fbpx

ปัจจัยต่างประเทศกดดันหุ้นไทยร่วง 12.13 จุด

กรุงเทพฯ 18 ต.ค. – หุ้นไทยปรับตัวลง 12.13 จุด หลายปัจจัยต่างประเทศกดดัน  โบรกเกอร์ให้กรอบการเคลื่อนไหว 1,673-1,708 จุด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,682.91 จุด ลดลง 12.13 จุด หรือร้อยละ 0.72 มูลค่าการซื้อขาย 46,194.76 ล้านบาท  การซื้อขายหุ้นไทยวันนี้ (18 ต.ค.) ดัชนีเคลื่อนไหวแดนลบตลอดทั้งวัน โดยดัชนีสูงสุดของวันที่ระดับ 1,694.67 จุด และต่ำสุดที่ 1,681.24 จุด 

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AECS เปิดเผยว่า  ทิศทางการลงทุนในส่วนตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบ ๆ ให้แนวรับ  1,673 จุด และแนวต้าน 1,708 จุด โดยมองว่าภาพรวมของตลาดหุ้นไทยยังคงผันผวน เนื่องจากตัวแปรจากต่างประเทศที่เข้ามาเป็นตัวแปรที่สำคัญ ยังคงเป็นความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามค่าเงิน หลังสัปดาห์ที่ผ่านมาจีนใช้มาตรการลดการกันสำรอง เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในเศรษฐกิจและบรรเทาผลกระทบจากการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐ ส่งผลให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลงสร้างความไม่พอใจให้กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการลดยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐ


นอกจากนี้ ปัจจุบันนักลงทุนรอติดตามการประกาศรายชื่อประเทศที่เข้าข่ายถูกสงสัยว่าปั่นค่าเงิน ส่วนใหญ่เป็นประเทศในเอเชีย ซึ่งอาจจะตามมาด้วยการถูกสหรัฐใช้มาตรการทางการค้าที่รุนแรงขึ้น อีกทั้งเรื่องข้อพิพาทระหว่างสหรัฐ- ซาอุดิอาระเบียที่อาจลุกลามเป็นปัญหาทางเศรษฐกิจหลังผู้สื่อข่าวซาอุฯ ซึ่งเน้นเขียนวิจารณ์ผู้นำซาอุฯ หายตัวไป สุดท้ายเรื่องความคืบหน้าของแผนถอนตัวจาก BREXIT ระหว่างอังกฤษ และสหภาพยุโรป (อียู) ที่จะมีการเจรจารอบใหม่ หากทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่สามารถตกลงปัญหาบริเวณเขตตอนเหนือของอังกฤษในช่วงหลัง BREXIT ได้ อาจส่งผลให้อังกฤษอาจถูกบังคับให้ออกจากกลุ่มโดยไร้ข้อตกลง ซึ่งจะส่งผลเสียต่อทั้งอังกฤษและอียู

ด้านประเภทนักลงทุน สถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 603.47 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 23.67 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 3,149.05 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อย  ซื้อสุทธิ 3,776.19 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย