กรุงเทพฯ 10 ต.ค. – ทิพยประกันภัยเตรียมพร้อมรับการแข่งขันในยุค 4.0 มองธุรกิจประกันภัยช่วงนี้ถึงปลายปีทรงตัว
บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ถือฤกษ์ 09.29 น. วันที่ 10 เดือน 10 รัชสมัยรัชกาลที่ 10 เปิดที่ทำการสำนักงานใหญ่ ถนนพระราม 3 โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกเสด็จเป็นประธานในพิธีเปิด เดิมอาคารสำนักงานใหญ่ของบริษัท ทิพยประกันภัย ตั้งอยู่ที่ถนนพระราม 9 รั้วติดกับบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ต่อมาได้ย้ายไปที่ใหม่บริเวณถนนพระรามที่ 3
นายสมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การแข่งขันธุรกิจประกันภัยในยุคไทยแลนด์ 4.0 นั้น บริษัทต้องใช้เทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป มีคู่แข่งข้ามชาติมากขึ้น แต่ทางบริษัทเตรียมรับความเปลี่ยนแปลงนี้ไว้แล้วและทางทิพยประกันภัยจะต้องเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง ขณะเดียวกันยังมองว่าธุรกิจประกันภัยในช่วงนี้ถึงปลายปีจะยังทรงตัวหรือไม่เติบโตมากนัก แต่ในปี 2562 จะเติบโตกว่านี้อย่างแน่นอน โดยทิพยประกันภัยจะกระจายช่องทางการเข้าถึงของลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้น
สำหรับ บ.ทิพยประกันภัย ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494 ภายใต้ชื่อ บริษัท ประกันภัย เอเชียติ๊ก จำกัด โดยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ด้วยเงินลงทุนจำนวน 2,000,000 บาท มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นบริษัทประกันภัยแก่กิจการและสินทรัพย์ของบริษัทหลายแห่งที่จอมพลสฤษดิ์กำกับดูแลอยู่ในขณะนั้น ต่อมาปี 2507 ได้มีการโอนหุ้นบางส่วนของจอมพลสฤษดิ์ กับส่วนของท่านผู้หญิงวิจิตรา ธนะรัชต์ ไปเป็นของกระทรวงการคลัง กระทั่งปี 2518 ได้มีการโอนหุ้นบางส่วนให้กระทรวงการคลัง รวมจำนวนทั้งสิ้นร้อยละ 55.6 จึงส่งผลให้ทิพยประกันภัยมีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงการคลังตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ต่อมาปี 2537 คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้แปรรูปบริษัทจากการเป็นรัฐวิสาหกิจมาเป็นบริษัทมหาชน เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 7 จากนั้นนับตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2538 จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น “บริษัทมหาชน” อย่างสมบูรณ์ โดยมีกระทรวงการคลัง ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารออมสิน และการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่.-สำนักข่าวไทย