กทม.10 ก.ย.- หนุ่มศรีสะเกษ โร่งพึ่งกองปราบ อ้างถูกตำรวจ สภ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีษะเกษ บุกบ้าน ใช้ปืนยิงก่อนจับ แล้วสร้างหลักฐานเท็จ
นายจักรพงศ์ อยู่แย้มศรี พร้อมทนายความ เข้าแจ้งความกับตำรวจกองปราบว่าถูกตำรวจ สภ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ เข้าจับกุมและยิงบ้านพักพร้อมสร้างหลักฐานเท็จ
นายจักรพงศ์ เล่าว่า เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 ถูกตำรวจ สภ.อุทุมพรพิสัย ไม่ต่ำกว่า 2 นาย เข้ามาจับกุมตนที่บ้าน อ้างว่าได้รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาท ซึ่งตอนนั้นตนพักผ่อนอยู่ในบ้าน และตกใจเมื่อเห็นตำรวจมา เลยหยิบมีดอีโต้ ไว้ป้องกันตัว พอเดินไปหน้าบ้านก็ถูกตำรวจนายหนึ่งใช้อาวุธปืนยิง 4 นัด เข้าลำตัวก่อนจับกุม พอถึงโรงพยาบาลตำรวจแจ้งกับทางโรงพยาบาลที่รับคนเจ็บไปรักษาว่า กำลังตรวจค้นยาเสพติด นายจักรพงศ์ ขัดขืนพยายามใช้มีดแทง ตำรวจจึงใช้ปืนยิงไป 1 นัด เมื่อแพทย์ทำการตรวจรักษาพบรูกระสุนเข้าจำนวน 4 จุดคือ หน้าท้องด้านซ้าย ขาหนีบด้านซ้าย ก้นด้านซ้ายและก้นด้านขวา ซึ่งขัดแย้งกับสิ่งที่ตำรวจแจ้ง ขณะรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ตำรวจได้ให้ตนเซ็นรับสารภาพโดยอ้างว่าเป็นคดีแค่เสียค่าปรับ แต่เมื่อมาตรวจสอบภายหลังกลับพบว่าตำรวจได้แจ้งข้อหาขัดขืนเจ้าพนักงานและพยายามทำร้ายเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีอัตราโทษสูง แต่เมื่อผู้เสียหายเซ็นรับก็ไม่มีการดำเนินคดี ประกันตัว หรือการฝากขังโดยปล่อยตัวกลับบ้านตามปกติ ตนและทนายความเห็นว่ามีข้อพิรุธและเกิดความไม่เป็นธรรมกับตน จึงมาร้องทุกข์กับตำรวจกองปราบให้ตรวจสอบและดำเนินคดีกับตำรวจ สภ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ในข้อหาร่วมกกันสร้างพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ, แจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญา และปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ผู้เสียหาย ยอมรับว่าวันเกิดเหตุ มีการทะเลาะกับมารดาจริง เรื่องยืมรถจักรยานยนต์แต่ไม่นาน พร้อมยืนยันว่าตนไม่เคยมีความขัดแย้งกับตำรวจไม่ว่ากรณีใดและไม่ทราบสาเหตุที่ตำรวจมาถึงบ้านและยิงตนก่อนจับกุม .-สำนักข่าวไทย