อภิสิทธิ์ กำชับสมาชิกระวังการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง

กรุงเทพฯ 12 ธ.ค.- หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดทางให้สมาชิกดำเนินกิจกรรมทางการเมืองเต็มที่ และเตรียมบรรจุนโยบายฉบับเต็มเข้าข้อบังคับพรรคเร็วๆนี้ ส่วนรัฐมนตรีในพรรคพลังประชารัฐยังไม่ลาออก แม้ไม่มีกฎหมายกำกับ แต่ก็ขอให้คำนึงถึงหลักธรรมาภิบาล


ที่โรงแรมเดอะสุโกศล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีการปลดล็อกให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมทางการเมืองได้ ว่า เป็นเรื่องดี เพราะจะเข้าสู่การเลือกตั้ง ก็ควรให้พรรคการเมืองทำงานได้ตามปกติ  แม้ตอนนี้ยังมีความสับสนไม่เข้าใจอยู่บ้าง ว่ากิจกรรมที่จะทำได้ก่อนหรือหลังประกาศพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร แต่ทางพรรคได้ซักซ้อมกับสมาชิกแล้วว่าการทำกิจกรรมทางการเมืองทำได้ตามปกติ แต่อะไรที่ทำหลังการประกาศพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งไปแล้ว และถูกมองว่าเป็นการทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต ก็เป็นเรื่องทำไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่นการจัดเลี้ยงก็ไม่สามารถทำได้ ซึ่งกำชับสมาชิกทุกคนแล้ว

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรค คาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปีนี้ เนื่องจากต้องรับฟังความเห็นสมาชิกตามกฎหมาย ขณะนี้สมาชิกหลายคนคงใช้เวลาเพื่อแนะนำตัวเองต่อประชาชน แสดงความเห็นเชิงนโยบาย รวมถึงการประชาสัมพันธ์ ซึ่งทำได้เต็มที่ในตอนนี้ 


นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์จะมีการเปลี่ยนแปลง  และเป็นไปตามเงื่อนไขกฎหมายเลือกตั้ง  ที่ระบุถึงที่มาที่ไปของงบประมาณ และประโยชน์ที่จะได้รับ เป็นนโยบายที่จับต้องได้ ซึ่งนโยบายของพรรคจะได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารพรรค และจะนำไปบรรจุไว้ในข้อบังคับพรรค

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลทำกันอยู่ตอนนี้เหมือนจะเป็นแนวคิดรัฐสวัสดิการ แต่ตอนหลังกลับไม่ใช่ เพราะการแจกเงินขณะนี้มีหลักเกณฑ์ไม่ชัดเจน ทั้งที่บอกไว้ตอนต้นปีว่าคนจนจะหมดไป แต่ปลายปีกลับมีคนจนเพิ่มขึ้นมา 3 ล้านคน

นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี ระบุ 4 รัฐมนตรีในพรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้มีกฎหมายบังคับให้ต้องลาออกจากตำแหน่ง ว่า เคยพูดไปแล้วว่าเรื่องแบบนี้ไม่ได้อยู่ในกฎหมาย แต่สิ่งที่ต่างออกไปจากรัฐบาลชุดก่อน ๆ คือรัฐบาลชุดนี้มีอำนาจมากกว่าอดีต และเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญมองว่า บุคคลที่มีส่วนได้เสีย ไม่ควรใช้อำนาจเต็มได้ในช่วงการเลือกตั้ง จึงขึ้นอยู่กับฝ่ายผู้มีอำนาจ ว่าต้องการยกระดับการเมืองไทยและต้องการรักษาธรรมาภิบาลหรือไม่


ส่วนกรณีที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พูดในทำนองอยากชวนพรรคประชาธิปัตย์มาร่วมงานกันนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็คงพูดในทำนองว่าคุยกันได้เท่านั้น แต่ก็เข้าใจว่าพล.อ.ประวิตร เคยบอกว่าไม่เล่นการเมือง

ส่วนกรณี กกต. ระบุว่าหากอยากให้ทุกเขตเลือกตั้งใช้เบอร์เดียวกัน ก็ให้พรรคการเมืองไปคุยกันเองนั้น นายอภิสิทธิ์ บอกว่า เป็นไปได้ยากเพราะบางพรรคการเมืองก็ไม่ได้ส่งครบทุกเขต แต่หากทำให้เป็นเบอร์เดียวกันได้ ก็เป็นเรื่องสะดวกสำหรับประชาชน เพราะมองว่าไม่ได้มีข้อเสียอะไร และโดยส่วนตัวอยากให้บัตรเลือกตั้ง มีทั้งชื่อคนและชื่อพรรคการเมือง หรืออะไรที่สามารถอำนวยความสะดวกให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งได้ ก็ควรจะดำเนินการ เพื่อป้องกันการสับสน ไม่น่าเป็นเรื่องยากที่จะตัดสินใจว่าอะไรเป็นเรื่องสะดวกสำหรับประชาชน

หัวหน้าพรรคปรปะชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความชักชวนแก้ไขรัฐธรรมนูญ หลังมีคำสั่งปลดล็อคพรรคการเมือง ว่า พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าบทบัญญัติรัฐธรรมนูญหลายมาตรา ควรจะมีการแก้ไขให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น แต่ไม่ควรนำประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญมาสร้างความขัดแย้ง หรือการเผชิญหน้าในช่วงการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญจำเป็นต้องได้รับฉันทามติจากคนทั่วไป และต้องตกผลึกว่าจะแก้ไขในประเด็นใด ไม่ใช่หยิบขึ้นมาเพื่อเผชิญหน้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะต้องได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาด้วย จึงจำเป็นต้องมีความชัดเจนพอสมควรเกี่ยวกับประเด็นที่จะแก้ไข เช่นความเป็นประชาธิปไตย และแก้ไขเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากขึ้น ไม่ใช่แก้ไขเพื่อลดทอนการตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจของนักการเมือง

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สิ่งที่ประชาชนคาดหวังในการเลือกตั้งครั้งนี้ คือความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและต้องการให้ประเทศเดินไปข้างหน้า หากไม่ระมัดระวัง และทำให้ประเทศกลับสู่ความขัดแย้งอีกครั้งหนึ่ง สุดท้ายจะไม่ได้อะไร.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 20 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,0000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง