นครศรีธรรมราช 4 ม.ค.- บริเวณชายหาดปลายทอน ในตำบลทุ่งปรังอำเภอสิชล 1 ใน 4 ตำบลติดริมชายฝั่ง ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบรุนแรงจากพายุปลาบึก ขณะนี้คลื่นลมบริเวณชายหาดปลายทอนมีความสูงราว 4-5 เมตร ทางอำเภออพยพประชาชนไปยังศูนย์อพยพต่างๆ แล้ว
สภาพคลื่นลมในทะเลบริเวณชายหาดปลายทอน ตำบลทุ่งปรัง อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ขณะนี้คลื่นลมทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ เฉลี่ยคลื่นสูงราว 4-5 เมตร ซัดชายฝั่งเป็นแนวยาว โดยบริเวณชายหาดปลายทอนแห่งนี้ มีบ้านเรือนของประชาชน และมีผู้ประกอบการฟาร์มกุ้งขาว สร้างอยู่ติดริมชายฝั่ง ทะเลระยะห่าง ไกลสุดแค่เพียง 20 เมตร ขณะนี้ทางอำเภอได้มีการอพยพคนชราเด็กและผู้ป่วยติดเตียงไปอาศัยศูนย์อพยพชั่วคราวที่โรงเรียนสิชลคุณาธารแล้วจำนวน 500 กว่าคน โดยเฉพาะที่โรงเรียนสิชลคุณาธารแห่งนี้ สามารถรองรับจำนวนผู้อพยพได้ราว 1,000 คน ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนทยอยเข้ามาอาศัยอยู่ ณ ศูนย์อพยพแห่งนี้เพิ่มขึ้นในช่วงหลังเที่ยงเป็นต้นไป
ขณะที่อีก 3 ตำบลซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยของอำเภอสิชล คือที่ตำบลสำเภา ตำบลสิชล และตำบลทุ่งใส ขณะนี้ก็ได้มีการอพยพประชาชนไปอาศัยตามศูนย์อพยพต่างๆ รวมทั้งสิ้น 29 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นวัดและโรงเรียนรวมถึงโรงพยาบาลสิชล ซึ่งกำหนดให้เป็นศูนย์อพยพชั่วคราว โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ บอกว่ารู้สึกวิตกกังวลกับความรุนแรงของพายุปาบึกเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะหลังจากทราบข่าวว่า พายุปลาบึกนั้นจะเคลื่อนขึ้นฝั่งในพื้นที่ของอำเภอปากพนังและอำเภอสิชลในช่วงค่ำวันนี้ ชาวบ้านหลายรายยังได้ร่วมกันสวดดูอาและสวดมนต์ขอพรให้ความรุนแรงของพายุปาบึก ในครั้งนี้ลดน้อยลงด้วย
นายไพบูลย์ นาคทิพย์พิมาน นายอำเภอสิชล ระบุว่าอำเภอสิชล มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นพื้นที่รวม 80,000 คนจำนวน 110 หมู่บ้าน 9 ตำบล โดยเฉพาะในพื้นที่ 4 ตำบลติดริมชายฝั่งทะเลซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยรุนแรงมีประชาชนจำนวน 1,500 กว่าครัวเรือนรวม 6,200 คนทยอยอพยพมายังจุดปลอดภัยโดยขณะนี้สามารถอพยพประชาชนได้แล้วราว 70 เปอร์เซ็นต์ และมีการกำชับให้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่ให้แล้วเสร็จครบร้อยเปอร์เซ็นต์ภายในช่วงบ่ายโมงวันนี้
ทั้งนี้ ทางอำเภอมีการเฝ้าระวังและประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการจัดทีมแพทย์พยาบาลตรวจดูแลสุขภาพให้กับประชาชนในศูนย์อพยพรวมถึงการปรุงอาหารแจกจ่ายให้กับประชาชนในช่วงที่อาศัยอยู่ในศูนย์อพยพด้วย.-สำนักข่าวไทย