มูลนิธิเมาไม่ขับร่วมกับ บขส.รณรงค์ช่วงปีใหม่ภายใต้สโลแกน”ปีใหม่ปลอดภัย เมาไม่ขับ”

กรุงเทพฯ 27 ธ.ค. – มูลนิธิเมาไม่ขับร่วมกับ บขส. ร่วมรณรงค์เมาไม่ขับ ภายใต้สโลแกน”ปีใหม่ปลอดภัย เมาไม่ขับ”บริเวณสถานีขนส่งหมอชิต  หวังกระตุ้นจิตสำนักและความรับผิดชอบแก่ผู้ขับขี่ผู้ใช้รถใช้ถนน


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน       เปิดรณรงค์ เมาไม่ขับ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มูลนิธิเมาไม่ขับ ร่วมกับบริษัทขนส่งจำกัดและภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุเมาไม่ขับ จัดขึ้นเพื่อสร้างจิตสำนึกในกลุ่มผู้ขับรถ ให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมภายใต้ สโลแกน” ปีใหม่ปลอดภัย เมาไม่ขับ” โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นภายในสถานีขนส่งหมอชิตท่ามกลางความสนใจของประชาชนที่เตรียมเดินทางกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก

นายอาคม   กล่าวว่า     อัตราการเสียชีวิตและบาดเจ็บจากการขับขี่รถสาธารณะและรถจักรยานยนต์และรถยนต์ทั่วไปในช่วงเทศกาลปีใหม่แต่ละปีมีเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์และใช้สารเสพติดเพื่อกระตุ้นการขับขี่ส่งผลให้ เพื่อนร่วมทางต้องได้รับผลพวงจากการขาดจิตสำนึกดังกล่าว ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของทุกคนกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย ผู้ขับขี่ผู้ใช้รถใช้ถนนไม่ควรฝ่าฝืนกฎหมายงดการดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดรวมถึงไม่ใช้สารกระตุ้นซึ่งหากฝ่าฝืนเจ้าหน้าที่ตรวจพบจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกถึง 1 ปี ปรับตั้งแต่ 5000 บาทถึง 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ


สำหรับบรรยากาศภายในสถานีขนส่งหมอชิตในช่วงเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมาประชาชนจำนวนมาก ที่จองก่อนล่วงหน้าได้มารอโดยสารรถประจำทางเพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนากันแล้ว ขณะที่ส่วนหนึ่งได้เดินทางมาติดต่อขอซื้อตั๋วโดยสารเช่นกันทำให้บรรยากาศในสถานีขนส่งหมอชิตแน่นขนัดไปด้วยผู้คน โดยวันนี้รถ บขส.เต็มทุกเที่ยว ขณะที่รถเสริมยังพอรองรับจำนวนคนได้อีก

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ ทาง บขส. ได้จัดรถโดยสาร (รถ บขส., รถร่วม , รถตู้) ให้บริการประชาชน รวมเที่ยวปกติและเที่ยวเสริม จำนวน 6,470 เที่ยว สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 120,000 คน ส่วนวันที่ 28-29 ธ.ค. คาดว่าเดินทางสูงสุดถึง 180,000 คน โดยได้เตรียมรถเสริมเพิ่ม 1,100-1,200 คัน  ทั้งนี้จะเข้มงวดเรื่องค่าโดยสาร และบรรทุกเกินที่นั่ง หากพบว่ากระทำผิดปรับสูงสุดและพักใช้งานแล้วแต่กรณี คาดว่าจะสามารถส่งผู้โดยสารโดยไม่มีตกค้างที่สถานี เพราะปีใหม่มีการเดินทางไม่มากเท่ากับช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาที่มีการเดิ


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย