นายกฯ ร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน เน้นอาเซียนเป็นหนึ่งเดียว

สปป.ลาว 6 ก.ย.-การประชุมสุดยอดอาเซียนที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวครั้งนี้ ได้เน้นความเป็นหนึ่งเดียวของอาเซียน เพื่อกำหนดทิศทางให้เป็นรูปธรรมให้มากขึ้น โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยรายงาน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 28 และ 29 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ซึ่งเป็นการติดตามผลการดำเนินงานของประเทศสมาชิกตามวิสัยทัศน์ ประชาคมอาเซียน ค.ศ.2025 และร่วมกำหนดนโยบายและทิศทางในอนาคตของประชาคมอาเซียน เนื่องจากเป็นปีแรกที่ก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคม ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นว่า อาเซียนควรเร่ง “เปลี่ยนวิสัยทัศน์ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม”

จากนั้นเป็นพิธีลงนามปฏิญญาอาเซียน ว่าด้วยความเป็นหนึ่งเดียวในการตอบโต้ภัยพิบัติทั้งภายในและภายนอกภูมิภาค แผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน ค.ศ.2025 แผนงานข้อริเริ่มเพื่อการรวมตัวของอาเซียน ฉบับที่ 3 และการส่งเสริมความเชื่อมโยง และการขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนภายใต้วิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ค.ศ.2025 กับวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ.2030

โดยก่อนหน้านี้ผู้นำอาเซียนร่วมพิธีเปิดโครงการ Visit ASEAN @ 50 ในโอกาสครบรอบ 50 ปี การก่อตั้งอาเซียนในปี 2560 เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างกัน โดยรวบรวม 50 เทศกาล 50 ประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ประทับใจของประเทศสมาชิก กระตุ้นความสนใจ และดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวกลุ่มอาเซียน ที่หลากหลายด้วยวัฒนธรรม ธรรมชาติ และความเป็นมิตรจากคนในภูมิภาคนี้

สำหรับนายกรัฐมนตรี ก่อนเข้าประชุมสุดยอดอาเซียน ยังได้หารือแบบทวิภาคีกับนายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ซึ่งบรรลุความร่วมมือในทุกมิติ โดยเฉพาะความร่วมมือด้านพลังงาน โดยนายกรัฐมนตรียืนยันพร้อมสานต่อความร่วมมือกับ สปป.ลาว เพื่อความผาสุกของทั้งสองประเทศ

โอกาสนี้ทั้งสองร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทย กับ สปป.ลาว ในเรื่องความร่วมมือในการพัฒนาไฟฟ้าใน สปป.ลาว ซึ่งเป็นการขยายกรอบการรับซื้อไฟฟ้าจาก สปป.ลาวเพิ่มเป็น 9,000 เมกกะวัตต์

นายกรัฐมนตรีและคณะยังร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวันกับผู้นำทางธุรกิจของ สปป.ลาว กัมพูชา และสาธารณรัฐสหภาพเมียนมาร์ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยได้แลกเปลี่ยนความเห็นด้านค้าขาย และการลงทุนในกลุ่มอาเซียนด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีได้กำชับกับทีมประเทศไทยให้ปรับ การทำงานให้เป็นแบบบูรณาการ วางแผนที่สามารถวัดผลสัมฤทธิ์ได้ชัดเจน พิจารณาการลงทุนและการค้าขายให้ตรงตามความต้องการของประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมเป็นผู้ริเริ่มสร้างความไว้วางใจ ลดความหวาดระแวง เพื่อให้เกิดผลประโยชน์ที่เท่าเทียมในกลุ่มประเทศสมาชิก

เช่นเดียวกับที่พบกับผู้แทนไทยในสมัชชารัฐสภาอาเซียน ผู้แทนเยาวชนอาเซียน และสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน ก็ย้ำถึงการออกกฎหมายให้สอดคล้อง กับกฎบัตรอาเซียน และสอดคล้องกับนโยบายและการทำงานของรัฐบาล.-สำนักข่าวไทย