fbpx

อภิสิทธิ์ กำชับสมาชิกระวังการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง

กรุงเทพฯ 12 ธ.ค.- หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดทางให้สมาชิกดำเนินกิจกรรมทางการเมืองเต็มที่ และเตรียมบรรจุนโยบายฉบับเต็มเข้าข้อบังคับพรรคเร็วๆนี้ ส่วนรัฐมนตรีในพรรคพลังประชารัฐยังไม่ลาออก แม้ไม่มีกฎหมายกำกับ แต่ก็ขอให้คำนึงถึงหลักธรรมาภิบาล


ที่โรงแรมเดอะสุโกศล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีการปลดล็อกให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมทางการเมืองได้ ว่า เป็นเรื่องดี เพราะจะเข้าสู่การเลือกตั้ง ก็ควรให้พรรคการเมืองทำงานได้ตามปกติ  แม้ตอนนี้ยังมีความสับสนไม่เข้าใจอยู่บ้าง ว่ากิจกรรมที่จะทำได้ก่อนหรือหลังประกาศพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร แต่ทางพรรคได้ซักซ้อมกับสมาชิกแล้วว่าการทำกิจกรรมทางการเมืองทำได้ตามปกติ แต่อะไรที่ทำหลังการประกาศพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งไปแล้ว และถูกมองว่าเป็นการทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต ก็เป็นเรื่องทำไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่นการจัดเลี้ยงก็ไม่สามารถทำได้ ซึ่งกำชับสมาชิกทุกคนแล้ว

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรค คาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปีนี้ เนื่องจากต้องรับฟังความเห็นสมาชิกตามกฎหมาย ขณะนี้สมาชิกหลายคนคงใช้เวลาเพื่อแนะนำตัวเองต่อประชาชน แสดงความเห็นเชิงนโยบาย รวมถึงการประชาสัมพันธ์ ซึ่งทำได้เต็มที่ในตอนนี้ 


นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์จะมีการเปลี่ยนแปลง  และเป็นไปตามเงื่อนไขกฎหมายเลือกตั้ง  ที่ระบุถึงที่มาที่ไปของงบประมาณ และประโยชน์ที่จะได้รับ เป็นนโยบายที่จับต้องได้ ซึ่งนโยบายของพรรคจะได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารพรรค และจะนำไปบรรจุไว้ในข้อบังคับพรรค

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลทำกันอยู่ตอนนี้เหมือนจะเป็นแนวคิดรัฐสวัสดิการ แต่ตอนหลังกลับไม่ใช่ เพราะการแจกเงินขณะนี้มีหลักเกณฑ์ไม่ชัดเจน ทั้งที่บอกไว้ตอนต้นปีว่าคนจนจะหมดไป แต่ปลายปีกลับมีคนจนเพิ่มขึ้นมา 3 ล้านคน

นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี ระบุ 4 รัฐมนตรีในพรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้มีกฎหมายบังคับให้ต้องลาออกจากตำแหน่ง ว่า เคยพูดไปแล้วว่าเรื่องแบบนี้ไม่ได้อยู่ในกฎหมาย แต่สิ่งที่ต่างออกไปจากรัฐบาลชุดก่อน ๆ คือรัฐบาลชุดนี้มีอำนาจมากกว่าอดีต และเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญมองว่า บุคคลที่มีส่วนได้เสีย ไม่ควรใช้อำนาจเต็มได้ในช่วงการเลือกตั้ง จึงขึ้นอยู่กับฝ่ายผู้มีอำนาจ ว่าต้องการยกระดับการเมืองไทยและต้องการรักษาธรรมาภิบาลหรือไม่


ส่วนกรณีที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พูดในทำนองอยากชวนพรรคประชาธิปัตย์มาร่วมงานกันนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็คงพูดในทำนองว่าคุยกันได้เท่านั้น แต่ก็เข้าใจว่าพล.อ.ประวิตร เคยบอกว่าไม่เล่นการเมือง

ส่วนกรณี กกต. ระบุว่าหากอยากให้ทุกเขตเลือกตั้งใช้เบอร์เดียวกัน ก็ให้พรรคการเมืองไปคุยกันเองนั้น นายอภิสิทธิ์ บอกว่า เป็นไปได้ยากเพราะบางพรรคการเมืองก็ไม่ได้ส่งครบทุกเขต แต่หากทำให้เป็นเบอร์เดียวกันได้ ก็เป็นเรื่องสะดวกสำหรับประชาชน เพราะมองว่าไม่ได้มีข้อเสียอะไร และโดยส่วนตัวอยากให้บัตรเลือกตั้ง มีทั้งชื่อคนและชื่อพรรคการเมือง หรืออะไรที่สามารถอำนวยความสะดวกให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งได้ ก็ควรจะดำเนินการ เพื่อป้องกันการสับสน ไม่น่าเป็นเรื่องยากที่จะตัดสินใจว่าอะไรเป็นเรื่องสะดวกสำหรับประชาชน

หัวหน้าพรรคปรปะชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความชักชวนแก้ไขรัฐธรรมนูญ หลังมีคำสั่งปลดล็อคพรรคการเมือง ว่า พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าบทบัญญัติรัฐธรรมนูญหลายมาตรา ควรจะมีการแก้ไขให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น แต่ไม่ควรนำประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญมาสร้างความขัดแย้ง หรือการเผชิญหน้าในช่วงการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญจำเป็นต้องได้รับฉันทามติจากคนทั่วไป และต้องตกผลึกว่าจะแก้ไขในประเด็นใด ไม่ใช่หยิบขึ้นมาเพื่อเผชิญหน้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะต้องได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาด้วย จึงจำเป็นต้องมีความชัดเจนพอสมควรเกี่ยวกับประเด็นที่จะแก้ไข เช่นความเป็นประชาธิปไตย และแก้ไขเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากขึ้น ไม่ใช่แก้ไขเพื่อลดทอนการตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจของนักการเมือง

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สิ่งที่ประชาชนคาดหวังในการเลือกตั้งครั้งนี้ คือความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและต้องการให้ประเทศเดินไปข้างหน้า หากไม่ระมัดระวัง และทำให้ประเทศกลับสู่ความขัดแย้งอีกครั้งหนึ่ง สุดท้ายจะไม่ได้อะไร.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ผลสอบ “ครูเบญ” เบื้องต้นไม่ผ่านเกณฑ์ ส่ง พฐ.ร่วมตรวจพิสูจน์

สพฐ. เผยผลสอบ “ครูเบญ” เบื้องต้นคะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 ทั้งภาค ก. ภาค ข. และไม่ติด 1 ใน 10 ส่งข้อสอบให้ พฐ. ตรวจพิสูจน์เพื่อความโปร่งใส

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553