กรุงเทพฯ 2 ธ.ค. – ธอส.เตรียมเสนอบอร์ดขอปรับสัดส่วนสินเชื่อบ้านล้านหลังใหม่ ให้คนรายได้ต่ำกว่า 25,000 บาทต่อเดือน ในวงเงิน 40,000 ล้านบาท แต่ต้องขอ ครม.อนุมัติงบชดเชยดอกเบี้ยปีที่ 4-5 ที่มีผลกระทบต้องของบเพิ่มอีก 700 ล้านบาท ขณะที่บรรยากาศยื่นเอกสารขอสินเชื่อบ้านล้านหลัง วงเงิน 59,000 ล้านบาทแรกเป็นไปอย่างคึกคัก
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า สืบเนื่องจากประชาชนกลุ่มที่มีรายได้ต่ำกว่า 25,000 บาทต่อเดือน ให้ความสนใจยื่นขอรับสินเชื่อตามโครงการบ้านล้านหลังของ ธอส.จำนวนมาก ดังนั้น ธอส.เตรียมที่จะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการวันที่ 22 มกราคมนี้ ให้พิจารณาปรับสัดส่วนการให้สินเชื่อโครงการบ้านล้านหลังใหม่ ภายใต้วงเงินเดิม 50,000 ล้านบาท โดยจะปรับสัดส่วนให้สินเชื่อกลุ่มผู้มีรายได้ต่ำกว่า 25,000 บาทต่อเดือน จากเดิมกำหนดไว้ที่ 20,000 ล้านบาท เพิ่มเป็น 40,000 ล้านบาท และลดสัดส่วนสินเชื่อที่จะให้กลุ่มผู้มีรายได้สูงกว่า 25,000 บาทต่อเดือน เหลือเพียง 10,000 ล้านบาท
สำหรับการปรับสัดส่วนการให้สินเชื่อโครงการบ้านล้านหลังจะกระทบทำให้งบชดเชยดอกเบี้ยเดิมปีที่ 4-5 ของอัตราดอกเบี้ยคงที่ที่โครงการบ้านล้านหลังกำหนดไว้ไม่พอ ธอส.จึงต้องขอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติงบชดเชยเพิ่มอีกปีละประมาณ 340 ล้านบาท หรือรวมประมาณ 700 ล้านบาทต่อไป ทั้งนี้ ธนาคารจะทยอยพิจารณาอนุมัติสินเชื่อให้เสร็จภายใน 2 เดือน และเมื่อใช้วงเงิน 50,000 ล้านบาทแรกครบ ก็จะขออนุมัติจากกระทรวงการคลังดำเนินโครงการระยะต่อไป ซึ่งขณะนี้กระทรวงการคลังให้ ธอส.เตรียมความพร้อมในเรื่องการจัดทำโครงการบ้านล้านหลังช่วงที่ 2-3 เอาไว้แล้ว และหากดอกเบี้ยนโยบายปรับเพิ่มขึ้น ธอส.มั่นใจว่าจะดูแลให้ระดับดอกเบี้ยตามโครงการบ้านล้านหลังไม่เพิ่มขึ้นในช่วง 1-2 เดือนนี้
นายฉัตรชัย กล่าวว่า ประชาชนที่จองสิทธิ์สินเชื่อจะทยอยเข้ามาขอรับคำปรึกษาและยื่นกู้จริงจนครบกรอบวงเงินรวม 50,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน โดยเฉพาะผู้มีรายได้ไม่เกิน 25,000 บาทต่อเดือน ซึ่งจองสิทธิ์สินเชื่อรวมกันสูงถึง 113,000 ล้านบาท โดยผู้ที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อกลุ่มแรกจะมีการลงนามทำนิติกรรมวันที่ 29 มกราคมนี้
นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ประธานกรรมการ ธอส. กล่าวว่า ธนาคารจะพยายามให้ผู้ที่ต้องการมีบ้านจองสิทธิ์ตามโครงการบ้านล้านหลังได้มีบ้านทุกคน จากที่ยื่นเข้ามาทั้งหมด 127,000 ล้านบาท หรือประมาณ 127,000 คน หากรายใดติดขัดบางเรื่อง เช่น มีรายชื่ออยู่ในเครดิตบูโร เป็นต้น ทาง ธอส.จะมีโครงการโรงเรียนการเงิน เพื่อคอยช่วยเหลือชี้แนะให้สามารถยื่นขอสินเชื่อจากธนาคารได้ต่อไป ธอส.ยืนยันจะดูแลทุกคนเป็นอย่างดี ในโอกาสนี้ประธานกรรมการ ธอส.ยังได้มอบกระปุกออมสินรูปหมูทองคำ พร้อมใส่เงินสดให้เป็นขวัญถุงแก่ผู้ยื่นขอสินเชื่อด้วย โดยมอบให้กับนางสาวอารยา ลือชา พนักงานฝ่ายจัดซื้อ ที่เข้ามายื่นเอกสารด้วย
สำหรับบรรยากาศการยื่นเอกสารขอสินเชื่อตามโครงการบ้านล้านหลังที่สำนักงานใหญ่ ธอส.วันนี้ ซึ่งทางธนาคารเปิดให้ประชาชนที่ได้รับสิทธิ์ขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยตามโครงการบ้านล้านหลังกลุ่มแรกวงเงิน 59,000 ล้านบาท จากยอดจองสิทธิ์ทั่วประเทศรวม 127,000 ล้านบาท มีประชาชนเดินทางมารอก่อนธนาคารเปิดทำการตั้งแต่เวลา 06.00 น.
นางสาวสุธาทิพย์ ธรรมศิริ อายุ 33 ปี เดินทางมาถึง ธอส.สำนักงานใหญ่เป็นคนแรก พนักงานประจำ กล่าวว่า มาเช้าเนื่องจากไม่มีรถยนต์ส่วนตัว และไม่แน่ใจว่าเปิดทำการวันแรกจะรถติดหรือไม่ อีกทั้งอาจจะมีผู้มายื่นเอกสารมาก จึงเร่งเดินทางมาก่อน วันนี้มายื่นเอกสารเพื่อขอสินเชื่อตามโครงการบ้านล้านหลังเพื่อซื้ออาคารชุดที่เมืองเอก ซอยหลโยธิน 89 ราคา 780,000 บาท ซึ่งไม่มั่นใจว่าจะได้รับอนุมัติสินเชื่อหรือไม่ เนื่องจากเคยติดเครดิตบูโรมาก่อนนานกว่า 10 ปีแล้ว ดังนั้น จึงมีความมั่นใจเพียงร้อยละ 50 ว่าจะได้รับอนุมัติสินเชื่อจาก ธอส. และหากได้รับสินเชื่อมั่นใจว่าจะสามารถผ่อนชำระได้
นางสาวอารยา ลือชา พนักงานฝ่ายจัดซื้อ กล่าวว่า ตั้งแต่เรียนจบไม่คิดจะซื้อบ้านเป็นของตัวเอง เพราะฐานเงินเดือนไม่เพียงพอจะซื้อบ้านเป็นของตัวเองได้ แต่เมื่อ ธอส.มีโครงการบ้านล้านหลังตอบโจทย์ที่จะสามารถมีบ้านเป็นของตัวเองได้ จึงได้มาเข้าร่วมโครงการและยื่นเอกสารขอสินเชื่อวันนี้ โดยซื้อคอนโดMiami Bangpu (ไมอามีบางปู) ราคาห้องละ 959,000 บาท ขณะนี้อายุ 23 ปี ธอส.ให้ผ่อนได้นาน 40 ปีขณะนี้เช่าบ้านจ่ายค่าเช่าเดือนละ 3,000 บาท แต่การผ่อนชำระตามโครงการบ้านล้านหลังจ่ายเพิ่มเป็นเดือนละ 3,800 บาท มั่นใจว่าจะผ่อนได้
สำหรับการยื่นขอสินเชื่อตามโครงการบ้านล้านหลัง กลุ่มแรกนี้สามารถยื่นเอกสารได้จนถึงวันที่ 29 มีนาคมนี้ ส่วนกลุ่มที่เหลือกำหนดให้ยื่นคำขอกู้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 28 มิถุนายน 2562 . -สำนักข่าวไทย