ปัตตานี 11 พ.ย. – ปัตตานีเร่งฉีดป้องกันโรคหัด หลังมีเด็กเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 คน ทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตด้วยโรคนี้เฉพาะในอำเภอยะรัง รวมเป็น 4 คนแล้ว
สถานการณ์โรคหัดในจังหวัดปัตตานียังน่าเป็นห่วง ยังพบผู้ป่วยโรคหัดเสียชีวิตเพิ่ม เฉพาะพื้นที่อำเภอยะรัง มีถึง 4 คน ทำให้หลายฝ่ายตื่นตัว และเร่งฉีดวัคซีนให้กับผู้ป่วย ผู้ที่สัมผัสและผู้ที่ไม่ได้รับฉีดวัคซีนเลย แต่เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพและได้ผลต้องได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครอง ต้องยอมให้เด็กได้ฉีดวัคซีน เพื่อไม่ให้ต้องมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม หรือเป็นโรคหัดมากขึ้น
นายโอฬาร บิลสัน นายอำเภอยะรัง จ.ปัตตานี ได้ทำแผนนำ 4 เสาหลัก ประกอบด้วย กำนัน อีหม่าม นายก อบต. สาธารณสุข ปิดพื้นที่ปูพรมฉีดวัคซีน ในเด็กและสร้างความเข้าใจกับผู้ที่ไม่ยอมรับวัคซีนหัด โดยนำกำลังลงพื้นที่ตลอดทั้งวันจนถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน ด้วยวิธีเคาะประตูบ้าน และ 4 เสาหลักช่วยพูด เนื่องจากชาวบ้านบางส่วนยังไม่เข้าใจ และเชื่อว่าวัคซีนมีเชื้อของโรคระบาด ซึ่งจริงๆ แล้วการฉีดวัคซีน สามารถทำได้ จุฬาราชมนตรีก็ยืนยันว่าทำได้ ซึ่งคงต้องใช้เวลาในการสร้างความเข้าใจจากกับประชาชน เชื่อว่าถ้ามีการฉีดวัคซีนทุกอย่างจะดีขึ้น
สำหรับในพื้นที่จังหวัด ที่อำเภอยะรัง มีผู้เสียชีวิต 4 คน อำเภอมายอ 1 คน ผู้ติดเชื้อในอำเภอยะรัง เป็นผู้ป่วยสะสม 165 คน ผู้ป่วยใหม่ 6 คน
โรคหัด เกิดจากเชื้อไวรัสรูบิโอลา พบมากในน้ำลายของผู้เป็นโรคหัด ติดต่อได้ง่ายและรวดเร็วมาก โดยการไอ จาม หายใจรดกัน หรือใช้สิ่งของร่วมกัน โรคหัดเกิดได้กับทุกอายุและพบบ่อยในเด็กที่อายุระหว่าง 2 -14 ปี แต่ไม่ค่อยพบในทารกที่อายุน้อยกว่า 6 – 8 เดือน เนื่องจากทารกเหล่านี้มีภูมิต้านทานที่ได้รับจากแม่ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ โรคนี้พบได้ตลอดปี ส่วนมากเกิดในช่วงฤดูหนาวจนถึงต้นฤดูร้อน โดยเฉพาะเดือนกุมภาพันธ์และเดือนสิงหาคม ผู้ที่ไม่เคยฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการระบาดของโรค นอกจากนี้ผู้ที่อาศัยอยู่รวมกันหนาแน่น หรือในศูนย์อพยพ วัด โรงเรียน ฯลฯ ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดการแพร่เชื้อโรคหัดได้.- สำนักข่าวไทย