พ่อเลี้ยงยันไม่ได้ข่มขืนลูกเลี้ยง -ทำแผนหวิดถูกรุมยำ

กทม.8 ก.ย.-  พ่อเลี้ยงยันไม่ได้ข่มขืนลูกเลี้ยง รับกินเหล้าเสพยาก่อนไปเตือนแล้วมีปากเสียงลามถึงทำร้ายจนตาย ขณะทำแผนหวิดถูกรุมยำ 


ภายหลังตำรวจ สน.ตลาดพลู คุมตัวนายทศพล พรหมชาติ หรือแทน พ่อเลี้ยงเด็กสาวอายุ 19 ปีที่เสียชีวิต ไปตรวจดีเอ็นเอที่โรงพยาบาล แล้วนำตัวกลับมาที่ สน.ตลาดพลู เพื่อเซ็นรับทราบข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพยายามข่มขืนกระทำชำเรา โดยเซ็นต่อหน้าภรรยา กรณีของนายทศพล เป็นการเรียกตัวมาสอบปากคำในฐานะผู้ต้องสงสัย แล้วมีหลักฐานว่ากระทำความผิด จึงแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งเป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 134 และเมื่อได้แจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ถ้าผู้ต้องหาไม่ใช่ผู้ถูกจับและยังไม่ได้มีการออกหมายจับ แต่พนักงานสอบสวนเห็นว่ามีเหตุที่จะออกหมายขังผู้นั้นได้ตามมาตรา 71 พนักงานสอบสวนมีอำนาจสั่งให้ผู้ต้องหาไปศาลเพื่อขอออกหมายขัง  พนักงานสอบสวนจึงคุมตัวนายทศพลไปขออำนาจศาลอาญาธนบุรีออกหมายขัง

พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 ระบุว่า มีพยานหลักฐานครบถ้วน รวมถึงคำให้การของนายทศพลว่าลงมือฆ่าลูกเลี้ยงจริง โดยบอกว่าเดินทางจากบ้านพักย่านลาดพร้าว มาบ้านที่เกิดเหตุเพื่อเอาของมาเก็บ และเห็นห้องของผู้ตายยังเปิดไฟอยู่ จึงขึ้นไปตักเตือน ยอมรับว่าดื่มสุราและเสพยาเสพติด เห็นผู้ตายแต่งตัวไม่เรียบร้อย จึงเกิดอารมณ์และพยายามจะข่มขืน แต่ผู้ตายต่อสู้ จึงบันดาลโทสะทำร้ายจนเสียชีวิต ส่วนผลตรวจดีเอ็นเอจากวัตถุพยานที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุ ที่ร่างกายผู้ตาย และชิ้นเนื้อที่อยู่ตามซอกเล็บ สอดคล้องกับบาดเเผลรอยขีดข่วนที่พบบริเวณลำคอ ลำตัวและแขน 2 ข้างของนายทศพล แต่รอผลตรวจอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะได้รับภายใน 7 วัน เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี ยืนยันว่าคดีนี้มีพยานหลักฐานสมบูรณ์พร้อมเอาผิดนายทศพล และถือเป็นความโชคดีที่นายทศพล รับสารภาพต่อหน้าภรรยา และยังไม่ทันได้หลบหนี


 ขณะที่นายทศพล ยอมรับกับทีมข่าวเพียงสั้นๆว่า เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ไม่ได้ข่มขืนเหยื่อ

ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายทศพล ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น เลขที่ 46 ภายในซอยเทอดไท 22 สถานที่เกิดเหตุฆาตกรรมเด็กสาวอายุ 19 และพื้นที่อื่นที่เกียวข้อง ระหว่างนั้นญาติๆ ฝ่ายผู้ตายพยายามจะเข้าทำร้ายผู้ต้องหาด้วยความโกรธแค้น เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องช่วยกันตัวและเกิดการชุลมุนเล็กน้อย ก่อนนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถกระบะออกจากที่เกิดเหตุทันที.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ