“เจ๊ดา”ว่าจ้างสาดน้ำปลาพริกไร้ญาติยื่นประกันส่งตัวเข้าเรือนจำทันที

กรุงเทพฯ 17 พ.ย.-” เจ๊ดา”ผู้ว่าจ้างสาดน้ำปลาพริกใส่สาวขับเบนซ์ ไร้ญาติยื่นประกันถูกส่งตัวเข้าเรือนจำทันที ก่อนหน้านี้ได้ขังตัวอยู่ในห้องน้ำนานกว่าครึ่งชั่วโมง เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์กดดันทุกวิถีทาง กว่าจะยอมออกจากห้องน้ำศาลเพื่อนำตัวฝากขัง


พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อนำตัวนางแสงอรุณ ประทุมพวง หรือ เจ๊ดา ผู้จ้างวานให้นางสาวนิภาพร สมุทรคีรี นำน้ำปลาพริกสาดใส่สาวเจ้าของรถเบนซ์ ขณะจอดติดสัญญาณไฟอยู่บริเวณแยกศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ไปขออำนาจศาลอาญาฝากขังผัดแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 17-28 พฤศจิกายน 2561 ในข้อหาร่วมกันพยายามชิงทรัพย์ หลังนางแสงอรุณแอบย่องเงียบเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ เมื่อคืนที่ผ่านมา

มีรายงานว่า ทันที่ที่ผู้ต้องหามาถึงศาล ได้ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนเข้าสู่กระบวนการฝากขัง แต่ผู้ต้องหาได้หายไปนานจนผิดสังเกตุ ใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนาน 30 นาที  เจ้าหน้าจึงให้แม่บ้านเข้าไปเรียก แต่ผู้ต้องหาไม่ยอมออกมา แม่บ้านทำทุกวิธีทั้งเคาะประตูเรียก ปิดไฟ ปิดพัดลม ปิดหน้าต่าง จนถึงขั้นสาดน้ำเข้าไป จนในที่สุด ผู้ต้องหาจึงยอมออกมา


เบื้องต้นพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวท้ายคำร้อง เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง เข้าข่ายชิงทรัพย์ 

ด้านพันตำรวจเอกวิรดล ทับทิมดี ผู้กำกับการ สน.บางซื่อ เปิดเผยว่า จากการสอบปากเจ๊ดาเมื่อคืนที่ผ่านมา เจ๊ดาไม่ขอให้การในชั้นสอบสวน แต่ขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น จึงยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีความรู้จักกับนางวาสนา ผู้เสียหาย หรือเจ๊ซ้งที่ถูกกล่าวอ้างว่าเป็นคนบงการต้นเรื่องหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  วันนี้ไม่ปรากฏว่า มีญาติผู้ต้องหา มายื่นคำร้อง พร้อมหลักทรัพย์ขอประกันตัวเจ๊ดาแต่อย่างใดเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำตัวไปคุมขังไว้ที่ทัณฑสถานหญิงกลางต่อไป 


สำหรับน.ส.แสงอรุณ ประทุมพวง เจ๊ดา ที่ น.ส.นิภาพร ให้การว่า เป็นผู้ว่าจ้าง ทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า เคยขึ้นทะเบียนเป็นนายประกันที่ศาลอาญา ต่อมาถูกดำเนินคดีฐานละเมิดอำนาจศาล แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบในบริเวณศาลอาญา เมื่อปี 2560 เป็นคดีหมายเลขแดง ล.5/2560          กรณีเมื่อเดือน พ.ค.2560 เจ๊ดา  ได้ให้บุตรของผู้ต้องหาคดีหนึ่งมาพบที่โรงอาหารศาลอาญาและให้จ่ายค่าเบี้ยประกันเพื่อซื้อกรมธรรม์กับบริษัทประกันภัย จำนวน 50,000 บาท แต่เมื่อตรวจสอบกับผู้รับมอบอำนาจของบริษัทประกันภัย จนทราบว่าไม่มีเงินวางค่าเบี้ยประกัน บริษัทจึงไม่สามารถรับทำประกันในคดีนั้นได้ 

ต่อมาบุตรของผู้ต้องหาคดีดังกล่าวได้ติดต่อขอเงินคืน และได้รับเงินคืนมา 48,000 บาท โดยเจ๊ดาอ้างว่า ได้หักเงินบางส่วนเป็นค่าดำเนินการ  ซึ่งศาลอาญาได้ดำเนินการไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาลดังกล่าว และศาลมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 17 ก.ค.2560 โดยสั่งปรับเจ๊ดา 500 บาท และห้ามเข้าบริเวณศาลอาญาเป็นเวลา  2 ปี ตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค.2560 -17 ก.ค.2562 ด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง