กรุงเทพฯ 6 พ.ย.- ตำรวจ สภ.ตรัง เตรียมเสนอศาลอนุมัติหมายจับคนร้ายกราดยิงนักเที่ยวในสถานบันเทิงใน ต.ทับเที่ยง จ.ตรัง มีผู้บาดเจ็บหลายราย เสียชีวิต 1 ราย คาดชนวนเหตุทะเลาะวิวาท
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณี คนร้ายใช้อาวุธปืนยิง ในสถานบันเทิง พื้นที่ อ.เมือง จว.ตรัง เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและ เสียชีวิตจำนวน 1 ราย ว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเวลา 01.50 น. วันนี้(6 พ.ย.) มีคนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม. ยิงใส่กลุ่มคนที่มาเที่ยว สถานบันเทิงบริเวณถนนพัทลุง ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จว.ตรัง มีผู้บาดเจ็บหลายราย ผกก.สภ.เมืองตรัง และ พนักงานสอบสวน พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องจึงเดินทางไปตรวจสถานทีเกิดเหตุ พบปลอกกระสุนและหัวกระสุนจำนวนหนึ่ง พบผู้บาดเจ็บจำนวน 7 ราย ถูกยิงมีบาดแผลตามร่างกาย เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยเหลือและนำตัวส่ง รพ.ตรัง เพื่อรักษาตัว โดยคนร้ายที่ก่อเหตุได้หลบหนีไป ต่อมานายสิริพงศ์ หรือหนึ่ง แต้มประสิทธิ์ อายุ 22 ปี ทนพิษบาดแผลไม่ไหวและได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และออกสืบสวนหาข่าวเส้นทางการหลบหนีของคนร้ายเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปขณะนี้การสืบสวนสอบสวนในเบื้องต้นทราบตัวคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานและยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อออกหมายจับ โดยข้อสันนิษฐานเบื้องต้นคาดว่ามาจากการทะเลาะวิวาทแต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้งไป
รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า คดีนี้อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนขณะนี้พนักสอบสวนได้สอบปากคำพยานไปแล้วจำนวนหนึ่ง ในส่วนของหลักฐานทางคดีต้องรอผลการชันสูตรพลิกศพจากแพทย์ ผลการตรวจจากพิสูจน์หลักฐานมาประกอบคดี พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้เร่งสืบสวนสอบสวนและติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว เพราะถือว่าเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ สร้างความตื่นตระหนกให้แก่พี่น้องประชาชน อีกทั้งฝ่ายป้องกันปราบปรามได้ร่วมกันออกตรวจตราในพื้นที่รับผิดชอบ สถานบริการ สถานที่ท่องเที่ยว และจุดล่อแหลมต่อการเกิดอาชญากรรมต่างๆ ทั้งผลัดกลางวันและกลางคืน โดยกำชับพนักงานสอบสวนให้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน ด้วยความรอบครอบ รวดเร็ว เป็นธรรม อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงกับผู้ที่ก่อเหตุเป็นสำคัญ พร้อม เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเร่งหาเบาะแส ติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน.-สำนักข่าวไทย