ก.คลัง 16 พ.ย. – คลังประกาศผลลงทะเบียนสวัสดิการฯ กลุ่มผู้พิการ-สูงอายุ-ป่วยติดเตียง ผ่าน 3 ช่องทาง เริ่มรับบัตรกลาง ธ.ค.61 และใช้ 1 ม.ค.62
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้มีการเปิดการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติมภายใต้โครงการไทยนิยมยั่งยืนในกลุ่มผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้ที่ไม่สามารถเดินทางมาลงทะเบียนได้ในปี 2560 (การลงทะเบียนเพิ่มเติมฯ) โดยมีทีมไทยนิยม ยั่งยืน ของกระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานผู้รับลงทะเบียนระหว่างวันที่ 15 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2561
นายลวรณ กล่าวว่า กระทรวงการคลังในฐานะหน่วยงานกลางตรวจสอบคุณสมบัติ พบว่ามีผู้ลงทะเบียนเพิ่ม 4.5 ล้านคน มีผู้ผ่านคุณสมบัติและได้รับสิทธิ์ 3.1 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 68 ของผู้มาลงทะเบียนทั้งหมด ซึ่งผู้ที่ผ่านสิทธิ์สามารถตรวจสอบรายชื่อได้ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2561 เป็นต้นไป โดยสามารถตรวจสอบผลผ่าน www.epayment.go.th และหมายเลข Call Center ของทั้ง 3 หน่วยงาน ผู้ที่ผ่านสิทธิ์สามารถรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้ช่วงกลางเดือนธันวาคม 2561 และเริ่มใช้บัตรฯ ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 เป็นต้นไป ส่วนผู้ที่ไม่ผ่านสิทธิ์สามารถยื่นอุทธรณ์ต่อหน่วยงานที่ไม่ผ่านสิทธิ์โดยตรงระหว่างวันที่ 16 – 30 พฤศจิกายน 2561
ทั้งนี้ ผู้ผ่านคุณสมบัติสามารถตรวจสอบสิทธิผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ 1. เว็บไซต์ www.epayment.go.th 2. Call Center 3 หน่วยงาน ได้แก่ ทีมไทยนิยม ยั่งยืน กระทรวงมหาดไทย โทร. 02 6298306-14 ต่อ 503 และ 504 กรมบัญชีกลาง โทร. 02 1092345 และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง โทร. 02 2739020 ต่อ 3224 3279 3244 3236 3256 และ 3215 และ 3.การติดประกาศในพื้นที่ของทีมไทยนิยม ยั่งยืน กระทรวงมหาดไทย
ส่วนการอุทธรณ์ผู้ที่ไม่ผ่านสิทธิ์สามารถแจ้งความประสงค์เพื่อขออุทธรณ์ได้ระหว่างวันที่ 16 – 30 พฤศจิกายน 2561 โดยสามารถตรวจสอบเหตุผลที่ไม่ผ่านสิทธิ์ได้จากช่องทางการตรวจสอบข้างต้นและยื่นอุทธรณ์ได้ที่หน่วยงานที่ไม่ผ่านสิทธิ์โดยตรง ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะประกาศผลการอุทธรณ์อีกครั้งช่วงกลางเดือนธันวาคม 2561
สำหรับสวัสดิการในบัตรฯ ประกอบด้วย วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นจากร้านธงฟ้าประชารัฐ 200-300 บาทต่อเดือน วงเงินค่าโดยสารรถเมล์หรือรถไฟฟ้า 500 บาทต่อเดือน วงเงินค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน วงเงินค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน และวงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าที่กระทรวงพลังงานกำหนด 45 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน ซึ่งบัตรฯ จะช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพให้ผู้มีรายได้น้อยและช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตได้.-สำนักข่าวไทย