รถตู้ขอคมนาคมขยายอายุ-ปรับค่าโดยสารเพิ่ม

กรุงเทพฯ  5 ก.ย. – รถตู้ร่วมบริการ  ขสมก.บุกคมนาคมยื่นหนังสือขอขยายอายุออกไปอีก 5 ปี  และเพิ่มภาคสมัครใจหากต้องเปลี่ยนเป็นมินิบัส และขอปรับค่าโดยสารเพิ่มอีก 5 บาท/คน/เที่ยว เหตุต้นทุนเพิ่มขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (5 ก.ย.) ได้มีกลุ่มชมรมรถตู้โดยสารปรับอากาศร่วมบริการสาธารณะ หมวด 1 วิ่งให้บริการเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และรถหมวด 4 วิ่งให้บริการภายในจังหวัด  30 คน เข้ายื่นหนังสือต่อกระทรวงคมนาคม โดยมีข้อเรียกร้องหลายประเด็น 1.ขอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาขยายอายุรถจากหมดอายุ 10 ปี ออกไปอีก 5 ปี สำหรับรถตู้ที่จะหมดอายุสิ้นเดือน กันยายนนี้ 1,800 คัน 2.การเปลี่ยนรถตู้เป็นรถมินิบัสให้เป็นไปโดยความสมัครใจ และ 3.เสนอขอให้พิจารณาปรับราคาค่าโดยสารรถตู้โดยสารเพิ่มขึ้น ซึ่งการยื่นหนังสือครั้งนี้ได้มีนายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม เป็นผู้รับหนังสือ รวมถึงมีตัวแทนจากกรมการขนส่งทางบกเข้าร่วมประชุมหารือด้วย

นายเชิดชัย สนั่นศรีสาคร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ผู้ประกอบการรถตู้โดยสารร่วมองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้มายื่นหนังสือ เพื่อขอให้กระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางบกพิจารณาขยายอายุรถตู้จากหมดอายุ 10ปี ออกไปอีก 5 ปี เนื่องจากขณะนี้มีรถตู้ทยอยหมดอายุไปแล้ว ส่วนกรณีที่ภาครัฐระบุว่าหากรถตู้คันใดหมดอายุ 10 ปี  ในปี 2562 ให้เริ่มทยอยเปลี่ยนเป็นรถมินิบัสนั้น เรื่องนี้ทางกลุ่มผู้ประกอบการขอให้กระทรวงคมนาคมอนุโลมให้เป็นการเปลี่ยนโดยความสมัครใจมากกว่าบังคับ เนื่องจากผู้ประกอบการประสบปัญหาภาวะต้นทุนสูงขึ้น 

นอกจากนี้ ทางกลุ่มผู้ประกอบการรถตู้โดยสารต้องการให้ภาครัฐปรับค่าโดยสารเพิ่มขึ้นเฉลี่ยอีก 5 บาท/คน/เที่ยว ซึ่งการยื่นข้อเสนอครั้งนี้ทางกระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางบกจะนำไปพิจารณาและเสนอกลับมายังกระทรวงคมนาคมภายในเดือนตุลาคม ก่อนเสนอให้คณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลางพิจารณาต่อไป

ด้านนายเกรียงศักดิ์ ศรีบุญ ประธานชมรมรถตู้โดยสารปรับอากาศร่วมบริการสาธารณะหมวด 1 และ หมวด 4 กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องมายื่นขอให้กระทรวงคมนาคมช่วยเหลือ เนื่องจากรถตู้ทั้งระบบมีประมาณ 4,000-5,000 คัน เริ่มทยอยหมดอายุตั้งแต่ปี 2560 ประมาณ 300 คัน และปี 2561 จะหมดอายุอีก 1,800 คัน และปี 2562 ทยอยหมดอายุอีก 1,519 คัน หากไม่ให้ผู้ประกอบการรถตู้ขยายอายุจะส่งผลให้ผู้โดยสารได้รับผลกระทบ เนื่องจากขณะนี้การก่อสร้างรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑลยังก่อสร้างไม่เสร็จ ส่วนการให้เปลี่ยนรถจากรถตู้มาเป็นรถมินิบัส อยากให้รัฐกำหนดเป็นภาคสมัครใจมากกว่า เนื่องจากราคารถมินิบัสหากต่อใหม่จะอยู่ที่คันละ 2 ล้านบาท หากเป็นรถตู้ซื้อใหม่จะเฉลี่ยอยู่ที่คันละ 1.2 ล้านบาท

ส่วนกรณีที่อยากให้กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคมพิจารณาปรับค่าโดยสารเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5 บาท/คน/เที่ยว เนื่องจากเก็บค่าโดยสารอัตราเดิมมาตั้งแต่ปี 2549 ไม่ได้ปรับราคาเลย ประกอบกับภาครัฐให้ผู้ประกอบการถอดเบาะรถโดยสารออก 2 ที่นั่ง จากเดิมโดยสารได้ 15 ที่นั่ง เหลือเพียง 13 ที่นั่ง รวมถึงให้รถตู้โดยสารติดตั้งระบบจีพีเอส ซึ่งมีต้นทุนติดตั้งกว่า 8,000 บาท/คัน และมีค่ารายปีอีก 3,500 บาท รวมทั้งกำหนดให้มาตรวจสภาพรถปีละ 2 ครั้ง ส่งผลให้ต้นทุนสูงมาก ขณะที่ภาครัฐไม่ได้ให้ความช่วยเหลืออะไรเพิ่มเติม ซึ่งข้อเสนอต่าง ๆ หากไม่ได้รับการพิจารณาจะส่งผลให้รถตู้ที่หมดอายุปี 2561 จำนวน 1,800 คันหายไปจากระบบทันที ซึ่งจะส่งผลต่อผู้ใช้บริการแน่นอน.-สำนักข่าวไทย