นอยู่กับกกต.จะพิจารณา
“เมื่อหารือกันแล้วเห็นว่าวันที่ 24 กุมภาพันธ์น่าจะมีปัญหา และส่วนตัวผมเห็นว่าเป็นปัญหา จึงมองว่าหากจะเลื่อนการเลือกตั้งไปเป็นช่วงเดือนมีนาคมได้หรือไม่ ซึ่ง กกต.จะไปพิจารณา โดยเห็นว่าช่วงเวลาที่เหมาะสมควรเลือกตั้งไม่เกินเดือนมีนาคม และต้องสามารถอธิบายกับสังคมได้ เพราะในทางปฏิบัติถ้าเลือกตั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ กกต.คาดว่าจะประกาศผลในวันที่ 24 เมษายน ซึ่งช่วงวันที่ 20-25 เมษายนจะมีงานต่าง ๆ ก่อนที่จะมีพระรราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งตรงนี้เห็นแล้วว่ากระทบ และหากจะขยับออกไปก่อน 24 กุมภาพันธ์ก็ไม่เป็นไร แต่ว่าขยับไม่ได้ ถ้าขยับจาก 24 กุมภาพันธ์ ไปเป็นวันที่ 3 หรือ 10 มีนาคม ท่านต้องดูต่อไปว่าถ้าประกาศผลการเลือกตั้ง 60 วัน จะไปเจอเอาวันไหน” นายวิษณุ กล่าว
นายวิษณุ ยกตัวอย่างว่า หากขยับไปเป็นวันที่ 3 มีนาคม วันที่ประกาศผลคือวันที่ 3 พฤษภาคม ซึ่งยังอยู่ระหว่างพระราชพิธี แต่ถ้าขยับไปเป็นวันที่ 10 มีนาคม วันประกาศผลคือวันที่ 10 พฤษภาคม ซึ่งหลังจากพระราชพิธีแล้ว แต่ถ้าขยับไปอีกที่วันที่ 17 มีนาคม จะประกาศผลวันที่ 17 พฤษภาคม หรือหากขยับไปเป็นวันที่ 24 มีนาคม วันที่ประกาศผลก็จะประมาณวันที่ 22-24 พฤษภาคม ซึ่งแม้ว่าจะขยับไปตรงกับช่วงวันที่ 3 หรือ 10 หรือ 17 พฤษภาคม ก็ยังมีกิจกรรมหลังงานพระราชพิธี ซึ่งเมื่อต้องขยับแล้วก็ควรขยับให้พ้นไปเลย ดังนั้น ถ้าขยับเป็นวันที่ 24 มีนาคม การประกาศผลที่ยาวที่สุดก็จะเป็นวันที่ 22 พฤษภาคม ซึ่งพระราชพิธีและกิจกรรมทั้งหมดเสร็จสิ้นแล้ว
นายวิษณุ กล่าวถึงกรณีเมื่อประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ว่าจะถือเป็นการเริ่มหาเสียงวันแรก และเริ่มคิดค่าใช้จ่ายของทุกพรรคการเมือง จึงต้องให้เวลาในการหาเสียงให้เพียงพอ ไม่ว่าจะปรับหรือเลื่อนวันเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม แม้ในขณะนี้ยังไม่ประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง แต่ต้องคำนึงถึงการให้เวลาหาเสียงไม่น้อยกว่า 52 วัน เพราะหากให้เวลาหาเสียงน้อยเกินไปก็จะเป็นปัญหาอีก
ส่วนกรณีที่บางฝ่ายคิดว่าคสช.ใช้กรณีงานพระราชพิธีมาเป็นเงื่อนไขเลื่อนเลือกตั้ง นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่รู้ว่าจะอ้างเรื่องนี้เพื่อให้ใครได้ประโยชน์ เพราะรวมความแล้ว ไม่ได้จะทำให้อะไรเกิดขึ้น เชื่อว่าประชาชนสามารถเข้าใจได้เอง.-สำนักข่าวไทย
