นิด้าโพลชี้ประชาชน 40+ อยากเห็นนโยบายแก้ปัญหาปากท้องและหนี้สิน

กรุงเทพฯ 23 ธ.ค.- นิด้าโพลสำรวจความเห็นประชาชน เรื่อง “40+ กับการเลือกตั้ง 2562” พบร้อยละ 72.56 อยากเห็นนโยบายของพรรคการเมืองเรื่องแก้ปัญหาปากท้องและหนี้สินของประชาชน และเรื่องที่คิดว่าไม่ถูกต้องหรือรับไม่ได้มากที่สุด ร้อยละ 47.76 ระบุว่า เป็นเรื่องเศรษฐกิจตกต่ำ


ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน  เรื่อง “40+ กับการเลือกตั้ง 2562” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 11 – 12 ธันวาคม 2561 จากประชาชนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค  ระดับการศึกษา และอาชีพ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,250 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับความคิดเห็นของประชาชนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป กับการเลือกตั้ง 2562 ที่จะถึงนี้ 

จากการสำรวจเมื่อถามถึงนโยบายที่คน 40+ อยากเห็นจากพรรคการเมือง ในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 72.56 ระบุว่า นโยบายแก้ปัญหาปากท้องและหนี้สินของประชาชน รองลงมา ร้อยละ 37.60 ระบุว่า นโยบายการควบคุมราคาสินค้า ลดการผูกขาด ร้อยละ 30.16 ระบุว่า นโยบายป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน การใช้อำนาจโดยมิชอบ ผู้มีอิทธิพล ร้อยละ 27.44 ระบุว่า นโยบายแก้ปัญหายาเสพติด อาชญากรรม มิจฉาชีพ ร้อยละ 19.60 ระบุว่า นโยบายพัฒนาด้านการศึกษา และยกระดับมาตรฐานการศึกษา 


ร้อยละ 15.20 ระบุว่า นโยบายการกระจายอำนาจ กระจายงานและรายได้ ไม่ให้กระจุกตามเมืองใหญ่ ร้อยละ 14.96 ระบุว่า นโยบายด้านสุขภาพ การรักษา พยาบาล และการคุ้มครองความเสี่ยงของผู้บริโภค ร้อยละ 11.12 ระบุว่า นโยบายลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ระหว่างคนจนกับ คนรวย ร้อยละ 2.88 ระบุว่านโยบายเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ในการพัฒนาประเทศ FinTech , Big DATA , Blockchain  ร้อยละ 1.28 ระบุว่า นโยบายการลดงบประมาณของทหาร ยกเลิกเกณฑ์ทหาร และร้อยละ 0.08 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ นโยบายการจัดการด้านคมนาคม

สำหรับเรื่องที่คน 40+ คิดว่าไม่ถูกต้องหรือรับไม่ได้มากที่สุด พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 47.76 ระบุว่า เป็นเรื่องเศรษฐกิจตกต่ำ รองลงมา ร้อยละ 16.24 ระบุว่า เป็นเรื่องทุจริตคอร์รัปชัน ผู้มีอิทธิพล ร้อยละ 11.52 ระบุว่า เป็นเรื่องความขัดแย้งทางการเมืองของคนในประเทศ ร้อยละ 10.88 ระบุว่า เป็นเรื่องปัญหาสังคม (ความยากจน การกระจายรายได้ อาชญากรรม ยาเสพติด) ร้อยละ 4.56 ระบุว่า เป็นเรื่องระบบการศึกษาที่ไม่มีคุณภาพ ร้อยละ 4.08 ระบุว่า เป็นเรื่องการปฏิวัติ/การทำรัฐประหาร ร้อยละ 3.76 ระบุว่า เป็นเรื่องการไม่มีการเลือกตั้ง ร้อยละ 1.12 ระบุว่า เป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และร้อยละ 0.08 ไม่ระบุ 

ด้านสิ่งที่คน 40+ คาดหวังมากที่สุด หลังการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 62.64 ระบุว่า เศรษฐกิจภาพรวมของประเทศที่ดีขึ้น รองลงมา ร้อยละ 10.16 ระบุว่า ประเทศมีความเป็นประชาธิปไตย  ร้อยละ 8.80 ระบุว่า ส่งเสริมการเพิ่มอาชีพ ลดการว่างงาน พัฒนาให้แรงงานให้มีประสิทธิภาพ ร้อยละ 6.00 ระบุว่า พัฒนาด้านการศึกษาให้มีคุณภาพมากขึ้น ร้อยละ 5.68 ระบุว่า ประเทศไทยมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นในสายตาของต่างชาติ


ร้อยละ 3.28 ระบุว่า ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนในประเทศและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ร้อยละ 2.48 ระบุว่า การบริการและการได้รับสวัสดิการของรัฐด้วยความเสมอภาค เป็นธรรม และเท่าเทียมกัน ร้อยละ 0.16 ระบุว่าสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่จำเป็น เช่น อินเทอร์เน็ต น้ำประปา ไฟฟ้า ถนน รถไฟ การคมนาคม ฯลฯ ร้อยละ 0.56 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ ไม่คาดหวังสิ่งใด ร้อยละ 0.16 ไม่แน่ใจและร้อยละ 0.08 ไม่ระบุ  

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงการขับเคลื่อนประเทศไทยที่คน 40+ อยากเห็นในอนาคต พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 43.20 ระบุว่า แก้ปัญหาการขัดแย้ง สร้างความสามัคคี สร้างจิตสำนึกในการใช้เสรีภาพส่วนบุคคล รองลงมา ร้อยละ 31.20 ระบุว่า การทำนโยบายสาธารณะที่มาจากประชาชนร่วมกันคิด ร้อยละ 24.00 ระบุว่า ยกระดับคุณภาพการบริการด้านสาธารณสุขและสุขภาพ ร้อยละ 17.36 ระบุว่า ส่งเสริมให้มีการเรียนรู้ตลอดชีวิตโดยพัฒนากระบวนการเรียนรู้ 

ร้อยละ 12.00 ระบุว่า การแก้ไขปัญหาการเข้าสู่ยุคสังคมผู้สูงอายุ ร้อยละ 11.28 ระบุว่าแก้ปัญหาการใช้ความรุนแรงในจังหวัด 3 ชายแดนภาคใต้ ร้อยละ 3.36 ระบุว่า ส่งเสริมด้านกีฬาให้กับประชาชน เช่น อุปกรณ์กีฬา สนามกีฬา เป็นต้น ร้อยละ 3.12 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้ดีขึ้น และการแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน ร้อยละ 0.32 ไม่แน่ใจ  และร้อยละ 0.24 ไม่ระบุ .- สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้โดยสารรถทัวร์สยอง นั่งร่วมกับศพจากโคราชถึงลำปาง

ลำปาง 17 มิ.ย. – ไม่รู้นั่งมากับศพทั้งคืน ผู้โดยสารรถทัวร์สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ ถึงขนส่งลำปาง ผวาทั้งคัน หลังรถเข้าจอดชานชาลาพบหนุ่มวัย 38 ปี เสียชีวิต ตรวจสอบเบื้องต้นพบขามีรอยช้ำ เลือดไหล แพทย์คาดเสียชีวิตจากโรคประจำตัว ช่วง 05.30 น. วานนี้ (16 มิ.ย.) ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลลำปาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างลำปาง รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตบนรถทัวร์โดยสาร สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ จอดอยู่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลำปาง เทศบาลนครลำปาง ผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 38 ปี ชาว ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง นั่งมากับรถทัวร์โดยสารปรับอากาศ 2 ชั้น ผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ชั้น 2 ฝั่งซ้ายโซนด้านหลัง ซึ่งเป็นที่นั่งเดียว ขึ้นรถต้นทางจาก จ.นครราชสีมา ปลายทาง จ.ลำปาง โดยรถเข้าจอดที่ชานชาลา เจ้าหน้าที่ของบริษัททัวร์ได้เชิญผู้โดยสารทั้งหมดลงมาจากรถ จากนั้นแพทย์เวรโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัย ร่วมชันสูตรศพ ทำเอาผู้โดยสารที่นั่งมาในรถคันเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ที่นั่งด้านหน้าและหลัง ถึงกับสยอง […]

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย

ครูสาวเขียนจดหมายระบายความอัดอั้น ก่อนคิดสั้น-ศธ.สั่งสอบข้อเท็จจริง

บุรีรัมย์ 17 มิ.ย. – ครูสาวโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ เขียนจดหมายระบายความอัดอั้น “งานครูหนักและเครียดมากจนทนไม่ไหว” ก่อนตัดสินใจคิดสั้น ด้าน ศธ. สั่งสอบข้อเท็จจริง ยอมรับครูรับภาระหนัก ตำรวจพร้อมกู้ภัยได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตในบ้านหลังหนึ่ง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พบร่างของครูมัท วัย 39 ปี ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ โดยครูตัดสินใจลาโลกด้วยตัวเอง ข้างร่างของครูมีจดหมายลาที่เขียนถึง 5 หน้ากระดาษ หน้าซองจดหมายเขียนไว้ว่า “จดหมายส่วนตัวถึงครอบครัวของฉัน” เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยหน้าที่ 1-4 ผู้ตายเขียนถึงพี่สาวซึ่งเป็นข้าราชการครู ลูกสาววัย 10 ขวบ และพ่อแม่ ส่วนหน้าที่ 5 เขียนถึงการทำงาน ถึงสาเหตุที่ลาโลกใบนี้ เพราะไม่สบายกายและไม่สบายใจ มีปัญหาเรื่องการทำงาน การเงิน การบัญชี ซึ่งพอกพูนจนแก้ไขได้ยาก ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพราะครูมัทเพียงคนเดียว เกิดจากกระบวนการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพภายในโรงเรียน ทำงานไม่เป็นระบบ ให้เบิกเงินก่อนเคลียร์เอกสารทีหลัง สุดท้ายนิ่งเฉย ไม่มีใครมาเคลียร์ให้ อันไหนเคลียร์เองได้ก็ดีไป แต่อันไหนเคลียร์ไม่ได้ก็ต้องมานั่งเครียดเองจนหัวจะระเบิด เป็นไมเกรนแทบทุกวัน […]

สาวโพสต์ถูกไฟดูดจากตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดัง

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – สาวโพสต์ถูกไฟตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดังดูดมือ ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายวัน ทำงานไม่ได้ กินข้าวไม่ได้ ชีวิตพัง ห้างโยนภาระให้เดินเอกสารเบิกกับโรงพยาบาลเอง สาวโพสต์ภาพพร้อมเล่าเรื่องราวเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา กำลังขับรถเข้าลานจอดรถห้างฯ แห่งหนึ่ง แล้วลดกระจกเอามือโบกระบบเซ็นเซอร์เพื่อรับบัตรจอด ปรากฏว่าถูกไฟดูดทั้งที่มือไม่ได้แตะโดนเครื่อง เพราะระบบเซ็นเซอร์ไม่ต้องสัมผัสโดน แค่โบกหน้าเครื่อง ตนเองรู้สึกไฟดูด แขนชา จี๊ดขึ้นหัว และชาลงไปถึงขา บัตรก็ไหลออกมาจากเครื่อง แต่ไม้กั้นรถไม่เปิด คาดว่าไฟฟ้าในเครื่องน่าจะขัดข้อง และไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่บริเวณนั้นเลย จะกดปุ่ม SOS ขอความช่วยเหลือที่ตัวเครื่องก็ไม่กล้า เพราะกลัวถูกไฟดูดรอบ 2 จึงพยายามบีบแตรเรียกหลายครั้งกว่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาหา พอเจ้าหน้าที่มาตนก็บอกว่าถูกไฟดูด แต่เจ้าหน้าที่มาเปิดไม้กั้นให้และไม่พูดอะไรต่อ เลยรีบเอารถเข้าไปในลานจอด จากนั้นรีบเดินไปที่จุดบริการลูกค้า เพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะตอนนั้นชาไปครึ่งตัว เจ้าหน้าที่พาไปห้องพยาบาล เอาเจลเย็นมาประคบอยู่นานก็ไม่รู้สึกดีขึ้น แขนเริ่มไม่มีแรงยก เจ้าหน้าที่เห็นอาการหนักเลยพาไปโรงพยาบาลที่มีสัญญากับห้าง หมอตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจกับตรวจเลือดแล้วค่าปกติดี หมอสั่งยาและให้กลับบ้าน ทั้งที่ยังไม่หายชา ถึงขนาดแขนไม่มีแรงแม้แต่จะเซ็นเอกสาร หมอบอกว่าคุณไม่เคยข้อศอกกระแทกโต๊ะเหรอ ชาๆ เหมือนกัน เดี๋ยวก็หายเอง ตนเองจึงตั้งคำถามว่าจะหายเองจริงเหรอ เพราะยังทำอะไรไม่ได้เลย ตอนกลางคืนลองยกแขนนิ้วยังสั่นอยู่เลย กินยาคลายกล้ามเนื้อก็ไม่มีอะไรดีขึ้น […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ไม่ติดใจนายกฯ ปมคลิปเสียง ขอทำเพื่อชาติ-ปชช.

อีสาน 18 มิ.ย.- “พล.ท.บุญสิน” มทภ.2 ไม่ติดใจ “นายกฯ อิ๊งค์” ปมคลิปเสียง ขอทำงานเพื่อชาติ-ประชาชน พร้อมเดินทางเยี่ยมลูกน้องบาดเจ็บจากภารกิจชายแดน พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้โทรมาปรับความเข้าใจ พร้อมทั้งอธิบายเนื้อหาในการสนทนากับสมเด็จฮุน เซน เพื่อต้องการให้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เบาบางลง เป็นการพูดคุยกันหลังบ้าน โดยตนได้บอกกับนายกฯ ไปว่า “ผมไม่มีอะไรครับ ผมเข้าใจ” ทั้งนี้ นายกฯ ได้ขอบคุณที่เข้าใจ ถือว่าคุยแล้วเข้าใจแล้ว ก็ไม่ติดใจอะไร ตนทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของพี่น้องประชาชน พล.ท.บุญสิน ยังระบุต่อว่า วันนี้กำลังเดินทางไปเยี่ยมผู้ใต้บังคับบัญชาที่ได้รับบาดเจ็บจากภารกิจชายแดน ตนทำงานตามปกติ ไม่มีอะไร.-313.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” บอก “จบแล้วครับนาย” ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู

กทม. 18 มิ.ย.-“อนุทิน” สั่ง จนท.ขนของออกจากกระทรวง บอก “จบแล้วครับนาย” ไม่ต้องคุยนายกฯ หลัง “หมอมิ้ง” ยื่นไพ่ใบสุดท้าย ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู เตรียมซ้อมกับ “ไอซ์ รักชนก” เวลา 13.35 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯ ระบุว่ายังไม่แจ้งเงื่อนไขการปรับ ครม. ว่า ตนยังไม่ได้ยิน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเราก็บอกท่าทีเราไปแล้ว เมื่อถามว่า การขนของออกจากห้องทำงาน ถือเป็นการปิดประตูเจรจาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ ชัดเจนแล้วว่า เราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร และ นพ.พรหมินทร์ ได้ย้ำเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นแบบนี้ เมื่อถามต่อว่า ต้องคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และเมื่อวาน […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

กัมพูชาห้ามผัก-ผลไม้ไทยผ่านช่องจอมวันแรก

สุรินทร์ 18 มิ.ย. – จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ วันนี้ กัมพูชาตรวจเข้มไม่ให้ผัก-ผลไม้ไทยเล็ดลอดแม้แต่ชิ้นเดียว ทำให้พ่อค้าแม่ค้าเดือดร้อนอย่างหนัก วอนทางการไทยตอบโต้สินค้าจากกัมพูชาที่เข้ามาโกยเงินคนไทยบ้าง เวลา 08.00 น. ได้เวลาเปิดจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ในฝั่งไทย ในห้วงสถานการณ์ชายแดนตึงเครียดที่ลดเหลือ 3 วันต่อสัปดาห์ คือ วันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์ ชาวกัมพูชาต่างเข้าแถวรอข้ามแดน พร้อมกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ไปรอรับส่งชาวกัมพูชาเที่ยวละ 20 บาท ที่เห็นต่อแถวยาวเหยียด เข้าคิวรอตั้งแต่เมื่อวานคือ รถบรรทุกที่จะเข้าไปซื้อมันสำปะหลังในฝั่งกัมพูชา คนกัมพูชาที่กลับประเทศวันนี้มีทั้งกลุ่มคนที่เข้าๆ ออกๆ ไปทำธุระส่วนตัวเล็กน้อย และกลุ่มที่กลับไปตั้งหลักรอดูสถานการณ์ จึงเห็นสัมภาระจำพวกเครื่องใช้ส่วนตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่เน้นตรวจค้นสิ่งของผิดกฎหมายและจำพวกอุปกรณ์ก่อสร้างที่ห้ามนำออกราชอาณาจักรไทย แม้แต่ไฟโซลาร์เซลล์ก็ถูกยึดไว้ เมื่อผ่านจุดตรวจเพื่อความมั่นคงชายแดนของกองกำลังสุรนารีได้แล้ว อีกจุดคือด่านตรวจคนเข้าเมือง ได้เวลา 09.00 น. ประตูฝั่งกัมพูชาจึงจะเปิด ซึ่งพบว่ามีการตรวจเข้มตามนโยบายกดดันทางการไทย โดยประกาศชัดว่าจะไม่ให้นำผักผลไม้เข้าไปแม้แต่ชิ้นเดียว กรรมกรชาวกัมพูชาคนนี้เดินทางมาจากกรุงเทพฯ แวะซื้อเงาะและลองกองที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ไม่ทราบว่าทางการกัมพูชาจะเข้มงวดถึงขั้นห้ามนำไปกินในครอบครัว วันนี้ (18 […]