พรรคเพื่อไทย 3 ต.ค.-พรรคเพื่อไทยประชุมแก้ไขข้อบังคับพรรค คาดได้ความชัดเจนเรื่องหัวหน้าพรรค ขณะที่เสนาะเสียใจหลานย้ายไปพลังประชารัฐ
บรรยากาศการประชุมสามัญครั้งที่ 1 ของพรรคเพื่อไทย วันนี้(3 ต.ค.) เป็นไปอย่างคึกคัก มีแกนนำพรรคเดินทางเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ นายโภคิน พลกุล นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา นายนพดล ปัทมะและนายวรวัจน์ เอื้อภิญญากุล แต่เป็นที่น่าสังเกตุว่านายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ไม่ได้มาร่วมประชุมในวันนี้ด้วย
สำหรับวาระสำคัญที่ที่ประชุมพรรคเพื่อไทยจะพิจารณาคือการรับรองร่างแก้ไขข้อบังคับพรรค หลังจากผ่านการรับฟังความเห็นและปรับแก้มาแล้ว ซึ่งจะมีความชัดเจน 3 เรื่อง คือ คำประกาศอุดมการณ์พรรค คำประกาศเจตนารมณ์พรรค และกรอบนโยบายที่จะใช้ในการหาเสียง หากมีความชัดเจนก็จะสามารถประกาศได้ ในโอกาสนี้พรรคเพื่อไทยยังเปิดตัวสโลแกนที่จะใมช้ในการเลือกตั้งว่า “พรรคเพื่อไทย หัวใจประชาชน” ซึ่งเป็นสโลแกนที่พรรคไทยรักไทยเคยใช้และชนะการเลือกตั้งมาแล้ว
นายภูมิธรรม กล่าวถึงกรณีมีข่าวนายปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยจะมานั่งเป็นหัวหน้าพรรค ว่า นายปานปรีย์เป็นคนมีความรู้ความสามารถและเคยทำงานกับพรรค หลังจากนี้จะไปพูดคุยว่าสนใจรับตำแหน่งหรือไม่ เพราะยังไม่ได้อาสามาทำงานอย่างชัดเจน เช่นเดียวกับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ที่มีข่าวจะมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ทั้งหมดอยู่ที่การเสนอตัวของเจ้าตัวและการเสนอชื่อของสมาชิก ซึ่งบุคคลที่จะมาเป็นผู้นำพรรค ไม่ได้ผูกขาดว่าต้องเป็นคนในตระกูลชินวัตร
นายภูมิธรรม กล่าวถึงกรณีที่นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตแกนนำพรรคเพื่อไทย ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อธรรม ว่า ขอแสดงความยินดีและต้อนรับพรรคการเมืองใหม่ที่เกิดขึ้นอีกหนึ่งพรรค ซึ่งเป็นเรื่องดีที่จะทำให้เกิดความหลากหลาย แต่เชื่อว่าในส่วนของการส่งผู้สมัครไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อพรรคเพื่อไทย และระหว่างนี้ผู้สมัคร ส.ส.หลายคนกำลังพิจารณาดูความเหมาะสมที่จะเลือกลงสมัครกับพรรคที่ตนเองเชื่อว่าดีที่สุด
“สิ่งสำคัญคือการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นควรเสรี เป็นธรรมกับทุกฝ่าย รัฐบาลอย่าใช้ความได้เปรียบของตัวเองในทางการเมือง เหมือนที่ประชาชนกล่าวหาและรู้สึกว่าพรรคบางพรรคใช้ทำเนียบรัฐบาลเป็นที่ทำการพรรค เพราะตนไม่อยากให้ทำเนียบรัฐบาลถูกมองว่าถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง” นายภูมิธรรม กล่าว
ด้านนายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รู้สึกเสียใจที่นายฐานิสร์และนางตรีนุช เทียนทอง หลานชายและหลานสาวจะลงสมัครรับเลือกตั้งในสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งทั้งสองคนไม่ได้มาปรึกษาตนก่อน ทั้งนี้ ตนยังดูแลการเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว และจะส่งผู้สมัครแข่งขันในทุกพื้นที่ มั่นใจจะชนะในทุกเขต ส่วนบุตรชายทั้ง 2 คนยังอยู่กับพรรคเพื่อไทย.-สำนักข่าวไทย
