ก.อุตฯจับมือญี่ปุ่นยกระดับอุตสาหกรรมอาหาร

กรุงเทพฯ 12 พ.ย.- ก.อุตฯ เตรียมเปิด “มิเอะ-ไทยแลนด์ อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์ ” ต่อยอดอุตฯอาหารไทยสู่ฐานการผลิตเทคโนโลยีขั้นสูงระดับโลก


 

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมมือกับจังหวัดมิเอะ ประเทศญี่ปุ่น เปิดศูนย์นวัตกรรม “มิเอะ-ไทยแลนด์ อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์ ” (Mie- Thailand Innovation Center) ศูนย์ยกระดับอุตสาหกรรมอาหารไทยให้เป็นผู้นำสู่ระดับสากลด้วยเทคโนโลยีการผลิตระดับสูง ผ่านแนวทางในการขับเคลื่อน  3 ด้าน ได้แก่ 1.การถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมการแปรรูปอาหาร 2. การพัฒนาบุคลากร และ 3. การพัฒนาเครือข่ายผู้ประกอบการ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของภาคการผลิต ทั้งในด้านคุณภาพและมาตรฐาน และการสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยนวัตกรรมควบคู่ไปกับการขยายโอกาสทางการตลาดในประเทศให้กว้างขึ้นไปสู่ระดับโลกอีกด้วยและนวัตกรรม โดยศูนย์มีกำหนดเปิดวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้ที่สถาบันอาหาร ถนนอรุณอมรินทร์ กรุงเทพ โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดศูนย์ฯ


ทั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากที่กระทรวงอุตสาหกรรมและสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือกับจังหวัดมิเอะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรม และเทคโนโลยีการผลิตระดับสูง รวมทั้งการวิจัยและพัฒนา ด้านเกษตรอาหาร เทคโนโลยีชีวภาพ การปรับปรุงพันธุ์ และบริการทดสอบทางวิทยาศาสตร์ 

สำหรับศูนย์นวัตกรรม “มิเอะ-ไทยแลนด์ อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์ ” (Mie- Thailand Innovation Center) มีวัตถุประสงค์ในการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมการแปรรูปอาหาร เพื่อขับเคลื่อนยกระดับอุตสาหกรรมอาหารไทยให้เป็นผู้นำได้ในระดับสากล พร้อมสนับสนุนการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการผลิตมาผนวกกับเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยปฏิรูปอุตสาหกรรมอาหารทั้งระบบ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของภาคการผลิต ทั้งในด้านคุณภาพและมาตรฐาน และการสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยนวัตกรรมควบคู่ไปกับการขยายโอกาสทางการตลาดในประเทศให้กว้างขึ้นไปสู่ระดับโลก

สำหรับแนวทางการขับเคลื่อนศูนย์นวัตกรรมดังกล่าว กระทรวงอุตสาหกรรมเตรียม 3 กรอบการดำเนินงานที่สำคัญไว้เพื่อขับเคลื่อนยกระดับภาคอุตสาหกรรมและการส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างอุตสาหกรรมทั้ง 2 ฝ่าย ได้แก่


1. การถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมการแปรรูปอาหาร ประกอบไปด้วยการจัดกิจกรรมสัมมนา เวิร์คช็อป (Workshop) มุ่งเน้นการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีการแปรรูปอาหารของบริษัทจากจังหวัดมิเอะ การทำวิจัยและทำต้นแบบผลิตภัณฑ์แปรรูปอาหารเพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ ผลักดัน SMEs ให้มีศักยภาพด้านเทคโนโลยีนวัตกรรมมากขึ้น นอกจากนี้ ยังนำร่องมุ่งเน้นใน 2 พื้นที่ ที่มีศักยภาพ คือ จังหวัดสงขลา เป็นศูนย์กลางในการแปรรูปอาหารในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารทะเลหรือของสด ให้กับ 14 จังหวัดภาคใต้ และ จังหวัดเชียงใหม่ จะต่อยอดการดำเนินงานยุทธศาสตร์ Northern Food Valley ในพื้นที่ภาคเหนือ ผ่านโครงการร่วมมือ เช่น Lanna Matsusaka Beef โดยอาศัยจุดเด่นของจังหวัดมิเอะที่มีชื่อเสียงในเรื่องของเนื้อ Matsusaka ให้ถ่ายทอดพันธ์เนื้อมาต่อยอดการเลี้ยงวัวในภาคเหนือ รวมถึงโครงการ Medical and Bio-Technology การถ่ายทอดเทคโนโลยีการสกัดสมุนไพรจากพืชชนิดต่างๆ และ ความร่วมมือเพื่อการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และวัฒนธรรม ระหว่างจังหวัดเชียงใหม่กับจังหวัดมิเอะ ซึ่งจังหวัดทั้ง 2 มีจุดแข็งในด้านเดียวกัน

2. การพัฒนาบุคลากร ผ่านการพัฒนาหลักสูตรของ Mie Industry and Enterprise Support Center (MIESC) ซึ่งเป็นหลักสูตรการสร้างบุคลากรในระดับ “Leader” ของผู้ประกอบการ SMEs ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างบุคลากรที่จะเข้ามาลดช่องว่างของกลุ่มแรงงานและผู้บริหาร เป็นหลักสูตรที่ได้รับผลตอบรับที่ดีมากจากบริษัทในจังหวัดมิเอะ ซึ่งจะมีการปรับหลักสูตรการฝึกอบรมให้ตรงต่อความต้องการของผู้ประกอบการไทย และให้มีเนื้อหาการฝึกอบรมที่เหมาะสมต่อวัฒนธรรมของประเทศไทย จากนั้นจะมีการกำหนดแผนการฝึกอบรมที่เป็นรูปธรรมร่วมกัน โดยได้คาดหวังว่าหลักสูตรนี้จะช่วยยกระดับให้กับภาคอุตสาหกรรมในประเทศ

3. การพัฒนาเครือข่ายผู้ประกอบการ (Business Networking) มุ่งหมายให้เกิดความร่วมมือระหว่างกัน เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมและเกิดประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่ายต่อไปในอนาคต ซึ่งจะช่วยให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ ของประเทศไทยเติบโตได้ในระยะยาว

นายยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวว่า ได้ร่วมมือกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และจังหวัดมิเอะ ในการผลักดันผู้ประกอบการเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตด้วยนวัตกรรม และการวิจัยและพัฒนาเพื่อสรรค์สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ควบคู่ไปกับการขยายโอกาสทางการตลาดในประเทศให้กว้างขึ้น โดยทั้งไทยและญี่ปุ่นได้ต่อยอดความร่วมมือที่ผ่านมาได้แก่ การวิจัยเกี่ยวกับ Thai snack จากข้าวหอมมะลิไทยที่มีลักษณะของการวิจัยเพื่อการผลิตสินค้าเชิงพาณิชย์ และการบริการในการทำตัวอย่างสินค้าให้กับกลุ่มผู้ประกอบการที่เป็น Start Up ที่ต้องการผลิตเพื่อทดลองสินค้าและตลาด พร้อมทั้งการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการแปรรูปผลิตผลทางการเกษตรเป็นสินค้าอาหารเจ ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้บริโภคชาวไทย นอกจากนี้จะได้รับสิทธิประโยชน์การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็นเวลา  5 – 10 ปี ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดแล้ว ยังจะได้รับสิทธิเพิ่มเติมเป็นพิเศษ เช่น การลดหย่อนอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลร้อยละ 50 เป็นเวลา 5 ปี

ทั้งนี้ การจัดตั้งศูนย์นวัตกรรม “มิเอะ-ไทยแลนด์ อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์ ”  (Mie- Thailand Innovation Center) เป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือการที่จะช่วยยกระดับและพัฒนาบุคลากรในภาคอุตสาหกรรม สร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเข้าถึงเทคโนโลยี งานวิจัย และนวัตกรรมที่เหมาะสมที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการ และยกระดับอุตสาหกรรมอาหารของประเทศให้เป็นผู้นำได้ในระดับสากล และที่สำคัญคือการเชื่อมโยงสร้างเครือข่ายระหว่างภาคอุตสาหกรรมของทั้ง 2 ประเทศ ที่จะช่วยให้เกิดความร่วมมือที่ขยายวงไปในด้านการค้า การลงทุน รวมถึงการท่องเที่ยวระหว่างกัน ได้ต่อไปในอนาคต . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

เกาะติดทุกโหมดการเดินทางเทศกาลปีใหม่ 2568

เกาะติดทุกโหมดการเดินทางขาออกเทศกาลปีใหม่ 2568 ถนนทุกสาย และระบบขนส่งสาธารณะทุกโหมด มีประชาชนทะลักเดินทางตั้งแต่เย็นวานนี้ (27 ธ.ค.) ภาพรวมเป็นอย่างไร พูดคุยกับนายวิทยา ยาม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม.

หยุดยาววันแรก การจราจรขาออก กทม. มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่น

เริ่มหยุดยาววันแรก การจราจรบนท้องถนนขาออกกรุงเทพฯ มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่นตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ชะลอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ส่วนถนนพหลโยธิน ขาเข้าหนองแค รถเริ่มแน่น