กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – GPSC ยืนยันการเข้าซื้อหุ้น GLOW ไม่ส่งผลผูกขาดธุรกิจไฟฟ้า พร้อมเร่งเดินหน้าชี้แจง ย้ำสัญญาซื้อขายคงเดิม ดูแลลูกค้าอย่างเป็นธรรม ทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และสร้างเสถียรภาพพลังงานกับภาคอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศ
นายเติมชัย บุนนาค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เปิดเผยกรณีที่มีการท้วงติง GPSC เกี่ยวกับการเข้าซื้อหุ้นใน บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) หรือ GLOW ว่า วัตถุประสงค์สำคัญของการผนึกกำลังร่วมกับ GLOW ในครั้งนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสร้างเสถียรภาพด้านไฟฟ้าให้กับผู้ลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และพื้นที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ขณะเดียวกันช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานส่งผลดีทั้งต่อลูกค้า และ GPSC เอง
“GPSC มุ่งเน้นการทำธุรกิจโดยให้ความสำคัญกับการสร้างความมั่นคงและพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการด้านพลังงานของประเทศ ซึ่งทุกขั้นตอนการดำเนินงานจะต้องมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้และตั้งอยู่บนพื้นฐานด้านจริยธรรมของการทำธุรกิจ โดยพิสูจน์ได้จากผลตอบรับที่ดีของผู้ถือหุ้นต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ รวมถึงลูกค้าที่อยู่นอกกลุ่ม ปตท. ซึ่งคิดเป็น 49 % ต่างให้ความไว้วางใจใช้บริการและให้คะแนนความพึงพอใจในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง” นายเติมชัย กล่าว
นายเติมชัย กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีข้อกังวลจากลูกค้าบางส่วนของ GLOW นั้น ทาง GPSC ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยที่ผ่านมาได้เร่งนัดหมายเพื่อชี้แจงสร้างความเข้าใจว่าการเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้ลูกค้า GLOW จะไม่ได้รับผลกระทบ โดยเงื่อนไข สัญญาราคาและการบริการลูกค้าทุกราย จะยังคงดำเนินการภายใต้กรอบสัญญาเดิมทุกประการ เพราะธรรมชาติของธุรกิจไฟฟ้าจะเป็นสัญญาระยะยาว มีการระบุถึงราคา ปริมาณซื้อขายที่ชัดเจน ส่วนการกำหนดราคาซื้อขายจะเป็นไปตามราคาตลาด หรือบนพื้นฐานของ Arm’s Length Basis ทั้งนี้สัญญาของลูกค้า GLOW ที่มีอยู่เฉลี่ยมีระยะเวลามากกว่า 10 ปี
นอกจากนี้ GPSC จะมีการเตรียมจัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมกับลูกค้า เพื่อลดข้อกังวลและให้ความมั่นใจว่า จะไม่ให้มีการบริการใด ๆ ในลักษณะที่เป็นการเลือกปฏิบัติ โดยไม่เป็นธรรมต่อลูกค้า อีกทั้งยังมี คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะหน่วยงานกลาง ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจไฟฟ้าคอยตรวจสอบและกำกับการดำเนินการต่าง ๆ เพื่อให้ความมั่นใจอีกชั้นหนึ่งว่า การดำเนินธุรกิจไฟฟ้าถูกต้อง เป็นธรรม และไม่เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบทางธุรกิจ ซึ่งทั้ง GPSC และ GLOW ได้มีการให้ข้อมูลกับ กกพ.เพื่อประกอบในการพิจารณาเรียบร้อยแล้ว
“ส่วนข้อกังวลที่ว่าการเข้าซื้อ GLOW ของ GPSC ทำให้เกิดการผูกขาดของกลุ่ม ปตท.ในพื้นที่มาบตาพุดนั้น ขอชี้แจงว่า GPSC เป็นบริษัทเอกชนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งมีกฎระเบียบข้อบังคับที่เข้มงวด อีกทั้ง GPSC มีการดำเนินธุรกิจที่เป็นเอกเทศชัดเจน ดังนั้น การบริการซื้อขายไฟฟ้าและไอน้ำให้กับบริษัทในกลุ่ม ปตท.อยู่ภายใต้ข้อกำหนดและมาตรฐานเทียบเท่ากันกับลูกค้านอกกลุ่ม ปตท.” นายเติมชัย กล่าว
นอกจากนี้ สถานการณ์ธุรกิจไฟฟ้าของไทยปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลง โดยภาครัฐตามนโยบายของกระทรวงพลังงานเปิดเสรีให้เอกชนสามารถเข้ามาแข่งขันกันได้มากขึ้น โดยเฉพาะการเปิดเสรีนำเข้าก๊าซ LNG เห็นได้จากการให้ข่าวของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าหลักของประเทศจะเริ่มทดลองนำเข้า LNG ในเดือนตุลาคมนี้ เช่นเดียวกับเอกชนรายอื่น ๆ ก็เตรียมนำเข้าเช่นเดียวกัน.-สำนักข่าวไทย