17 ก.ย. – วานนี้ น้องทราย นักเรียนชั้น ม.5 ที่ถูกครูปาแก้วใส่หน้าได้ เข้าทำ MRI กล้ามเนื้อและเส้นประสาทเพื่อหาสาเหตุ ด้านผลสอบครูปาแก้วเบื้องต้นผิดวินัย ไม่ร้ายแรง
นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี นำนักเรียนชั้น ม.5 ที่ถูกครูพละขว้างแก้วใส่ จนได้รับผลกระทบถึงเส้น ประสาทใบหน้าจนเกิดอาการปากเบี้ยว ไม่สามารถหลับตาได้ เข้ารับการรักษาที่ รพ.ยันฮี เพื่อสแกนคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง (MRI) ตรวจดูกล้าม เนื้อว่ามีอาการกล้ามเนื้อฝ่อหรือกล้ามเนื้อบีบรัดเส้นประสาทหรือไม่ และวันนี้ (17 ก.ย.) จะตรวจคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อ (EMG) เพื่อดูการทำงานของเส้นประสาทคู่ที่ 7 บริเวณใบหน้าว่าขาดหรือไม่ จากนั้นทีมแพทย์สหสาขาจะร่วมกันประเมินอาการและวางแนวทางการรักษาโดยคาดว่าต้องใช้เวลาประมาณ 3 วัน จึงจะทราบสาเหตุที่แท้จริง
นพ.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รพ.ยันฮี ยอมรับว่าหนักใจ หากพบว่าเส้นประสาทขาด เนื่องจากการต่อเส้นประสาทที่ผ่านมา 1 เดือน ปลายประสาทเริ่มหดตัวแล้วทำให้ต่อได้ยากขึ้น แต่หากไม่ได้ผลก็จะใช้วิธีการรักษาด้วยการย้ายเส้นประสาทแทน ดังนั้นผู้ป่วยสามารถมีโอกาสหายแต่ต้องทราบสาเหตุก่อน
ด้านน้องทราย ยอมรับว่า รู้สึกกังวลต่อการรักษา แต่เชื่อมั่นในทีมแพทย์ ขณะนี้ยังมีอาการเจ็บบริเวณกกหูและแสบตา เนื่องจากอาการตาแห้ง พร้อมปฏิเสธกระแสข่าวมีเพื่อนนักเรียนออกมาโต้แย้งว่าไม่เป็นความจริง ยืนยันว่าครูพละ ตั้งใจปาแก้วมาที่ตน ส่วนเรื่องการย้ายโรงเรียนยังอยู่ระหว่างการพูดคุยในครอบครัว และก่อนหน้านี้ได้ไปพบอัยการเพื่อสอบปากคำ โดยมีเพื่อนในห้อง 2 คนจะมาเป็นพยานให้ เมื่อเจ้าหน้าที่โทรไปเพื่อขอให้เพื่อนทั้ง 2 มาเป็นพยาน แต่ทางโรงเรียนไม่อนุญาต ตนก็รู้สึกแปลกใจ
ขณะที่ความคืบหน้าผลสอบ นายไพฑูรย์ แกลงกระโทก อายุ 58 ปี ครูพลศึกษา ประจำชั้น ม.5/10 โรงเรียนโชคชัยสามัคคี อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา นั้น นายไพฑูรย์ ได้แอบเข้าพบหัวหน้าพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในคดี “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส” ก่อนถูกปล่อยตัวไป เนื่องจากเป็นข้าราชการครู มีความน่าเชื่อถือ และไม่มีพฤติกรรมหลบหนี หลังจากนี้ตำรวจจะได้สอบปากคำเด็กนักเรียนเพื่อนร่วมชั้นของผู้เสียหายอีก 32 คน โดยต้องสอบต่อหน้าพนักงานอัยการ และนักจิตวิทยา เนื่องจากเป็นเยาวชนอายุไม่ถึง 18 ปี คาดว่าจะแล้วเสร็จในสัปดาห์หน้า ก่อนสรุปสำนวนส่งอัยการฟ้องศาลตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป. -สำนักข่าวไทย