ประชาชนขอสินเชื่อบ้านล้านหลังคึกคัก

กรุงเทพฯ 2 ธ.ค. –  ธอส.เตรียมเสนอบอร์ดขอปรับสัดส่วนสินเชื่อบ้านล้านหลังใหม่  ให้คนรายได้ต่ำกว่า 25,000 บาทต่อเดือน ในวงเงิน 40,000 ล้านบาท แต่ต้องขอ ครม.อนุมัติงบชดเชยดอกเบี้ยปีที่ 4-5 ที่มีผลกระทบต้องของบเพิ่มอีก 700 ล้านบาท ขณะที่บรรยากาศยื่นเอกสารขอสินเชื่อบ้านล้านหลัง วงเงิน 59,000 ล้านบาทแรกเป็นไปอย่างคึกคัก



นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า สืบเนื่องจากประชาชนกลุ่มที่มีรายได้ต่ำกว่า 25,000 บาทต่อเดือน ให้ความสนใจยื่นขอรับสินเชื่อตามโครงการบ้านล้านหลังของ ธอส.จำนวนมาก  ดังนั้น ธอส.เตรียมที่จะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการวันที่ 22 มกราคมนี้ ให้พิจารณาปรับสัดส่วนการให้สินเชื่อโครงการบ้านล้านหลังใหม่ ภายใต้วงเงินเดิม 50,000 ล้านบาท โดยจะปรับสัดส่วนให้สินเชื่อกลุ่มผู้มีรายได้ต่ำกว่า 25,000 บาทต่อเดือน จากเดิมกำหนดไว้ที่ 20,000 ล้านบาท เพิ่มเป็น 40,000 ล้านบาท และลดสัดส่วนสินเชื่อที่จะให้กลุ่มผู้มีรายได้สูงกว่า 25,000 บาทต่อเดือน เหลือเพียง  10,000 ล้านบาท  


สำหรับการปรับสัดส่วนการให้สินเชื่อโครงการบ้านล้านหลังจะกระทบทำให้งบชดเชยดอกเบี้ยเดิมปีที่ 4-5 ของอัตราดอกเบี้ยคงที่ที่โครงการบ้านล้านหลังกำหนดไว้ไม่พอ ธอส.จึงต้องขอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติงบชดเชยเพิ่มอีกปีละประมาณ 340 ล้านบาท หรือรวมประมาณ 700 ล้านบาทต่อไป ทั้งนี้ ธนาคารจะทยอยพิจารณาอนุมัติสินเชื่อให้เสร็จภายใน 2 เดือน และเมื่อใช้วงเงิน 50,000 ล้านบาทแรกครบ  ก็จะขออนุมัติจากกระทรวงการคลังดำเนินโครงการระยะต่อไป ซึ่งขณะนี้กระทรวงการคลังให้ ธอส.เตรียมความพร้อมในเรื่องการจัดทำโครงการบ้านล้านหลังช่วงที่ 2-3 เอาไว้แล้ว และหากดอกเบี้ยนโยบายปรับเพิ่มขึ้น ธอส.มั่นใจว่าจะดูแลให้ระดับดอกเบี้ยตามโครงการบ้านล้านหลังไม่เพิ่มขึ้นในช่วง 1-2 เดือนนี้ 

นายฉัตรชัย กล่าวว่า ประชาชนที่จองสิทธิ์สินเชื่อจะทยอยเข้ามาขอรับคำปรึกษาและยื่นกู้จริงจนครบกรอบวงเงินรวม 50,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน โดยเฉพาะผู้มีรายได้ไม่เกิน 25,000 บาทต่อเดือน ซึ่งจองสิทธิ์สินเชื่อรวมกันสูงถึง 113,000 ล้านบาท โดยผู้ที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อกลุ่มแรกจะมีการลงนามทำนิติกรรมวันที่ 29 มกราคมนี้ 


นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ประธานกรรมการ ธอส. กล่าวว่า ธนาคารจะพยายามให้ผู้ที่ต้องการมีบ้านจองสิทธิ์ตามโครงการบ้านล้านหลังได้มีบ้านทุกคน จากที่ยื่นเข้ามาทั้งหมด 127,000 ล้านบาท หรือประมาณ 127,000 คน หากรายใดติดขัดบางเรื่อง เช่น มีรายชื่ออยู่ในเครดิตบูโร เป็นต้น ทาง ธอส.จะมีโครงการโรงเรียนการเงิน เพื่อคอยช่วยเหลือชี้แนะให้สามารถยื่นขอสินเชื่อจากธนาคารได้ต่อไป ธอส.ยืนยันจะดูแลทุกคนเป็นอย่างดี  ในโอกาสนี้ประธานกรรมการ ธอส.ยังได้มอบกระปุกออมสินรูปหมูทองคำ พร้อมใส่เงินสดให้เป็นขวัญถุงแก่ผู้ยื่นขอสินเชื่อด้วย โดยมอบให้กับนางสาวอารยา ลือชา พนักงานฝ่ายจัดซื้อ ที่เข้ามายื่นเอกสารด้วย

สำหรับบรรยากาศการยื่นเอกสารขอสินเชื่อตามโครงการบ้านล้านหลังที่สำนักงานใหญ่  ธอส.วันนี้  ซึ่งทางธนาคารเปิดให้ประชาชนที่ได้รับสิทธิ์ขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยตามโครงการบ้านล้านหลังกลุ่มแรกวงเงิน 59,000 ล้านบาท จากยอดจองสิทธิ์ทั่วประเทศรวม 127,000 ล้านบาท มีประชาชนเดินทางมารอก่อนธนาคารเปิดทำการตั้งแต่เวลา 06.00 น. 

นางสาวสุธาทิพย์ ธรรมศิริ อายุ 33 ปี เดินทางมาถึง ธอส.สำนักงานใหญ่เป็นคนแรก พนักงานประจำ  กล่าวว่า มาเช้าเนื่องจากไม่มีรถยนต์ส่วนตัว และไม่แน่ใจว่าเปิดทำการวันแรกจะรถติดหรือไม่ อีกทั้งอาจจะมีผู้มายื่นเอกสารมาก จึงเร่งเดินทางมาก่อน วันนี้มายื่นเอกสารเพื่อขอสินเชื่อตามโครงการบ้านล้านหลังเพื่อซื้ออาคารชุดที่เมืองเอก ซอยหลโยธิน 89 ราคา 780,000 บาท ซึ่งไม่มั่นใจว่าจะได้รับอนุมัติสินเชื่อหรือไม่ เนื่องจากเคยติดเครดิตบูโรมาก่อนนานกว่า 10 ปีแล้ว ดังนั้น จึงมีความมั่นใจเพียงร้อยละ 50 ว่าจะได้รับอนุมัติสินเชื่อจาก ธอส. และหากได้รับสินเชื่อมั่นใจว่าจะสามารถผ่อนชำระได้

นางสาวอารยา ลือชา พนักงานฝ่ายจัดซื้อ กล่าวว่า ตั้งแต่เรียนจบไม่คิดจะซื้อบ้านเป็นของตัวเอง เพราะฐานเงินเดือนไม่เพียงพอจะซื้อบ้านเป็นของตัวเองได้ แต่เมื่อ ธอส.มีโครงการบ้านล้านหลังตอบโจทย์ที่จะสามารถมีบ้านเป็นของตัวเองได้ จึงได้มาเข้าร่วมโครงการและยื่นเอกสารขอสินเชื่อวันนี้ โดยซื้อคอนโดMiami Bangpu (ไมอามีบางปู) ราคาห้องละ 959,000 บาท ขณะนี้อายุ 23 ปี ธอส.ให้ผ่อนได้นาน 40 ปีขณะนี้เช่าบ้านจ่ายค่าเช่าเดือนละ 3,000 บาท แต่การผ่อนชำระตามโครงการบ้านล้านหลังจ่ายเพิ่มเป็นเดือนละ 3,800 บาท มั่นใจว่าจะผ่อนได้

สำหรับการยื่นขอสินเชื่อตามโครงการบ้านล้านหลัง กลุ่มแรกนี้สามารถยื่นเอกสารได้จนถึงวันที่ 29 มีนาคมนี้ ส่วนกลุ่มที่เหลือกำหนดให้ยื่นคำขอกู้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 28 มิถุนายน 2562 . -สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

แฟนนางงามแห่ต้อนรับ “โอปอล” กลับไทยสุดอบอุ่น

กรุงเทพฯ 14 มิ.ย. – แฟนนางงามแห่รับ “โอปอล สุชาดา” Miss World 2025 กลับไทยสุดอบอุ่น ก่อนขึ้นรถแห่ฉลองทั่วกรุง “โอปอล” สุชาตา ช่วงศรี มิสเวิลด์ 2025 เดินทางกลับถึงไทย ด้วยเที่ยวบิน TG603 ร่วมงาน ‘Home Coming 72nd Miss World 2025’ ท่ามกลางการต้อนรับสุดอบอุ่นจากแฟนนางงามแน่นสนามบินสุวรรณภูมิ โอปอล กล่าวขอบคุณคนไทย และบอกว่ามงกุฎนี้เป็นของพวกเราทุกคน ตั้งเป้าใช้ตำแหน่งเพื่อช่วยเหลือสังคม หลังจบพิธี โอปอลขึ้นรถโรลส์-รอยซ์เปิดประทุน โบกธงชาติไทย มุ่งหน้าท้องฟ้าจำลอง ร่วมขบวนแห่ฉลองชัยมิสเวิลด์คนแรกของประเทสไทยอย่างสมเกียรติ บรรยากาศที่ท้องฟ้าจำลองมีประชาชนมารอต้อนรับโอปอล บรรดาแฟนนางงามต่างแสดงสัญลักษณ์ด้วยการใส่ชุดสีฟ้า บางคนมีการทำมงกุฎ Miss World มาใส่ และทันทีที่รถของโอปอลเลี้ยวเข้ามายังท้องฟ้าจำลอง มีการโห่ร้องต้อนรับอย่างอบอุ่น ส่วนแรงบันดาลใจในการทำรถขบวนแห่ของ Miss World 2025 นี้ นายธีรฉัตร อินถา ผู้ออกแบบขบวน ระบุว่า ได้มีการนำวัฒนธรรมผสมผสานระหว่างสากลและวัฒนธรรมไทย […]

ประชุม JBC วันแรกเป็นไปด้วยดี สองฝ่ายหารือตรงไปตรงมา

14 มิ.ย.- โฆษก กต. เผยการประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายหารือกันอย่างตรงไปตรงมา พร้อมย้ำไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก สำหรับการประชุมจะเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา หรือ JBC ครั้งที่ 6 ว่าตั้งแต่เมื่อเช้า หลังจากคณะผู้แทนไทยฯ ที่นำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย เดินทางถึงกรุงพนมเปญเมื่อวานนี้ ได้รับรายงานความคืบหน้ามาเป็นระยะ และเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็ได้เรียกประชุมผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ขอให้เรียกประชุมและรายงานความคืบหน้าเป็นระยะ เพื่อจะได้มีข้อสั่งการ นายนิกรเดช กล่าวว่า การประชุมเริ่มจากที่พบหารือระหว่างสองประธานไทย-กัมพูชา กลุ่มเล็ก จากนั้นได้เริ่มการประชุม JBC เต็มคณะ เพื่อหารือประเด็นทางเทคนิค ที่อยู่ในขอบเขตการทำงานของ JBC เช่นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการสำรวจภูมิประเทศ ขณะนี้การประชุมก็ยังคงดำเนินอยู่ ซึ่งช่วงบ่ายก็จะเป็นการหารือตามระเบียบวาระที่วางไว้ เช่นการพูดคุยด้านเทคนิค และคาดว่าจะมีการประชุมไปจนถึงวันพรุ่งนี้ บรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยดี และทั้งสองฝ่ายกำลังเดินหน้าหารือกันตามวาระ ถือว่าการประชุมเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายเดินหน้าคุย และปรับความคิดหากันด้วยดี ฝ่ายไทยหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะมีส่วนช่วยลดความ ตึงเครียดของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น […]

ประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” ยึด MOU43 แก้ปมชายแดน-ลดตึงเครียด

14 มิ.ย.- “ไทย-กัมพูชา” แถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม JBC เจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกัน และการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบ MOU43 นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย เป็นประธานการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) ร่วมกับนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายกล่าวถ้อยแถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ในการเจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกันและการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 (MOU 43) เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาชายแดนและลดความตึงเครียดที่มีอยู่ ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการของทั้งสองฝ่าย ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานเชิงเทคนิคที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กรมแผนที่ทหาร กองทัพบก กองทัพเรือ สำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา (เทียบเท่ากระทรวง) กระทรวงกลาโหมกัมพูชา กองทัพภาคต่าง ๆ ของกัมพูชา รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาของกัมพูชาทุกจังหวัด -สำนักข่าวไทย

Cambodia and Thailand hold a closed-door meeting ahead of the official meeting of JBC in Phnom Penh

ไทย-กัมพูชา หารือกลุ่มเล็กก่อนประชุม JBC

พนมเปญ 14 มิ.ย. – สื่อกัมพูชารายงานว่า กัมพูชาและไทย ได้เปิดการหารือกลุ่มเล็กฝ่ายละ 5 คน ก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือเจบีซี (JBC) ที่กรุงพนมเปญ ในวันนี้ เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า ในการหารือกลุ่มเล็กที่มีผู้ร่วมเข้าเพียง 10 คน ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายเจีย ฬำ  รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบกิจการชายแดน ส่วนฝ่ายไทยนำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศด้านกิจการชายแดน ซึ่งเป็นนักการทูตผู้เชี่ยวชาญช่วงข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร พร้อมกับเผยแพร่ภาพชุดการหารือดังกล่าว.-814.-สำนักข่าวไทย