ฝากขังสาวจยย.รับจ้างขนเสื้อ”สหพันธรัฐไท”แจกจ่ายสมาชิกเห็นต่างรัฐบาล

กรุงเทพฯ 12 ก.ย.- กองปราบคุมสาว จยย.รับจ้าง สมุทรปราการ ฝากขังหลังทหารส่งให้ดำเนินคดี กรณีขนเสื้อโปโล มีตราสัญลักษณ์ สหพันธรัฐไท จากประเทศเพื่อนบ้านแจกจ่ายให้เครือข่าย เจ้าตัวปฏิเสธไม่รู้เสื้อมีความหมายใด


จากกรณีที่พันเอกบุรินทร์ ทองประไพ นายทหารปฏิบัติการประจำกองบัญชาการกองทัพบก ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานด้านกฎหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. นำตัว นางวรรณภา (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามาส่งมอบให้ กองปราบปราม ดำเนินคดีในฐานความผิดอั้งยี่ และยุยงปลุกปั่น ให้เกิดความแตกแยก  หลังจากที่เจ้าหน้าที่การข่าวทหารสืบทราบว่า นางวรรณภา มีการขนเสื้อโปโลสีดำที่มีแถบป้ายสีขาวแดงที่มีความหมายเชิงสัญลักษณ์แบ่งแยกการปกครอง “สหพันธรัฐไท” บริเวณหน้าอกจำนวนหนึ่ง มาจากประเทศเพื่อนบ้านและมีการแจกจ่ายให้กับกลุ่มคนที่มีความคิดเห็นทางการเมืองตรงข้ามกับรัฐบาล โดยเจ้าหน้าที่ทหารจับกุมนางวรรณภา พร้อมของกลางเป็นเสื้อโปโลดังกล่าวจำนวนหนึ่ง จากห้องพักในจังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 6 กันยายน และนำไปสอบสวนในหน่วยงานทหาร ก่อนจะนำมาส่งตัวให้กองปราบปรามดำเนินคดีวานนี้

โดยวันนี้ ตำรวจกองปราบปราม ได้มีการเบิกตัวนางวรรณภา ออกจากห้องคุมขัง เพื่อนำมาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลใดๆกับสื่อมวลชนในขณะนี้ 


ภายหลังการสอบปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมง ตำรวจกองปราบได้คุมตัวนางวรรณภา เดินทางไปขออำนาจศาลอาญารัชดาฝากขังทันที

นางสาวภาวิณี ชุมศรี ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษย์ชน ระบุว่าเบื้องต้น ลูกความยังคงให้การปฏิเสธ และยืนยันว่าได้รับคำสั่งจากมารดา ให้นำเสื้อมาส่งตามจุดนัดพบ โดยไม่ได้มีการร่วมเคลื่อนไหวทางการเมือง หรือรู้เห็นเกี่ยวกับสัญลักษณ์ของเสื้อดังกล่าว และไม่รู้ว่ามีความหมายว่าอะไร รวมถึงไม่ทราบว่ามารดาร่วมเคลื่อนไหวตามที่เจ้าหน้าที่ได้มีการแจ้งภายหลังจับกุม ซึ่งในวันนี้ได้เตรียมหลักทรัพย์ เป็นเงินสดจำนวน 1.5 แสนบาท เพื่อเตรียมไว้ประกันตัวนางวรรณภา ซึ่งเป็นเงินจากกองทุนช่วยเหลือนักโทษการเมือง และหวังว่าศาลจะพิจาณาและอนุญาตให้ลูกความได้ประกันตัวเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์

สำหรับคดีนี้มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารได้มีข้อมูลการสืบสวนทางการข่าวว่ามีการรวมกลุ่มจัดตั้งสหพันธรัฐไท โดยมีฐานที่มั่นอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีลุงสนามหลวงเป็นแกนนำในการจัดตั้ง แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ โดยมีการผลิตเสื้อสีดำ ติดธงขาวแดง ซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์ ของกลุ่มสหพันธรัฐ ในประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนนำเข้ามาแจกจ่ายให้กับกลุ่มสมาชิกที่มีแนวคิดเดียวกันสวมใส่ โดยมีนางวรรณภา ทำหน้าที่เป็นผู้ลักลอบนำเสื้อดังกล่าวจำนวน 400 ตัว จากตะเข็บชายแดนมาแจกจ่ายให้สมาชิก และก่อนหน้านี้ได้มีการดำเนินการจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้ว 3 ราย ซึ่งได้มีการแจ้งข้อหา และส่งศาลดำเนินคดีไปแล้วก่อนหน้านี้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

จับหนุ่มอินเดียขนเงินกว่า 15 ล้านบาท เข้าไทย

หนุ่มอินเดียหอบเงินสด 15.7 ล้านบาท เดินเท้าจากปอยเปตเข้าไทย อ้างเล่นพนันได้ เจ้าหน้าที่เร่งขยายผล หวั่นพัวพันคอลเซ็นเตอร์

โฆษกรัฐบาล นำบุกร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า แต่ไหวตัวทันไม่เจออะไร

โฆษกรัฐบาล นำ สคบ.-สธ. บุกร้านลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าย่านสายไหม หลังได้รายงานลับ แต่ร้านไหวตัวทัน ปิดหนีหมดไม่เจออะไร เตรียมเสนอนายกฯ ตั้ง กก.ปราบจริงจัง เผยตัวเลขขายปีละ 5 พันล้าน อ้างเป็นสินค้าผ่านแดน แต่ปล่อยหลุดเข้าไทย

รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย เอี่ยวฟอกเงินหลอกลงทุนคริปโต

ตำรวจไซเบอร์รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย กินหรูอยู่สบาย เอี่ยวฟอกเงินขบวนการหลอกลงทุนคริปโต พบเกี่ยวพันอีก 28 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน